ได้ฤกษ์!ใช้บัตร EMV จ่ายค่าผ่านทางด่วนได้แล้ววันนี้

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ  รมว.คมนาคม  เปิดเผยว่า   การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) และบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ได้เริ่มเปิดให้บริการระบบชำระค่าผ่านทางด้วยเทคโนโลยี EMV Contactless (Europay Mastercard and Visa) คือ การชำระเงินด้วยบัตรมาตรฐาน สากลเพียงใบเดียว แตะ – จ่ายได้ทั้งบัตรเดบิตและบัตรเครดิตทุกธนาคารที่มีสัญลักษณ์ Contactless 

ทั้งนี้ กทพ. และ BEM ได้ร่วมกับธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB พัฒนาระบบชำระค่าผ่านทางพิเศษด้วยบัตร EMV Contactless ซึ่งเป็นระบบการชำระเงินที่ออกแบบมาเพื่อเป็นทางเลือกในการชำระค่าผ่านทางแทนเงินสด ซึ่งมีขั้นตอนใช้งานไม่ยุ่งยาก เพียงแค่ขับรถเข้าช่องเงินสด ลดกระจก และแตะบัตรที่มีสัญลักษณ์ Contactless ก็จะสามารถชำระค่าผ่านทางได้ ลดปัญหารถติดหน้าด่านเก็บเงิน ลดการใช้เงินสด เพื่อลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งผู้ใช้ทางมั่นใจได้ว่าระบบดังกล่าว มีการตรวจสอบข้อมูลที่ถูกต้องและน่าเชื่อถือ

นายศักดิ์สยาม  กล่าวต่อว่า  ขณะนี้ กทพ.และ BEM ได้เปิดให้บริการชำระค่าผ่านทางด้วยบัตร EMV Contactless ครบทั้ง 5 สายทาง คือ 1.ทางพิเศษเฉลิมมหานคร (ทางด่วนขั้นที่ 1) 2.ทางพิเศษศรีรัช (ทางด่วนขั้นที่ 2) 3.ทางพิเศษสายศรีรัช – วงแหวนรอบนอกฯ 4.ทางพิเศษอุดรรัถยา (บางปะอิน – ปากเกร็ด) และ 5.ทางพิเศษกาญจนาภิเษก (วงแหวนใต้) และในอนาคตจะพัฒนาไปสู่ระบบจัดเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติแบบไม่มีไม้กั้น (M-Flow) และระบบตั๋วร่วม ซึ่งใช้บัตรเพียงใบเดียวสามารถเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ ได้แก่ รถไฟฟ้า รถโดยสารประจำทาง และเรือโดยสาร 

ด้านนายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการ กทพ. เปิดเผยว่า ปัจจุบันผู้ใช้ทางพิเศษ 50% ใช้บัตรชำระค่าผ่านทางอัตโนมัติ (Easy Pass) และอีก 50% ใช้เงินสด ซึ่งกทพ.ตั้งเป้าว่าจากนี้จะมีผู้ใช้บัตร EMV Contactless แทนเงินสดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปี 2565 กทพ.จะเริ่มใช้ระบบ M-Flow ควบคู่กับบัตร EMV Contactless และประเมินว่าหลังจากนั้น 3 ปี การใช้เงินสดจ่ายค่าผ่านทางจะหมดไป  ส่วนกรณีที่ BEM เปิดจำหน่ายคูปองราคาพิเศษเพื่อคงอัตราค่าผ่านทางพิเศษสายศรีรัช – วงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ โดยเริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา ล่าสุดพบว่ามีผู้ใช้ทางซื้อคูปองแล้ว 2,000 ราย