“ไฟเซอร์-โมเดอร์นา” เร่งพัฒนาสูตรวัคซีนป้องกันโควิดสายพันธุ์ “โอมิครอน” คาด มี.ค.นี้ คอมพลีท

วันนี้ (11 ม.ค.65) สำนักข่าว CBS News สหรัฐอเมริกา ได้เสนอข่าว Pfizer says its vaccine targeting Omicron will be ready in March อ้างการเปิดเผยของ นายอัลเบิร์ต บัวร์ลา (Albert Bourla) ซีอีโอของไฟเซอร์บริษัทยายักษ์ใหญ่ประเทศสหรัฐฯว่า วัคซีนโควิด-19 สำหรับเชื้อกลายพันธุ์สายโอมิครอน โดยเฉพาะที่ไฟเซอร์กำลังพัฒนาอยู่นั้น จะพร้อมใช้งานได้ในช่วงเดือน มี.ค. 2565 ซึ่งขณะนี้รายงานของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ (CDC) พบว่า 95% ของผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในสหรัฐฯ เป็นสายพันธุ์โอมิครอน

นอกจากนี้ ทางโฆษกของไฟเซอร์ ที่กล่าวว่า บริษัทไฟเซอร์กำลังปรับปรุงสูตรวัคซีนโควิด-19 ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน โดยทำงานร่วมกับพันธมิตรคือ ไบโอเอ็นเทค บริษัทยาจากเยอรมนี โดยอิงจากปฏิกิริยาของวัคซีนต่อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ที่เกิดขึ้น 

ทั้งนี้ หากจำเป็น ไฟเซอร์ก็สามารถปรับปรุงวัคซีนในปัจจุบันเพื่อจัดการกับสายพันธุ์ที่น่ากังวลที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้ ในกรณีไม่พบว่าวัคซีนเข็มที่ 3 สามารถป้องกันไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนหรือสายพันธุ์อื่นๆ ในอนาคต โดยไฟเซอร์คาดว่า สามารถพัฒนาและผลิตวัคซีนที่ออกแบบสำหรับไวรัสกลายพันธุ์ชนิดนั้นๆ ได้ในเวลาประมาณ 100 วัน ขึ้นอยู่กับการอนุมัติด้านกฎระเบียบ

แอนโธนี เฟาซี (Anthony Fauci) หัวหน้าที่ปรึกษาทางการแพทย์ของรัฐบาลสหรัฐฯ เคยคาดการณ์ตั้งแต่เมื่อเดือนธ.ค. 2564 ว่า โอมิครอนจะกลายเป็นโควิด-19 สายพันธุ์หลักในสหรัฐฯ แต่ก็ไม่ได้เน้นให้ฉีดวัคซีนที่เป็นการป้องกันโอมิครอนโดยเฉพาะ เพียงแต่ส่งเสริมให้ชาวอเมริกันไปฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น ซึ่งจากผลการศึกษาพบว่า เพิ่มประสิทธิภาพในการรับมือโอมิครอนได้ อาทิ สำนักงานความมั่นคงด้านสุขภาพแห่งสหราชอาณาจักร พบว่า การฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นมีประสิทธิภาพ 75% ในการป้องกันการติดเชื้อตามอาการจากไวรัสสายโอมิครอน

นอกจากนี้ ทางด้านโมเดอร์นา ซึ่งเป็นบริษัทยาสัญชาติอเมริกันอีกแห่งที่พัฒนาวัคซีนโควิด-19 เปิดเผยว่า กำลังพัฒนาวัคซีนที่เน้นรับมือไวรัสโอมิครอนเช่นกัน โดยจะเข้าสู่ขั้นตอนทดสอบทางคลินิกขั้นสูงในต้นปี 2565 แต่ยังไม่ได้ระบุวัน-เวลาที่ชัดเจน ทั้งนี้ สเตฟาน บ็องเซล (Stephane Bancel) ซีอีโอของโมเดอร์นา กล่าวในการประชุมของGoldman Sach เมื่อสัปดาห์ก่อนโดยยอมรับว่า ระดับการป้องกันโควิด-19 จากวัคซีนเข็มกระตุ้นอาจจะลดลง โดยอ้างถึงประสิทธิภาพของวัคซีนเข็มที่ 3 เมื่อเวลาผ่านไป และบริษัทกำลังพัฒนาวัคซีนเพื่อรับมือโอมิครอนโดยเฉพาะอีกด้วย