ไม่ซ้ำรอย! อธิบดีกรมชลฯ เทียบสถานการณ์น้ำปี 54 กับ 65 ต่างกัน อย่ากังวล

  • ให้ประชาชนติดตามฝน-น้ำ จากกรมอุตุ-กรมชลฯ
  • สถานีสูบน้ำได้ทำงานอย่างเต็มที่
  • แต่ขึ้นอยู่กับปริมาณฝน

นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ปริมาณน้ำในปีนี้แตกต่างจากปี 2554 อยากเรียนเปรียบเทียบให้หายกังวลว่า กันยายนช่วงเวลาเดียวกันกับปี 2554 พายุได้เข้ามาแล้ว 5 ลูก ขณะนั้นน้ำในเขื่อน 4 เขื่อนหลัก คือ ภูมิพล , สิริกิติ์ , แควน้อยบำรุงแดน , ป่าสักชลสิทธิ์ มีปริมาณรวมกันกว่า 2 หมื่นล้านลบ.ม. รับได้น้ำได้อีก 3 พันล้านลบ.ม. แต่ปี 2565 ยังไม่มีพายุเลย มีหย่อมความกดอากาศต่ำ 3 ครั้ง น้ำใน 4 เขื่อนหลัก มีรวมกัน 1.3 หมื่นล้านลบ.ม. ยังสามารถรับน้ำได้อีกหมื่นกว่าลบ.ม. หลังจากนี้ถ้าไปดูปี 2554 มีพายุเข้ามาอีก 3 ลูก แต่หลังจากนี้ของปี 2565 ยังไม่มีพายุ จึงแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ไม่น่าเกิดความกังวลมากมาย เพียงขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์ฝนจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสถานการณ์น้ำจากกรมชลประทานอย่างใกช้ชิด

นายประพิศกล่าวว่า เจ้าหน้าที่กรมชลประทานทุกคน และสถานีสูบน้ำได้ทำงานอย่างเต็มที่ แต่ขึ้นอยู่กับปริมาณฝน ได้เตรียมพร้อมทั้งเครื่องไม้เครื่องไม้ และการเผชิญเหตุ โดยในส่วนของจว.ปทุมธานี สถานการณ์ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ได้ใช้บานระบายควบคู่ไปกับการสูบน้ำออกจากคลองรังสิต และน้ำลดลงเรื่อยๆโดยลำดับ

“น้ำที่ผ่านไปปทุมธานีเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาเป็นน้ำฝนล้วนๆ มีปริมาณฝนตกกว่า 140 มิลลิเมตร มีปริมาณน้ำ 16 ล้านลบ.ม. ลงคลองรังสิต ขณะที่คลองรังสิตสามารถระบายได้วันละ 6 ล้านลบ.ม. ปริมาณฝนตกเกินกว่าความจุคลอง กรมชลประทานได้บริหารน้ำออกไปนอกเมืองออกแม่น้ำบางปะกงลงอ่าวไทย”