ไบท์แดนซ์ย้ำถือหุ้นข้างมากใน “TikTok Global”

.ยืนยันจะถือหุ้น80%ส่วนออราเคิล-วอลมาร์ท 20%

.สยบข่าวลือนักลงทุนอเมริกันถือหุ้นข้างมาก-คุมบริหารจัดการ

.พร้อมย้ำซื้อขายหุ้นครั้งนี้ไม่รวมการถ่ายโอนเทคโนโลยี

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ไบท์แดนซ์ (ByteDance) บริษัทแม่แอปพลิเคชั่นคลิปวิดีโอสั้นสัญชาติจีน “TikTok” ออกแถลงการณ์วันนี้ (21 ก.ย.) ว่า “TikTok Global” จะเป็นบริษัทในเครือของไบท์แดนซ์ แม้ออราเคิล คอร์ป (Oracle Corp) และวอลมาร์ท (Walmart) ได้ระบุเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า นักลงทุนอเมริกันจะถือหุ้นข้างมากใน TikTok ตามข้อตกลงในคำสั่งประธานาธิดีโดนัลด์ ทรัมป์

ไบท์แดนซ์ออกแถลงการณ์วันนี้ (21 ก.ย.) ระบุว่า กรณีที่มีข่าวว่า นักลงทุนอเมริกันจะถือหุ้นข้างมากในไบท์แดนซ์ และไบท์แดนซ์อาจสูญเสียอำนาจบริหารจัดการใน TikTok นั้น เป็น “ข่าวลือ” ขณะที่ ออราเคิล และวอลมาร์ท ไม่ได้แสดงความเห็นในเรื่องนี้

พร้อมกับย้ำว่า ไบท์แดนซ์จะถือหุ้น 80% ใน TikTok Global ซึ่งเป็นบริษัทใหม่ ที่เป็นการร่วมทุนระหว่างจีน และสหรัฐฯ ขณะที่ออราเคิล จะถือหุ้นในสัดส่วน 12.5% และวอลมาร์ท สัดส่วน 7.5%

แต่แหล่งข่าวหลายราย กล่าวว่า นักลงทุนอเมริกันจะถือหุ้น 41% ซึ่งจะทำให้มอำนาจในการบริหารจัดการธุรกิจได้โดยตรง แต่บางแหล่งข่าว กล่าวว่า มูลค่าเงินลงทุนใน TikTok Global ของทั้งออราเคิล และวอลมาร์ท มีมากกว่า 50,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

นอกจากนี้ ไบท์แดนซ์ยังยืนยันในแถลงการณ์อีกว่า แผนการขายหุ้นครั้งแรกให้ประชาชนทั่วไป (ไอพีโอ) TikTok Global ด้วย โดยคณะกรรมการบริหารบริษัท จะมีชื่อของ จาง อี้หมิง ผู้ก่อตั้งไบท์แดนซ์ รวมถึงประธานเจ้าหน้าที่บริหารวอลมาร์ท ดัก แมคมิลเลียนด้วย

ไบท์แดนซ์ ยังระบุเพิ่มเติมอีกว่า แผนทางธุรกิจของ TikTok Global ไม่เกี่ยวข้องกับการถ่ายโอนเทคโนโลยี และออราเคิลจะสามารถตรวจสอบรหัสต้นทาง (source code) ของ TikTok ในสหรัฐฯได้ ซึ่งเหมือนกับกรณีของบริษัทสหรัฐฯ อย่าง Microsoft Corp (MSFT.O) ที่ต้องแบ่งปัน source code ให้กับผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีของจีน ขณะที่ออราเคิล และวอลมาร์ท ย้ำกว่า TikTok Global จะเป็นเจ้าของเทคโนโลยีของ TikTok

ส่วนการจ่ายเงิน 5,000 ล้านเหรียญฯให้กับกระทรวงการคลังของสหรัฐฯในนาม TikTok Global ยังเป็นเพียงการประเมินตามภาษีเงินได้ และรายได้อื่น ซึ่งบริษัทต้องชำระให้แก่รัฐบาลวอชิงตันตามกฎหมายในอนาคตเท่านั้น ขณะที่ทรัมป์ กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่าเงินจำนวนดังกล่าวจะเป็นกองทุนพัฒนาด้านการศึกษาของสหรัฐ

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา ทรัมป์ ได้ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดี โดยให้เวลาไบท์แดนซ์ 90 วัน ในการขายกิจการในสหรัฐฯ เพราะมีความกังวลว่าข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการชาวสหรัฐฯกว่า 100 ล้านคนจะตกไปอยู่ในมือของพรรคคอมมิวนิสต์จีน และเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (19 ก.ย.) ทรัมป์ยังสนับสนุนหลักการณ์ในข้อตกลงที่จะอนุญาตให้ TikTok ทำธุรกิจในสหรัฐฯได้ต่อไป