ได้วิ่งกันฉิวกลางปี66…กรมทางหลวงเร่งปรับปรุงทางหลวงสาย 1 ช่วง อ.แม่ลาว-อ.แม่สาย จ.เชียงราย หวังเพิ่มประสิทธิภาพ ปลอดภัย หนุนเศรษฐกิจ-ท่องเที่ยว เชื่อมโยงเส้นทางระหว่างภูมิภาค

นายสราวุธ ทรงศิวิไล  อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า ตามที่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ได้มอบนโยบายการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานทางถนนในพื้นที่ภาคเหนือ พร้อมเร่งรัดโครงการบูรณะโครงข่ายทางหลวงเชื่อมโยงระหว่างภาคทางหลวงหมายเลข 1 สาย  อ.แม่ลาว-อ.แม่สาย ระยะทาง 95.57 กิโลเมตร ให้แล้วเสร็จทันตามกำหนดเวลา เพื่อเสริมสร้างโครงข่ายทางหลวงพื้นที่ภาคเหนือให้สมบูรณ์ตลอดสายทาง 

ทั้งนี้ทางหลวงหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธิน) สายอนุสาวรีย์-หลักสี่-กลางสะพานแม่น้ำสาย (เขตแดนไทย-เมียนมา) เริ่มต้นที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ กรุงเทพมหานคร ผ่านภาคกลางและมุ่งเข้าสู่ภาคเหนือของประเทศไทย สิ้นสุดที่ด่านพรมแดนสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา รวมระยะทาง 994.7  กิโลเมตร  โดยเส้นทางช่วง อ.แม่ลาว-อ.แม่สาย จ.เชียงราย สามารถเดินทางเชื่อมต่อไปยังจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือได้หลายเส้นทางด้วยกันซึ่งกรมทางหลวงได้เปิดให้บริการเส้นทางนี้มานานประกอบกับมีรถบรรทุกสินค้าและรถยนต์ทั่วไปใช้บริการมากขึ้น เป็นเหตุให้โครงสร้างชั้นทางและสภาพผิวทางเสียหายแม้จะบำรุงรักษาสม่ำเสมอ กรมทางหลวงเล็งเห็นความจำเป็นจึงดำเนินโครงการบูรณะทางหลวงสายดังกล่าวเพื่อให้มีความสะดวกและปลอดภัยและรองรับการเพิ่มขึ้นของปริมาณจราจรในพื้นที่ จ.เชียงราย

ดังนั้นทาง กรมทางหลวง โดยสำนักก่อสร้างทางที่ 1 จึงเร่งดำเนินโครงการบูรณะโครงข่ายทางหลวงเชื่อมโยงระหว่างภาคทางหลวงหมายเลข 1 สาย อ.แม่ลาว-อ.แม่สาย (เป็นตอนๆ)  โดยจุดเริ่มต้นโครงการอยู่ในพื้นที่ อ.พาน จ.เชียงราย และจุดสิ้นสุดโครงการอยู่ที่บริเวณด่านศุลกากรแม่สาย จ.เชียงราย  แบ่งการก่อสร้างเป็น 2 ตอน คือ ตอนที่ 1 ระหว่าง กม.890+370-กม.933+481  ระยะทาง 40.08 กิโลเมตร และตอนที่ 2 ระหว่าง กม.933+481-กม.994+749  ระยะทาง 55.48 กิโลเมตร  รวมระยะทาง 95.57 กิโลเมตร  กิโลเมตร ก่อสร้างเป็นมาตรฐานทางชั้นพิเศษขนาด 4 ช่องจราจร  ผิวทางแอสฟัลต์คอนกรีต ช่องจราจรกว้างช่องละ 3.50 เมตร ไหล่ทางข้างนอกกว้างข้างละ 2.50 เมตร ด้านในกว้าง 1.50 เมตร พร้อมเกาะกลางอีกทั้งงานก่อสร้างขยายสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก 5 แห่ง งบโครงการก่อสร้างประมาณ 1,704   ล้านบาท  ปัจจุบันการก่อสร้าง คืบหน้ากว่า 50 %  คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณเดือน เมษายน ปี 66  ทั้งนี้มีบางช่วงที่ดำเนินการแล้วเสร็จและเปิดให้ใช้บริการเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนผู้ใช้เส้นทางแล้ว

นายสราวุธ กล่าวต่อว่า หากโครงการก่อสร้างดังกล่าวแล้วเสร็จตลอดเส้นทาง จะช่วยยกระดับความปลอดภัยโครงข่ายคมนาคมขนส่งในพื้นที่ภาคเหนือเชื่อมต่อไปยังสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา  ส่งเสริมการท่องเที่ยวและช่วยกระจายความเจริญทางด้านเศรษฐกิจในภูมิภาค  สนับสนุนยุทธศาสตร์การพัฒนาทางหลวงเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจในภาคเหนือให้เป็นฐานเศรษฐกิจที่สร้างสรรค์มูลค่าสูง และเชื่อมโยงกับประเทศในกลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ตามแนวทางของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560-2564)