51 ประเทศฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 แล้ว 54.3 ล้านโดส

  • ส่วนใหญ่เป็นประเทศร่ำรวยในอเมริกา ยุโรป ตะวันออกกลาง
  • สหรัฐฯนำโด่งฉีดแล้ว 17.2 ล้านโดส ตามด้วยจีน 15 ล้านโดส
  • ในอาเซียนมีเพียงสิงคโปร์-อินโดนีเซียเท่านั้นที่ฉีดแล้ว

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ณ วันที่ 21 ม.ค.นี้ ผู้คนทั่วโลกฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 แล้วกว่า 54.3 ล้านโดส ใน 51 ประเทศ หรือมีอัตราเฉลี่ยที่ฉีดวันละ 1.76 ล้านโดส โดยสหรัฐฯนำโด่ง ฉีดแล้ว 17.2 ล้านโดส

ทั้งนี้ สหรัฐฯเริ่มโครงการฉีดวัคซีนตั้งแต่เมื่อวันที่ 14 ธค.63 นำร่องให้กับกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ก่อน ล่าสุด สัปดาห์ที่ผ่านมา ฉีดไปแล้วถึง 17.2 ล้านโดส หรือเฉลี่ยวันละ 912,497 โดส ตามด้วยจีน ฉีดแล้ว 15 ล้านโดส สหภาพยุโรป 6.7 ล้านโดส สหราชอาณาจักร 5 ล้านโดส อิสราเอล 2.9 ล้านโดส สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 2.1 ล้านโดส ขณะที่รัสเซีย ซึ่งสามารถผลิตวัคซีนได้เอง ฉีดแล้ว 1.5 ล้านโดส เป็นต้น โดยประเทศที่ฉีดแล้วส่วนใหญ่อยู่ในทวีปอเมริกาเหนือ (สหรัฐฯ แคนาดา) ยุโรป ตะวันออกกลาง ส่วนในอาเซียน มีเพียงสิงคโปร์ และอินโดนีเซีย เท่านั้น โดยสิงคโปร์ ฉีดแล้ว 6,200 โดส และอินโดนีเซียน 21 โดส

อย่างไรก็ตาม ในช่วงแรก การฉีดวัคซีนของสหรัฐฯ ไม่เป็นไปตามคาดการณ์ของรัฐบาลกลาง เนื่องจากยังกระจายไปทั่วถึงทั้งรัฐ เพราะมีการฉีดเฉพาะที่โรงพยาบาล และศูนย์การแพทย์เท่านั้น แต่ในระยะต่อไป จะกระจายการฉีดไปยังร้านขายยา คลินิก ซึ่งโดยทั่วไปสามารถฉีดให้ประชาชนได้อยู่แล้ว ขณะที่ในบางรัฐ กำลังจะเปิดเปิดสวนสนุกและสนามกีฬา ให้เป็นสถานที่ฉีดวัคซีนด้วย

ส่วนความพยายามต่อไปของสหรัฐฯ จะเพิ่มกลุ่มของประชาชนที่จะได้รับการฉีดวัคซีนไปยังกลุ่มผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้น และเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไปที่มีอาการเจ็บป่วย ซึ่งจะทำให้ครอบคลุมจำนวนประชาชนมากถึง 1 ใน 3 ของประชากรสหรัฐฯ หรือมากกว่าจำนวนประชาชนที่ได้รับการฉีดวัคซีนไปแล้วในปัจจุบัน

วัคซีนของไฟเซอร์ และไบออนเทค ได้ผลิตและกระจายไปทั่วทวีปอเมริกาเหนือ ยุโรป และตะวันออกกลาง รวมแล้วอย่างน้อย 51 ประเทศทั่วโลก ส่วนวัคซีนของโมเดิร์นนา ของสหรัฐฯเช่นกัน พบว่า มีประสิทธิภาพในการลดการติดเชื้อโควิด-19 ได้มากถึง 95% ในการทดลองในอาสาสมัครหลายหมื่นคน ขณะที่วัคซีนของแอสตราเซเนกา ของมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดนั้น สหราชอาณาจักรได้อนุมัติให้ใช้กรณีฉุกเฉินตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค.63 สำหรับวัคซีนของประเทศอื่นๆ เช่น จีน รัสเซีย ซึ่งได้รับการอนุมัติจากทางการตั้งแต่ราวเดือนก.ค. และส.ค.63 ก่อนที่จะทดสอบอย่างสมบูรณ์แล้วเสร็จ จนถึงขณะนี้ ฉีดให้ประชาชนไปแล้วหลายล้านโดส