“ไบเดน”เตรียมบริจาควัคซีนให้ประเทศยากจน 500 ล้านโดส

.ซื้อของไฟเซอร์โดสละ 7 เหรียญฯเริ่มแจกม.ค.65

.ทำสหรัฐฯบริจาคให้ทั่วโลกมากถึง 1.1 พันล้านโดส

.เอฟดีเอไฟเขียวฉีดเข็มกระตุ้นให้ผู้สูงวัย-กลุ่มเสี่ยง

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ เตรียมแถลงวันนี้ (23 ก.ย.) สหรัฐจะซื้อวัคซีนต้านโควิด-19 จำนวน 500 ล้านโดสเพื่อบริจาคให้แก่ประเทศยากจน สำหรับการบริจาคครั้งนั้ จะเป็นวัคซีนของไฟเซอร์-ไอโอเอ็นเทค ที่ผลิตในสหรัฐฯ และจะจัดส่งให้ประเทศต่างๆ ตั้งแต่เดือนม.ค.65 โดยจะซื้อในราคา 7 เหรียญสหรัฐฯ/โดส ซึ่งการบริจาคดังกล่าว จะทำให้สหรัฐฯ บริจาควัคซีนรวมมากกว่า 1,100 ล้านโดสให้แก่ประเทศต่างๆ ทั่วโลก นอกจากนี้ ประธานาธิบดีไบเดน จะเรียกร้องให้ผู้นำทั่วโลกสนับสนุนด้านการฉีดวัคซีนให้แก่ประเทศต่างๆ ด้วย

ขณะที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (เอฟดีเอ) สหรัฐฯ อนุมัติให้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 กระตุ้นของไฟเซอร์ให้กับชาวอเมริกันที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป และกลุ่มเสี่ยงสูง หลังจากที่ประชาชนในกลุ่มดังกล่าวได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้วนาน 6 เดือน ซึ่งจะทำให้ชาวอเมริกันจำนวนมากมีสิทธิ์ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น 

ทั้งนี้ มติดังกล่าวของเอฟดีเอ เป็นไปตามคำแนะนำของที่ประชุมคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านวัคซีนและผลิตภัณฑ์ชีวภาพ เมื่อวันที่ 17 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยคณะกรรมการฯ ลงคะแนนเสียง 16-2 คัดค้านไม่ให้ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นแก่ชาวอเมริกันอายุ 16 ปีขึ้นไป ก่อนจะมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นแก่ผู้สูงอายุ และกลุ่มเสี่ยงสูงที่จะเกิดอาการรุนแรงหากติดเชื้อ 

ดร. ปีเตอร์ มาร์กส์ ผู้อำนวยการศูนย์การประเมินและวิจัยทางชีววิทยาประจำ เอฟดีเอ ระบุว่า “เอฟดีเอ พิจารณาถึงคำแนะนำของคณะกรรมการฯ และทบทวนข้อมูลที่ได้รับมาโดยละเอียดเพื่อหาข้อสรุป เราจะยังคงวิเคราะห์ข้อมูลที่ส่งมาถึงเอฟดีเอ เกี่ยวกับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เข็มบูสเตอร์ และเราจะตัดสินใจโดยอาศัยข้อมูลตามความเหมาะสมต่อไป”