- ใช้หุ่นยนต์ช่วยในการดูแลผู้ป่วย
- การรักษาทางไกลแบ่งปันข้อมูลและเทคโนโลยี่การรักษา
- ซอฟแวร์ช่วยในการคัดกรองผู้ป่วย
ขณะที่ไวรัสโควิค-19กำลังระบาดอย่างรวดเร็วโดยมีผู้ติดเชื้อณวันที่24ก.พ. 2563สูงถึง79,360รายคนและมีผู้เสียชีวิตจากไวรัสชนิดนี้สูงถึง2,619คนขณะที่มีผู้รักษาหายจำนวน24,963คนนิตยสารเฮลท์เทค(HealthTech)รายงาน5เทคโนโลยีที่สามารถช่วยแพทย์ให้สามารถรับมือและตรวจสอบโรคนี้ได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น
“จีนได้นำนวัตกรรมเทคโนโลยีการดูแลสุขภาพมาใช้แล้วเนื่องจากความต้องการที่เติบโตอย่างรวดเร็วเพื่อการดูแลสุขภาพ” ดร. เจนนิเฟอร์ โบชัวร์ (Jennifer Bouey) , นักวิจัยนโยบายอาวุโส RAND, กล่าว.
“ เราได้มีการนำเอาเทคโนโลยี่มาใช้และแบ่งปันข้อมูลเพิ่มเติมได้เร็วขึ้นในระหว่างการระบาดของโรค และเจ้าหน้าที่มีแนวโน้มที่จะนำเอาเทคโนโลยี่เข้ามาใช้ในการดูแลผู้ป่วยมากขึ้น,” ดร.เรย์ คอสทันทินี (Ray Costantini), ผู้ร่วมก่อตั้งและ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารไบรท์ (Bright.md), แพลตฟอร์มการดูแลเสมือนจริง, กล่าว.
5 เทคโนโลยี่ที่ทั่วโลกนำมาใช้ในการต่อสู้กับไวรัสโควิค-19 ประกอบด้วย:
1.ประชุมลดความเสี่ยงด้วยการดูแลระยะไกล
เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาศูนย์การแพทย์ในกรุงเทเลวิซ ประเทศอิสราเอล ได้เปิดตัวโปรแกรม coronavirus telemedicine ที่จะแยกผู้ป่วยมารักษา รวมทั้งการกักผู้ป่วยจากการประชุมทางไกล ซึ่งโปรแกรมดังกล่าวจะนำมาใช้ในประเทศสหรัฐอเมริกา
ในขณะที่พนักงานชาวจีนหลายคนทำงานที่บ้านโดยใช้เครื่องมือทำงานทางไกลเช่น
สำนักข่าว CNBC รายงาน แพลตฟอร์ม “อาจจะเป็นประโยชน์มากในพื้นที่ที่ถูกกักกันเนื่องจากจะช่วยให้คนที่จะสื่อสารและลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ” ดร.เจนนิเฟอร์ กล่าว
ในประเทศจีนที่มหาวิทยาลัยเสฉวนได้อนุญาติให้ผู้ให้บริการทางการแพทย์ดำเนินการวินิจฉัยโรคจากไวรัสโควิค-19 จากการประชุมทางไกล ด้วยความช่วยเหลือของระบบ telehealth และความคิดริเริ่มนี้ได้ถูกขยายไปยังโรงพยาบาลอื่นๆ
2.หุ่นยนต์ให้ยืมมือช่วยเหลือผู้ป่วย
ในช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา แพทย์ที่โพรวิเดนซ์ศูนย์การแพทย์ระดับภูมิภาคในวอร์ชิงตัน สหรัฐอเมริกา ใช้หุ่นยนต์ที่จะใช้ vitals ของคนที่ติดเชื้อกับ stethoscope และสื่อสารผ่านหน้าจอในตัว รถเข็น telehealth ควบคุมด้วยรีโมทช่วยให้แพทย์สามารถดำเนินการวินิจฉัยขั้นพื้นฐานเช่น ระดับความดันโลหิตและอุณหภูมิ
“เทคโนโลยีที่ช่วยให้เราสามารถลดจำนวนการโต้ตอบที่ใกล้ชิด” ระหว่างผู้ป่วยจากไวรัสโควิค-19 กับบุคคลากรทางการแพทย์, ดร. เอมี่ คอมป์, ประธานเจ้าหน้าที่ด้านคลินิก, ให้สัมภาษณ์กับนิตยสารฟอร์บส์
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวจากจีนรายงานว่าในจีนได้มีการนำหุ่นยนต์ส่งอาหารและกำจัดขยะ รวมถึงพัฒนาหุ่นยนต์ที่ออกแบบมาเพื่อฆ่าเชื้อโรคโดยเปล่งรังสีอัลตราไวโอเลต C ใช้ในการฆ่าเชื้อห้องที่ต้องสงสัยว่ามีเชื้อไวรัสโควิค-19
3. ซอฟต์แวร์ระบุรูปแบบไวรัสโควิค-19 ในการบันทึกสุขภาพ
ในช่วงปลายเดือนมกราคม ได้มีการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่สามารถระบุรูปแบบของไวรัสโควิค-19 และบันทึกข้อมูลสุขภาพของผู้ป่วย เพื่อให้บุคคลากรทางการแพทย์ทำงานได้ง่ายขึ้น และสามารถจัดเก็บข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เป้าหมายของการพัฒนาซอฟต์แวร์ ดังกล่าว เพื่อให้แน่ใจว่าแพทย์และพนักงานทางการแพทย์อื่นๆ สอบถามผู้ป่วยเกี่ยวกับการเดินทางระหว่างประเทศล่าสุดและอาการที่เกี่ยวข้องที่อาจพร้อมท์ข้อควรระวังการแยกข้อมูล
การทดสอบคำสั่งและตรวจสอบคำถามภายในซอฟต์แวร์ EHR ที่เกี่ยวข้องของตน. “เทคโนโลยีและเครื่องมือจริงๆช่วยให้ได้รับข้อมูลจากผู้ป่วยและผู้ให้บริการได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น” ดร.เรย์ กล่าว
4. Chatbots ช่วยให้ความรู้สึกกลัวของผู้ป่วยจากไวรัสโควิค-19 ลดลง
บริษัทสุขภาพหลายคนได้ปรับปรุงอัลกอริธึมของพวกเขาเพื่อสร้าง chatbots ที่ช่วยให้ผู้ป่วยที่ไม่แน่ใจอาการของตัวเองสามารถที่จะ chat กับโรงพยาบาลหรือคลินิกเพื่อตรวจสอบอาการของตัวเองให้แน่ใจก่อนที่จะไปโรงพยาบาลหรือคลินิกเป็นการลดการเดินทางของผู้ป่วยที่จะไปโรงพยาบาลโดยไม่จำเป็น
แอปพลิเคชั่น การดูแลหลักตามความต้องการที่เรียกว่า 98point6 coronavirus การคัดกรอง chatbot ในเดือนมกราคมได้รับการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องในอัลกอริทึมที่มีการเปลี่ยนแปลงเฉพาะอาการตามสถิติ
Chatbots ที่ได้รับการสนับสนุน AI ยังมีปฏิสัมพันธ์กับประชาชนเพื่อตอบคำถามเกี่ยวกับโรคจากไวรัสโควิค-19 NCov WhatsApp ช่วยให้โต๊ะทำงาน chatbot โดยการสนทนาของบริษัท AI Haptik ได้รับการฝึกอบรมเพื่อตอบคำถามเกี่ยวกับไวรัสและให้ผู้ใช้กับข้อมูลทันเวลา.
5. เทคโนโลยีการสนับสนุนและดูแลผู้ป่วยจากไวรัสโควิค-19 ของ Afar
เทคโนโลยี่ดังกล่าวช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพสามารถที่จะตรวจสอบและดูแลผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิค-19 ได้อย่างรวดเร็ว โดยศูนย์คลินิกสาธารณสุขเซี่ยงไฮ้ใช้เซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิอย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยลดการแพร่กระจายของไวรัสโควิค-19 ในประเทศจีน เซนเซอร์จะถูกนำไปใช้กับผู้ป่วยและส่งข้อมูลแบบเรียลไทม์ไปยังผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ
นอกจากนี้เทคโนโลยีได้ถูกนำมาใช้โดยโรงพยาบาลอื่นๆ อีกสี่แห่งในประเทศจีน
