6 ประโยชน์ของขิง สมุนไพรซี้ดซ้าดประจำทุกครัวไทย

ในช่วงที่ผ่านมา มีการแชร์ข้อความกันในโลกโซเชียลที่ว่า การกินน้ำขิงอุ่นๆ จะช่วยป้องกันการติดเชื้อโรคโควิด-19 ได้ ทำให้ “ขิง” ขาดตลาดไปช่วงหนึ่งกันเลยทีเดียว 

และในที่สุด ได้มีแพทย์หลายสำนักออกมาชี้แจงว่า การกินน้ำขิงอุ่นๆ อย่างเดียวคงไม่สามารถต่อต้านการติดเชื้อโควิด-19 ได้ แต่การหลีกเลี่ยงการสัมผัส หรือรับสารคัดหลั่งของผู้ที่ติดเชื้อต่างหากที่จะป้องกันได้ดีที่สุด ด้วยการใส่หน้ากากผ้า หรือหน้ากากอนามัย การรักษาระยะห่างจากผู้อื่น และการล้างมือ

อย่างไรก็ตาม “ขิง” ถือเป็นยาสมุนไพรไทยที่คุณประโยชน์มากมาย ที่ได้รับการยอมรับมาอย่างยาวนาน ทั้งช่วยลดการอักเสบ ช่วยขับลม และช่วยลดน้ำตาลในเลือดได้อีกด้วย มาดู 6 คุณประโยชน์ของขิงกันว่า มีอะไรกันบ้าง

ข้อที่ 1 ลดอาการท้องอืด

หากคุณรู้สึกท้องอืดหรืออาหารไม่ย่อยให้จิบชาน้ำขิงหรือกินขิงสดจะทำให้คุณรู้ดีขึ้นเพราะขิงนั้นเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์ร้อนสามารถช่วยขับลมและกระตุ้นการทำงานของลำไส้ทำให้อาการท้องอืดบรรเทาลงได้

ข้อที่ 2 ช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้

ขิงสามารถบรรเทาอาการคลื่นไส้ได้ โดยชาวเอเชียนั้นมักจะใช้ขิงในการช่วยบรรเทาอาการเมารถ หรือเมาเรือนอกจากนี้ยังมีหลายการศึกษาพบว่าขิงสามารถช่วยป้องกันและบรรเทาอาการอาเจียนหลังจากการผ่าตัดและยังช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้และอาเจียนในผู้ป่วยที่เข้ารับเคมีบำบัดได้อีกด้วย

ข้อที่ 3 บรรเทาอาการปวดหัวจากไมเกรน

มีการศึกษาระบุว่า การรับประทานขิงตอนที่อาการไมเกรนใกล้กำเริบนั้น จะช่วยทำให้ความเจ็บปวดจากอาการไมเกรนลดลงได้ เพราะขิงจะไปช่วยสกัดการฮอร์โมนที่เกี่ยวกับการอักเสบได้ในระดับหนึ่งทีเดียว

ข้อที่ 4 รักษาอาการไขข้ออักเสบ

จากการศึกษาผู้ที่มีอาการข้อเข่าเสื่อ พบว่า การรักษาทางการ และการกินขิงเพิ่มเติม สามารถช่วยรักษาอาการไขข้ออักเสบ โดยพบว่าผู้ที่มีอาการของโรคข้อเข่าเสื่อมหรือโรครูมาตอยด์มีอาการลดลงเมื่อบริโภคขิงผงเป็นประจำทุกวัน

ข้อที่ 5 ช่วยลดน้ำตาลในเลือด

จากการวิจัยพบว่าขิงผงนั้นสามารถช่วยลดน้ำตาลในเลือดได้โดยเฉพาะกับผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่2แต่ก็ควรที่จะปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานขิงร่วมกับยาเพราะขิงอาจทำปฏิกิริยากับยาที่ใช้รักษาได้และควรติดตามผลระดับน้ำตาลอย่างใกล้ชิดเพราะหากรับประทานขิงมากเกินไปก็อาจจะทำให้ระดับอินซูลินลดลงมากเกินไปจนอยู่ในขีดอันตรายได้

ข้อที่ 6 ช่วยป้องกันมะเร็ง

การศึกษาในฝั่งตะวันตกยังพบว่าขิงมีคุณสมบัติในการช่วยต่อสู้กับโรคมะเร็งโดยมีการศึกษาพบว่าขิงช่วยทำให้เซลล์มะเร็งภายในรังไข่ตายเพราะในขิงมีสารเคมีธรรมชาติที่ไปช่วยกระตุ้นเอนไซม์กลูตาไธโนเอสทรานสเฟอรเรสซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระจึงช่วยป้องกันมะเร็งได้นอกจากนี้ยังพบว่าขิงช่วยลดอาการอักเสบในลำไส้ใหญ่ได้อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม แม้ขิงจะมีข้อดีมากมาย แต่ก็มีข้อควรระวัง เพราะขิงเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์ร้อน ถ้าหากรับประทานเข้าไปในปริมาณที่มากก็จะสามารถเยื่อบุภายในช่องปากเกิดการอักเสบจนเป็นอาการร้อนในได้ ดังนั้นไม่ควรรับประทานขิงมากจนเกินไปค่ะ

นอกจากนั้น ขิงยังมีคุณสมบัติ ยับยั้งการแข็งตัวของเลือด โดยการศึกษาหนึ่งในออสเตรเลียพบว่า ขิงนั้นมีสรรพคุณในการต้านการแข็งตัวของเลือดมากกว่ายาแอสไพริน ดังรั้น สถาบันสุขภาพของออสเตรเลียได้ออกคำเตือนให้งดการรับประทานขิงในขณะที่ใช้ยาละลายลิ่มเลือด เพราะจะทำให้เกิดความเสี่ยงในการเกิดอาการห้อเลือดหรืออาการเลือดออกได้