4 รัฐมนตรีเกษตร เข้ากระทรวงวันแรก “เฉลิมชัย”ชี้ต้องเร่งแก้ปัญหาฝนทิ้งช่วง โรคระบาดพืช-สัตว์ ลั่นได้เห็นราคายาง 65บาทต่อก.ก.ภายในปีนี้



  • “ประพัฒน์”เผย 3 รมช. ลงพื้นที่รับฟังสถานการณ์น้ำ19 ก.ค.นี้
  • “มนัญญา” ใช้ประสบการณ์ท้องถิ่นมาบริหาร
  • “ธรรมนัส”ขอล้างภาพ รมต.แบล็กลิสต์

ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่า เวลา 9.00 น. ของวันที 18 ก.ค. นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมวเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยรมช.เกษตรฯ 3 คน ประกอบด้วย นายประภัตร โพธสุธน ร้อยเอกธรรมนัส พงษ์เผ่า และนางมนัญญา ไชยเศรษฐ์ ได้เข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของกระทรวง 5จุด ได้แก่ พระภูมิชัยมงคล ท้าวเวสสุวรรณ ศาลตายาย และพระพิรุณทรงนาค ที่อยู่ด้านหน้ากระทรวงเกษตร และพระพิรุณทรงนาคที่ห้องพิพิธภัณฑ์ โดยมีปลัดกระทรวงแบะข้าราชการระดับสูงต้อนรับจำรวรม่ก หลังจากนั้นนายเฉลิมชัยได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนก่อนที่จะเดินนำรัฐมนตรีช่วยทั้ง 3 คนเดินดูห้องทำงานในปีกขวาของกระทรวง ซึ่งเป็นห้องทำงานของร้อยเอกธรรมนัส และนางมนัญญา ซึ่งก่อนหร้านี้มีข่าวว่าห้งทางปีกนี้มีขนาดเล็กกว่าปีขวาของนายประพัฒน์ จากนั้นรัฐมนตรีแต่ละคนได้เข้าประจำห้องของตนเองเพื่อรับกระเช้าแสดงความยินดีจากหัวหน้าหน่วยราชการและภาคเอกชนที่มาต่อแถวขอเข้าพบจำนวนมากแน่นพื้นที่ชั้นสองของกระทรวง ซึ่งเป็นชั้นห้องทำงานของรัฐมนตรีทั้ง 4คน

นายเฉลิมชัย เปิดเผยว่า งานของกระทรวงเกษตรเร่งด่วนตอนนี้ คือการบริหารจัดการน้ำเนื่องจากฝนทิ้งช่วง และดูแลเรื่องโรคระบาดพืชโรคระบาดสัตว์ เป็นเรื่องเร่งด่วนที่พวกตนจะต้องหารือในทุกมิติ เชื่อว่าจะขับเคลื่อนแผนงานได้พร้อมกันทั้งหมด แต่จะให้ความสำคัญในเรื่องการบริหารจัดการน้ำก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งคาดการณ์ไว้ว่าน้ำจะน้อย ต้องประชาสัมพันธ์ และเตรียมแผนรับมือ หาพืชน้ำน้อยมาทดแทนการปลูกข้าว ส่วนเรื่องน้ำแล้ง ตนยืนยันว่ายังไม่ถึงวิกฤตที่จะต้องประกาศภัยแล้ง และจะมีการส่งเสริมเรื่องการตลาดนำเกษตรกร ที่จะช่วยแก้ปัญหาราคา ได้ตามเป้าพร้อมสานต่อโครงการของรัฐมนตรีฯ คนเก่า

ส่วนเรื่องของการประกันราคาพืชผลยืนยันว่าจะทำตามที่รับปากตอนหาเสียงแน่นอน แต่ต้องรอเมื่อถึงเวลา ต้องมีมาตรการรองรับและทำตามขั้นตอน เพราะบางเรื่องต้องประสานกับกระทรวงพาณิชย์ด้วย คงทำอะไรไม่ได้เลยทันทีต้องเรียกประชุมทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ยืนยันจะทำเต็มที่ ไม่นานเกินรอ

ทั้งนี้ สำหรับเรื่องปัญหาค่าเงินบาทมีความผันผวนต้องประสานงานกับกระทรวงพาณิชย์ ในเรื่องการตลาดคาดว่าต้องใช้วิธีตลาดนำเกษตรกร จะได้ผลิตสินค้าให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค และเชื่อมั่นราคาสินค้าจะตรงกับเป้าหมายที่วางไว้ ส่วนโครงการไหนดีจะดำเนินการต่อเนื่อง เรื่องประกันราคาสินค้าต้องรอประสานงานกับกระทรวงพาณิชย์ แล้วถึงจะมีการดำเนินการอย่างเต็มรูปแบบ

“วันนี้ รู้สึกอบอุ่น และมีความสุข ที่ได้เจอกับรัฐมนตรีช่วยว่าการเกษตรฯ ทั้ง 3 คน รวมทั้งข้าราชการที่มากันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาในการทำงานวันแรก ส่วนประเด็นเรื่องการแย่งห้องทำงานนั้น ตนยืนยันว่า เรื่องห้องเป็นแค่ส่วนประกอบ เล็กน้อย เพราะทุกคนตั้งใจมาทำงาน ข่าวที่ออกมาเป็นเรื่องเข้าใจผิด สิ่งที่ต้องทำ คือทุ่มเททำงานให้ประชาชนมากที่สุด ส่วนราคายางพาราที่ กก.ละ 65 บาทจะทำให้เห็นภายในปีนี้

ด้านนายประภัตร โพธสุธน รมช. เกษตรฯ กล่าวว่า เรื่องเร่งด่วนตอนนี้คือการแก้ปัญหาน้ำ ซึ่งในวันที่ 19 ก.ค.นี้ รมช.เกษตรฯทั้ง 3คน จะเดินทางไปรับฟังรายงานสถานการณ์น้ำของเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ เพื่อดูปริมาณน้ำในปัจจุบัน จะได้บริหารจัดการและปันส่วนให้กับพื้นที่เพาะปลูกในลุ่มน้ำเจ้าพระยาโดยจะเชิญผู้เกี่ยวข้องในพื้นที่ 15 จังหวัดมาด้วย โดยขณะนี้จะต้องช่วยกัน รักษาให้ข้าวนาปีซึ่งปลูกครั้งแรกในปีนี้ไปรอดให้ได้ แล้วต้องดูว่าจะช่วยทำฝนหลวงเพิ่มเติมได้ไหม นอกจากนี้ จะประสานไปยังนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว. ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อเอาน้ำใต้ดินมาช่วยเกษตรกรด้วย วิธีการช่วยเหลือชาวนา ซึ่งปัจจุบันมีต้นทุนขั้นต่ำ 5,000 บาทต่อตัน แต่ผลผลิตที่ทำได้อยู่ที่ 600-800 กิโลกรัมต่อไร่ จึงจะต้องหาวิธีชดเชยส่วนต่างตรงนี้ แต่จะเรียกอะไรค่อยว่ากันอีกที ส่วนเรื่องบล็อกที่จะมากระทรวงเกษตรขอให้มาเลยพร้อมพูดคุยด้วยเสมอ

ด้านน.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ กล่าวว่า จะอาศัยประสบการณ์การทำงานในระดับท้องถิ่นที่ทำงานจริงๆมาตลอด 10 ปี ที่รู้รายละเอียดของความเดือดร้อนของเกษตรกร มั่นใจว่ารู้ปัญหาของเกษตรกร โดยจะนำปัญหาขึ้นมาหารือ เสนอต่อ รมว.เกษตรฯ เพื่อหาแนวทางในการแก้ปัญหา เน้นการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในภาคเกษตรมากขึ้น โดยขบวนการบริหารจัดการเป็นสิ่งสำคัญ ต้องแก้ไขปัญหาให้ถูกจุด คิดว่าจะนำรูปแบบการบริหารจัดงานในท้องที่ที่ประสบความสำเร็จมาบริหารในระดับประเทศต่อ ส่วนที่มีคนมองว่า 4 คน มาจาก 4 พรรค จะทำงานร่วมกันได้หรือไม่นั้น ส่วนตัวมองว่าจะช่วยทำให้การทำงานมีความหลากหลายมากขึ้น ทุกปัญหาทุกนโยบายจะต้องมีการหารือ ให้เกิดการแก้ปัญหาให้เกษตรกรอย่างแท้จริง เพื่อภาพรวมของประเทศ

ด้าน ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า การทำงานครั้งนี้จะต้องล้างภาพรัฐมนตรีแบล็คลิสต์ เพราะตัวเองมาจากดินเข้าใจสินค้าเกษตรดี ว่าเกษตรกรผลิตไม่มีที่ขายจึงต้องหาตลาดให้โดยตั้งใจทำทันที ส่วนการซักฟอกของฝ่ายค้านเตรียมรับมือไว้แล้วไม่กังวลใดๆ นอกจากนี้ ยังอยากได้ห้องทำงานใหม่ เนื่องจากห้องเล็ก โดยขณะนี้อยู่ห้อง 126 ชั่วคราว และเห็นว่าควรยุบห้อง 126 และ 125 รวมกันเป็นห้องเดียว เนื่องจากเล็กไปให้ รมช.มนัญญา เนื่องจากทีมงานจากอุทัยมีมาก ส่วนตนเองจะดูห้องใหม่ที่อยู่ด้านหลัง โดยจะให้ซินแสมาดูก่อน