“ไปรษณีย์ไทย” ร่วมแชร์ไอเดีย “ฟื้นโลก” ให้น่าอยู่ เริ่มง่ายๆที่ตัวเรา

จะดีแค่ไหน หากวันนี้เรามีส่วนช่วยโลกใบนี้ ให้คงดำรงอยู่ต่อถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน 

แน่นอนสิ่งที่จะทำให้โลกคงอยู่ได้ ก็ต้องอาศัยความร่วมมือของทุกคน ใส่ใจและช่วยกันดูแลรักษา

อาจเริ่มจากแค่สิ่งที่เราดูว่าเป็นสิ่งเล็กๆ อาทิ การคัดแยกขยะ เพื่อง่ายต่อการนำไปกำจัด ช่วยจัดหมวดหมู่ขยะที่สามารถนำไปพัฒนาต่อยอดใช้ประโชยน์ได้อีกครั้ง 

สำหรับวันนี้ “ไปรษณีย์ไทย” ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งที่จะมาร่วมรักษ์และดูแลโลกใบนี้ โดยจะขอมาแชร์ทางเลือกในการส่งต่อของที่ไม่ได้ใช้ ไปเป็นสิ่งของที่มีค่ามากขึ้น 

โดยวันนี้ทางไปรษณีย์ไทยได้ เฟ้นหารวบรวมวิธีการและช่องทางการสร้างอรรถประโยชน์ให้กับสิ่งของเหลือทิ้ง ให้สามารถนำกลับมาใช้ได้อีกครั้ง   

มาเริ่มกันที่ แบ่งปันความสวยด้วยเครื่องสำอางหมดอายุ

คงดีไม่น้อย ถ้าเราได้มีโอกาสแบ่งปันความสวยให้กับคนอื่น โดยเฉพาะกับผู้ที่เสียชีวิต ซึ่งวันนี้ใครที่มีเครื่องสำอางที่ไม่สามารถใช้ได้ อาจจะใช้แล้วมีอาการแพ้ หรือเครื่องสำอางหมดอายุ ก็สามารถนำมาบริจาคให้กับโครงการแบ่งบุญสวยกับโรงพยาบาลต่างๆ เช่น โรงพยาบาลตำรวจ โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ฯลฯ เพียงเท่านี้เครื่องสำอางของทุกคนก็จะมีความหมายมากขึ้น และไม่ต้องรู้สึกเสียดายเงิน กับการต้องทิ้งลงถังขยะอีกด้วย

มาต่อกันที่ “หลอด” ใช้แล้วส่งต่อสู่ผู้ป่วยติดเตียง

หลอดถือเป็นขยะชนิดหนึ่ง ที่ยากต่อการกำจัด และสร้างมลพิษให้กับทรัพยากรหลายด้าน แต่เดี๋ยวก่อนตอนนี้มีวิธีสร้างคุณค่าใหม่ที่เป็นรูปธรรมผ่านมูลนิธิพลังที่ยั่งยืนของ ปตท

เพียงแค่นำหลอดที่ใช้แล้ว นำมาล้างให้สะอาด ตากให้แห้ง แล้วตัดให้เป็นชิ้นเล็กๆ ประมาณ 1 เซนติเมตร แล้วนำไปส่งต่อให้กับมูลนิธิฯ จากนั้นทางมูลนิธิฯจะนำหลอดเหล่านี้ ไปต่อยอดเป็นหมอนหลอดเพื่อผู้ป่วยติดเตียง ซึ่งตัวหมอนดังกล่าวจะมีคุณสมบัติเด่นเรื่องช่วยระบายอากาศ ลดการสะสมไรฝุ่น รวมทั้งลดการเกิดแผลกดทับอีกด้วย

เนรมิต “ขวดพลาสติก” ให้เป็นจีวรพระ

ขวดพลาสติก เป็นขยะอีกชนิดที่ต้องใช้เวลาถึง 450 ปีในการกำจัด แต่วันนี้มีทางจัดการที่ง่ายกว่านั้น เพียงแค่นำขวดดังกล่าวมาส่งมอบให้กับโครงการผ้าบังสุกุลจีวรจากขวดพลาสติกรีไซเคิล วัดจากแดง .สมุทรปราการ เพื่อแปลงร่างเป็นเส้นใยตามกระบวนการ Upcycling แล้วนำมาถักทอผสมผสานกับเส้นใยเรยอน เส้นใยฝ้าย และเส้นใยโพลีเอสเตอร์ ซิงค์ แอนตี้แบคทีเรีย เพื่อพัฒนาเป็นจีวรพระ ที่มีคุณสมบัติป้องกันแบคทีเรีย ลดกลิ่นอับ มีความนุ่มระบายอากาศได้ดี โดยโครงการนี้นอกจากจะเป็นการรักษ์โลกแล้ว ยังเป็นการสร้างบุญกุศลที่ยิ่งใหญ่ด้วย

ขาเทียมพระราชทาน” จากเศษวัสดุอะลูมิเนียม

มาถึงคิวของกระป๋องเครื่องดื่ม ก็เป็นขยะอีกประเภทที่พบได้จำนวนมากในแต่ละวัน รู้หรือไม่ว่าขยะชนิดนี้สามารถทำเป็นขาเทียมสำหรับผู้พิการที่ขาดแคลน ภายใต้ “โครงการบริจาคอะลูมิเนียมเพื่อจัดทำขาเทียมพระราชทาน” 

โดยผู้ที่สนใจสามารถร่วมบริจาควัสดุอะลูมิเนียมที่ใช้แล้ว อาทิ ห่วงจากฝาหรือกระป๋องเครื่องดื่ม ฝาเครื่องดื่มแบบฝาเกลียว กระป๋องน้ำอัดลม เศษอะลูมิเนียมจากข้อต่อ/บานพับ/รั้ว ชิ้นส่วนจากเครื่องจักรหรืออะไหล่รถยนต์ 

เพียงทำความสะอาดให้เรียบร้อยและบรรจุกล่องหรือซอง น้ำหนักไม่เกินกล่องละ 5 กิโลกรัม จ่าหน้าถึง กรมควบคุมมลพิษ เลขที่ 92 ซอยพหลโยธิน 7 ถนนพหลโยธิน เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 และบริเวณกึ่งกลางหรือเหนือจ่าหน้าให้เขียนคำว่า “วัสดุอะลูมิเนียมใช้แล้ว” ฝากส่งได้ที่ไปรษณีย์ไทยทั่วประเทศ ย้ำไม่เสียค่าฝากส่งแต่อย่างใด

กล่องพัสดุซองกระดาษเก่า อยากทิ้งมาผลิตเป็นโต๊ะเก้าอี้ให้น้องๆ นักเรียนได้

เชื่อว่าเป็นกิจวัตรประจำวันของคนไทยไปแล้วสำหรับการช้อปปิ๊งออนไลน์ ส่งของตรงถึงหน้าบ้าน สิ่งที่ตามมาก็คือกล่องพัสดุและซองที่ไม่ใช้ล้นบ้าน ซึ่งหลายคนจัดการง่ายๆ ก็ขายให้กับรถรับซื้อขยะ แต่ล่าสุดไปรษณีย์ไทยได้ชวนคนไทยนำกล่อง/ซองที่ไม่ใช้แล้วมาร่วมโครงการ “ไปรษณีย์ reBOX” เปลี่ยนกล่อง/ซองเป็นของขวัญปีใหม่ 2564 

โดยนำกล่อง และซองเหล่านี้ ไปผลิตเป็นชุดโต๊ะเก้าอี้ส่งมอบให้กับน้องๆ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ช่วยสร้างประโยชน์ทำให้กล่องและซองที่ไม่ใช้แล้ว กลับมามีคุณค่าอีกครั้ง นอกจากนี้ยังมีความพิเศษคือสามารถนำกล่องพัสดุและซองของทุกแบรนด์ ไม่จำกัดแหล่งที่มาไปให้ที่ไปรษณีย์ทุกแห่ง หรือจุดรับกล่อง/ซองที่ต่างๆ ที่เข้าร่วมโครงการใครสนใจก็ติดตามข้อมูลได้ที่ www.thailandpost.co.th

อย่างไรก็ตามในปัจจุบันมีโครงการและกิจกรรมอีกมากมายที่หลายๆองค์กรรวมทั้งในระดับบุคคลกำลังพยายามผลักดันให้ทุกคนตระหนักถึงปัญหาของของเหลือใช้ที่วันนึงอาจเข้าสู่สถานะล้นโลก

โดยไปรษณีย์ไทย เชื่อว่าโครงการหรือกิจการต่างๆ ที่จัดกันขึ้นมามากมายเหล่านี้ จะช่วยเป็นแรงกระตุ้นให้คนเราหันมาใส่ใจโลกที่เราอยู่กันใบนี้มากขึ้น รวมถึงทำให้ทุกคนเห็นความสำคัญของการสร้างสังคมแบ่งปัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ประเทศไทยและโลกเรากำลังต้องการอยู่ในขณะนี้

ท้ายที่สุดหากอยากติดตามข่าวสารของไปรษณีย์ไทย เพิ่มเติม ก็สามารถติดตามได้ที่ เว็บไซต์ : www.thailandpost.co.th เฟซบุ๊ก : บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ทวิตเตอร์ : @Thailand_Post และไลน์ออฟฟิเชียล : @Thailand Post กันได้เลย!!!