- “ ออฟฟิศซินโดรม-เครียด-อ้วน”
- กรมการแพทย์แผนไทยฯ ชู
- ศาสตร์การแพทย์แผนไทย รักษาอาการ
นายแพทย์ขวัญชัย วิศิษฐานนท์ รองอธิบดีกรมแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า ในวันที่ 1 พฤษภาคม ของทุกปี คือวันแรงงานแห่งชาติ สำหรับแรงงานนั้นมีความสำคัญอย่างมากต่อการขับเคลื่อนประเทศ แต่ก็ประสบปัญญาทางสุขภาพที่มักเกิดขึ้นได้และเป็น 3 โรคยอดฮิตในวัยทำงาน คือ โรคออฟฟิศซินโดรม(Office Syndrome) โรคเครียด และ โรคอ้วน ในทางการแพทย์แผนไทยสามารถช่วยบรรเทาอาการได้ดังนี้ 1.โรคออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) ซึ่งมักเกิดจากการอยู่ในอิริยาบถเดิมเป็นเวลานาน ก็จะทำให้เกิดอาการดังกล่าวได้ สามารถบรรเทาด้วยการนวดรักษาและประคบสมุนไพร เพื่อกระตุ้นและปรับสมดุลของระบบการไหลเวียน ช่วยให้เลือดลมไหลเวียนได้สะดวก ช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว หรือใช้น้ำมันไพลหรือยาหม่องไพล ถูนวดเพื่อคลายกล้ามเนื้อ บรรเทาอาการปวด และอาการอักเสบ แต่ต้องใช้นวดหลังจากเกิดการอักเสบแล้ว 48 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมียาสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติ ที่มีฤทธิ์บรรเทาอาการปวด ลดการอักเสบของกล้ามเนื้อ คือ ยาเถาวัลย์เปรียง จากการศึกษาวิจัย พบว่า เถาวัลย์เปรียงสามารถลดอาการปวด และอาการอักเสบได้เช่นเดียวกับยาแก้อักเสบแผนปัจจุบัน ไม่ก่อให้เกิดความเป็นพิษต่อร่างกาย และไม่มีการเปลี่ยนแปลงของผลเลือดทางห้องปฏิบัติการ จึงสามารถนำยาเถาวัลย์เปรียงมาใช้รักษากลุ่มอาการปวดกล้ามเนื้อได้อย่างปลอดภัย
2.โรคเครียด ความเครียด มักส่งผลกระทบโดยตรงทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ทำให้เกิดอาการนอนไม่หลับ อาการวิงเวียนศีรษะ และ ความดันโลหิตสูงตามมาได้ ศาสตร์การแพทย์แผนไทย นิยมใช้กลิ่นหรือสุคนธบำบัดในการบรรเทาความตึงเครียดโดยเฉพาะสมุนไพรที่มีรสหอมเย็น เช่น มะลิ จำปี จำปา กระดังงา โดยนำสมุนไพรดังกล่าวมาวางไว้ที่ใกล้บริเวณที่นอน กลิ่นของสมุนไพรจะช่วยให้ผ่อนคลาย ปรับอารมณ์ให้เป็นปกติ และช่วยให้หลับสบายคลายจากความเครียดได้ หรือ การใช้ยาหอมเทพจิตร ชงดื่มก็จะช่วยบำรุงหัวใจ ช่วยแก้อาการหน้ามืด ตาลาย อาการวิงเวียนศีรษะ และช่วยให้ นอนหลับสบาย รวมไปถึงการนวดไทยและการอบสมุนไพร จะช่วยกระตุ้นระบบทางเดินหายใจ ช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิต ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ผ่อนคลายความตึงเครียด ช่วยให้นอนหลับสบาย ลดอาการปวดศีรษะ บำรุงผิวพรรณ
และ 3.โรคอ้วน จากการประเมินร่างกายในเบื้องต้น คือ ผู้ที่มีค่าดัชนีมวลกาย (BMI) มากกว่า 25 kg/m2 ปัญหาโรคอ้วน มักเกิดจากพฤติกรรมของคนวัยทำงาน ทั้งพฤติกรรมการเลือกรับประทานอาหารที่ไม่เหมาะสม รวมถึงการขาดการออกกำลังกาย โรคอ้วนจะส่งผลให้เกิดโรคตามมาได้หลายอย่าง เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ และ หลอดเลือดสมอง ทางการแพทย์แผนไทยนิยมใช้สมุนไพรรสร้อน เช่น ข่า กะเพรา ขิง ตะไคร้ ฯลฯ ในการช่วยเพิ่มการเผาผลาญร่างกาย และ ยังช่วยลดอาการท้องอืดท้องเฟ้อได้อีกด้วย และ ที่สำคัญ จะต้องหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารจำพวกแป้ง น้ำตาล และอาหารที่มีไขมันสูง พร้อมทั้งเลือกรับประทานอาหารอย่างเหมาะสม และ ปริมาณที่พอดีกับความความต้องการของร่างกาย ที่สำคัญ ควรออกกำลังกายเป็นประจำ สำหรับการออกกำลังกายด้วยศาสตร์แผนไทย ที่อยากแนะนำในการลดน้ำหนัก คือ การออกกำลังกายด้วยท่าฤๅษีดัดตน ประโยชน์ของการบริหารร่างกายด้วยท่าฤาษีดัดตน ทำให้ร่างกายตื่นตัว แข็งแรง ระบบการไหลเวียนเลือดในร่างกายดีขึ้น เป็นการต่อต้านโรค บำรุงรักษาสุขภาพให้มีอายุยืนยาว ช่วยสุขภาพจิตดี ได้อีกด้วย
สำหรับวัยทำงานอย่าลืมการตรวจสุขภาพเพื่อคัดกรองโรคประจำปีและตรวจสอบความผิดปกติของร่างกายตนเองเป็นประจำ รวมถึงการดูแลสุขภาพของตนเองด้วยการนอนหลับพักผ่อนที่เพียงพอ หาเวลาพักผ่อนร่างกายและจิตใจ รวมไปถึงการออกกำลังกายเป็นประจำก็ทำให้ร่างกายแข็งแรงปราศจากปัญหาทางสุขภาพ หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการแพทย์แผนไทย การแพทย์ทางเลือกและสมุนไพร สามารถติดต่อที่กรมการแพทย์ แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก หมายเลขโทรศัพท์ 0 2149 5678 หรือช่องทางออนไลน์ที่ FACEBOOK กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก www.facebook.com/dtam.moph และ line @DTAM สนใจสมุนไพรไทย ภูมิปัญญาไทย เศรษฐกิจไทย เข้าชมงาน มหกรรมสมุนไพรแห่งชาติครั้งที่ 20 ระหว่างวันที่ 28 มิ.ย. – 2 ก.ค. 2566 ฮอลล์ 11 – 12 อิมแพค เมืองทองธานี นนทบุรี
