ไม่ได้โม้! “สมรักษ์ คำสิงห์”​ ลงเล่นการเมืองพรรคพลังประชารัฐ ประเดิมสนามชิงส.ส.ขอนแก่น

  • ฮือฮา พปชร. เปิดตัว “สมรักษ์” ลงแข่ง ส.ส. ขอนแก่น
  • ขออาสาลงรับใช้พี่น้องประชาชนอีกครั้งหนึ่ง…และไม่ได้โม้ ผมเอาจริง
  • พปชร.ชูภาคอีสาน ต้องทำให้หายแล้ง หายจน ผู้คนมีความสุข

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการเปิดตัวว่าที่สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เพื่อลงชิงสมัครส.ส.ในพื้นที่ภาคอีสาน จำนวน 22 คนนั้น ได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากสื่อมวลชนและประชาชน โดยเฉพาะนายสมรักษ์ คำสิงห์ วีระบุรุษเหรียญทองโอลิมปิค ตำนานคนสำคัญในวงการมวยสากลสมัครเล่น หรือ เจ้าของฉายา “ไม่ได้โม้” เปิดตัวลงสมัครในจังหวัดขอนแก่น บ้านเกิด โดยเจ้าตัวเปิดเผยว่า ตนเองมีความสนใจในการทำงานการเมืองที่จะเป็นตัวแทนของอีกวงการหนึ่งคือกีฬามวย ที่เป็นเรื่องสำคัญของการสร้างคนและสร้างชาติด้วยการกีฬา และที่สำคัญกีฬามวยและโดยอย่างยิ่งมวยไทยนั้น ถือเป็น Soft power สำคัญที่ทั้งสร้างอัตลักษณ์ชื่อเสียงและรายได้ให้กับประเทศไทย

นายสมรักษ์ กลาวว่า ที่ผ่านชีวิตมาอย่างโชกโชนและน่าตื่นเต้นทั้งการกีฬาและชีวิตจริง หากจะเป็นส่วนหนึ่งที่เข้าไปเป็นปากเสียงและสร้างนโยบายที่สำคัญในการสร้างชาติที่เข้มแข็ง ผมพร้อมจะร่วมอุดมการณ์การเมืองกับ พลังประชารัฐ ที่เป็นพรรคขวัญใจคนรากหญ้าที่มีผลงานโดดเด่นชัดเจนเป็นรูปธรรมในการสร้างสวัสดิการแห่งรัฐให้กับประชาชน จึงตัดสินอาสามารับใช้เพื่อเป็นตัวแทนพี่น้องชาวไทยอีกครั้งหนึ่ง แต่คราวนี้จะเป็นตัวแทนชาวไทยในการสร้างความมั่นคงและความยั่งยืนในคุณภาพชีวิต ซึ่งการเมืองคือเครื่องมือสำคัญในการสร้างสิ่งเหล่านี้

“ผมจึงได้อาสาลงรับใช้พี่น้องประชาชนอีกครั้งหนึ่ง…และไม่ได้โม้ ผมเอาจริง”

ด้านนายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรคฯ กล่าวว่า พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะหัวหน้าพรรค ได้ย้ำนโยบายที่สำคัญ โดยเฉพาะพื้นที่ภาคอีสานนั้น เป็นพื้นที่ที่จะต้องทำให้หายแล้ง หายจน ผู้คนมีความสุข และพรรค พปชร เข้าใจและเข้าถึงประชาชนมากที่สุด และย้ำเตรียมความพร้อมผู้สมัครให้ครบถ้วนทั้ง 400 เขต โดยให้มีความชัดเจนและจัดวางระบบการสรรหาที่ดีและรัดกุม ซึ่งเป็นระบบการทำงานของพรรคอยู่แล้ว กระบวนการสรรหาผู้สนใจที่มาร่วมงานกับพรรค เป็นเรื่องสำคัญ และยังต้องมีขั้นตอนในรายละเอียดต่อไปทั้งในเชิงพื้นที่และตัวบุคคล ที่จะได้ผู้สมัครที่มีอุดมการณ์สอดคล้องกันในพื้นที่ ขอยืนยันว่าท่านหัวหน้าได้ให้มีการเตรียมความพร้อมซึ่งเป็นไปตามปกติ มิใช่เป็นเพราะสถานการณ์บีบรัดแต่อย่างใด เนื่องจากมีการเพิ่มจำนวนเขตเลือกตั้งขึ้นในหลายพื้นที่ จำเป็นต้องวางแผนและเตรียมความพร้อมให้ดี เรายังเชื่อมั่นว่ารัฐบาลสามารถอยู่ได้จนครบเทอมอย่างแน่นอน

พลเอกธัญญา เกียรติสาร กรรมการบริหารพรรคฯ ในฐานะแม่ทัพอีสานเปิดเผยว่า กระบวนการสรรหาบุคคลที่จะเป็นว่าผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคนั้นมีระบบและกลไกที่เปิดกว้างและรับฟังความคิดเห็นของผู้เกี่ยวข้องอย่างรอบด้าน ประการสำคัญคือการที่จะได้บุคคลผู้ที่มีอุดมการณ์ทางการเมืองที่สอดคล้องกับแนวคิดของพรรคนั้น จำเป็นจะต้องคัดสรรบุคคลที่เชื่อมั่นในการสร้างชาติให้มีความมั่นคงและมีความคิดสร้างสรรค์ต่อการพัฒนาบ้านเมือง เพื่อให้ประชาชนเป็นผู้เลือก และจะทยอยเสนอให้พรรคเปิดตัวให้ครบทุกพื้นที่ต่อไป “…ผู้สมัครฯ ทุกคน มีคุณค่าและความสำคัญเท่าเทียมกัน แต่มีความจำเป็นต้องเคารพความคิดเห็นของพี่น้องประชาชน เราจึงจำเป็นต้องละเอียดในการคัดสรรและนำเสนอทางเลือกที่ดีที่สุดให้ประชาชนตัดสินใจ…”

สำหรับว่าที่ผู้ สมัคร ส.ส. ชุดนี้ส่วนใหญ่ อยู่ในพื้นที่ อีสานตอนบน 11 จังหวัด ประกอบด้วย นายจีระศักดิ์ น้อยก่ำ ว่าที่ ผู้สมัคร ส.ส. เลย นายกระแสร์ ตระกูลพรพงศ์ และ นางสาวปภาสิริ ศรีตะบุตร ว่าที่ ผู้สมัคร ส.ส. หนองคาย นายอนุสรณ์ แกหลิ่ง ว่าที่ ผู้สมัคร ส.ส. บึงกาฬ นางสาวณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ และ นางมารวย อุดมเลิศปรีชา ว่าที่ ผู้สมัคร ส.ส. นครพนม นายสุรจิต สัตถาผล นายพจนารถ ธนะราช และ นายอภิลักษณ์ เคนไชยวงศ์ ว่าที่ ผู้สมัคร ส.ส. สกลนคร นายชัย คูสกุลรัตน์ และนายสุรพงษ์ พลซื่อ ว่าที่ ผู้สมัคร ส.ส. กาฬสินธุ์ นายสมรักษ์ คำสิงห์ ว่าที่ ผู้สมัคร ส.ส. ขอนแก่น นางสาวชุติมา โชติธนาจินดา นายธนวัฒน์ ขันธวิชัย นายสุภีรภัทร ภูมิภักดิ์ ว่าที่ ผู้สมัคร ส.ส. อุดรธานี นางสาวประภาลักษณ์ สิทธิ ว่าที่ ผู้สมัคร ส.ส. หนองบัวลำภู นายกฤษณพงศ์ เจริญวานิช นางจริยา สีกงพลี นายประวัติ กองเมืองปักษ์ และ ส.อ. วิทน โชติเมืองปัก ว่าที่ ผู้สมัคร ส.ส. มหาสารคามนางสาวกัญจน์พร วงศ์เวไนย นายเวียง วรเชษฐ ว่าที่ ผู้สมัคร ส.ส. ร้อยเอ็ด