“ไบเดน”แถลงนโยบายประจำปีต่อสภาคองเกรส

  • ประกาศสหรัฐฯอยู่เคียงข้างและสนับสนุนยูเครน
  • จับมือพันธมิตรปิดน่านฟ้าห้ามเครื่องบินรัสเซียผ่าน
  • ลั่น “ปูติน” ถูกโดดเดี่ยวจากโลกอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน

 สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ได้แถลงนโยบายประจำปี (State of the Union) ต่อสภาคองเกรส โดยประเด็นสำคัญ คือ การแสดงความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ยูเครนและการตัดสินใจไม่ให้เครื่องบินทุกลำของรัสเซียบินผ่านน่านฟ้าสหรัฐ

ปธน.ไบเดนเปิดฉากการแถลงด้วยการประกาศว่า สหรัฐฯจะยืนเคียงข้างประชาชนชาวยูเครน พร้อมกับขอให้สมาชิกสภาคองเกรสทุกคนลุกขึ้นยืนเพื่อแสดงการสนับสนุนยูเครน

“แม้ต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก แต่ปธน.โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนยังกล่าวอย่างกล้าหาญต่อรัฐสภายุโรปว่า ‘แสงสว่างย่อมมีชัยเหนือความมืดมิด’ และในวันนี้ เอกอัครราชทูตยูเครนประจำสหรัฐฯก็นั่งอยู่เคียงข้างสุภาพสตรีหมายเลข 1 ของสหรัฐฯ ผมขอให้ทุกท่านในอาคารรัฐสภาแห่งนี้ หากท่านยืนได้ ขอให้ท่านยืนขึ้นเพื่อเป็นเกียรติและเพื่อส่งสัญญาณไปถึงทั่วโลกว่า เราสนับสนุนยูเครน”

พร้อมกับย้ำว่า “เราคือสหรัฐอเมริกา และเราขอยืนเคียงข้างยูเครน”

พร้อมกันนั้น ยังได้ประกาศอีกว่า ห้ามเครื่องบินรัสเซียบินผ่านน่านฟ้าสหรัฐฯ ซึ่งเป็นการใช้มาตรการที่สอดคล้องกับสหภาพยุโรป (อียู) และแคนาดา ที่ประกาศก่อนหน้านี้ว่าไม่ให้เครื่องบินของรัสเซียบินผ่านน่านฟ้า

“เราจะร่วมวงกับบรรดาชาติพันธมิตร ห้ามเครื่องบินทุกลำของรัสเซียบินผ่านน่านฟ้าสหรัฐฯ นอกจากนี้ เราจะโดดเดี่ยวรัสเซียมากขึ้น และจะเพิ่มมาตรการกดดันเศรษฐกิจของรัสเซียเพิ่มขึ้นด้วย”

นอกจากนี้ ยังได้กล่าวโจมตีปธน.วลาดิเมียร์ ปูติน ว่า “เมื่อ 6 วันที่แล้ว ปธน.ปูติน ได้พยายามทำทุกวิถีทางที่จะสั่นคลอนรากฐานทุกด้านของโลกเสรี และเขาคิดว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามแผนการที่วางไว้ แต่เขาผิดพลาดอย่างแรง เขาคิดว่าการที่เขาสามารถสร้างความโกลาหลให้กับยูเครน จะทำให้ทั่วโลกปั่นป่วนไปด้วย แต่ในทางตรงกันข้าม เขากลับพบกับกำแพงที่แข็งแกร่งอย่างที่เขาไม่เคยคาดคิด หรือจินตนาการถึง เพราะกำแพงนั้นคือประชาชนชาวยูเครน และผมขอบอกว่า ขณะนี้ปูตินได้ถูกโดดเดี่ยวจากโลกนี้มากกว่าที่เขาเคยถูกโดดเดี่ยวมาในอดีต”

อีกทั้งยังให้คำมั่นว่า กองกำลังทหารสหรัฐฯจะไม่เข้าไปมีส่วนร่วมในความขัดแย้งกับกองทัพของรัสเซียในยูเครน สหรัฐฯจะไม่ส่งทหารเข้าไปรบในยูเครนหลังจากที่รัสเซียรุกรานยูเครน แต่จะประจำการอยู่ในยุโรปเพื่อปกป้องบรรดาชาติสมาชิกขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ในกรณีที่รัสเซียเคลื่อนกำลังพลรุกคืบเข้าสู่ประเทศฝั่งตะวันตก

นอกเหนือจากสถานการณ์ยูเครนแล้ว ปธน.ไบเดนยังได้ เปิดตัวแคมเปญ “Test to Treat” เพื่อรับมือกับการระบาดของโควิด-19 และแจกยาต้านไวรัสโควิด-19 และชุดตรวจฟรีการสนับสนุนเงินทุน, การช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจ, โครงการบูรณะซ่อมแซมสะพานและทางหลวง, แผนการรับมือกับปัญหาเงินเฟ้อ และการระบายน้ำมันจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน