6 กิจการและกิจกรรมตามมาตรการผ่อนปรนมี ผล 3 พ.ค.​นี้

  • หาก14วันผ่านไป ตัวเลขผู้ป่วยเพิ่มเป็นตัวเลข2หลัก
  • ต้องทบทวนมาตรการผ่อนปรนใหม่ทั้งหมด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.30 น. ของวันที่ 30 เม.ย. 2563 ณ ตึกสันติไมตรี ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 (ศบค.) ทำเนียบรัฐบาล ได้มีการแถลงข่าวสถานการณ์การระบาดไวรัสโควิด 19 ประจำวัน โดยน.พ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค.​ กล่าวว่า มาตรการผ่อนปรน ประเภทกิจการและกิจกรรม มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 3 พ.ค. 2563 เป็นต้นไป แต่หากผ่านไป 14 วัน จำนวนตัวเลขผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้นเป็น 2 หลัก และ 3 หลัก ต้องยอมรับการกลับมาทบทวนใหม่ทั้งหมด ของมาตรการที่ได้ผ่อนปรนไป

สำหรับมาตรการผ่อนปรน ดังนี้

1.ตลาด แบ่งเป็น ตลาดสด ตลาดนัด ตลาดน้ำ ตลาดชุมชน ถนนคนเดิน แผงลอย

2.ร้านจำหน่ายอาหาร แบ่งเป็น ร้านอาหารทั่วไป ร้านเครื่องดื่ม ขนมหวาน ไอศกรีม (นอกห้าง)​ ร้านอาหารริมทาง รถเข็น หาบเร่

3.กิจการค้าปลีก-ส่ง แบ่งเป็น ซุปเปอร์มาเก็ต ร้านสะดวกซื้อบริเวณพื้นที่นั่ง-ยืนรับประทาน รถเร่หรือรถวิ่งขายสินค้าอุปโภคบริโภค ร้านค้าปลีกขนาดย่อม ร้านค้าปลีกชุมชน ร้านค้าปลีกธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม

4.กีฬา สันทนาการ แบ่งเป็น กิจกรรมในสวนสาธาณะ ได้แก่ เดินรำไทเก็ก สนามกีฬากลางแจ้งที่เป็นการออกกำลังกาย โดยไม่ได้เล่นเป็นทีมและไม่มีการแข่งขัน ได้แก่ เทนนิส ยิงปืน ยิงธนู จักรยาน กอล์ฟและสนามซ้อม

5 .ร้านตัดผม เสริมสวย เฉพาะตัด สระ ไดร์ผม

6.อื่นๆ ร้านตัดขนสัตว์ ร้านรับเลี้ยงรับฝากสัตว์.