โรคไหม้คอรวง เล่นงานข้าวหอมมะลิอีสาน กระทรวงเกษตรฯเร่งช่วยด่วน

  • เตรียมประสานกระทรวงพาณิชย์ชะลอขายข้าวหอมมะลิ
  • หวั่นพ่อค้าโก่งราคาสูง เช่นสมัยช่วงข้าวเหนียวแพง
  • ย้ำจำนวนข้าวเพียงพอต่อการบริโภคในประเทศ

นายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเดินทางไปตรวจสอบการแพร่ระบาดของโรคไหม้คอรวงข้าว พบความเสียหาย 5 จังหวัด ได้แก่ สุรินทร์ ศรีสะเกษ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด และอุบลราชธานี รวมพื้นที่550,000 ไร่ ซึ่งจังหวัดสุรินทร์ระบาดมากที่สุดกว่า 300,000 ไร่ ซึ่งทางผู้ว่าราชการจังหวัดได้ประกาศเป็นเขตภัยพิบัติโรคพืชแล้ว เบื้องต้นเกษตรกรจะได้รับค่าชดเชยตามระเบียบกระทรวงการคลัง 1,113 บาทต่อไร่ รายละไม่เกิน 20 ไร่ 

นายประภัตร กล่าวว่า ล่าสุดอัตราการระบาดลดลง เนื่องจากชาวนาเกี่ยวข้าวหอมมะลิพันธุ์ กข 15 ซึ่งเกิดโรคไปกว่า80% แล้ว อีกทั้งได้รับการสนับสนุนโดรน 3 ลำ จากภาคเอกชนทำการฉีดพ่นสารไตรโคเดอร์ บนแปลงข้าวหอมพันธุ์ดอกมะลิ 105 ซึ่งจะเก็บเกี่ยวได้ตั้งแต่วันที่ 20 ..นี้ เป็นต้นไป เพื่อป้องกันไม่ให้ติดเชื้อราก่อให้เกิดโรคไหม้คอรวงรวมทั้งมอบหมายให้กรมการข้าวจัดส่งสารไตรโคเดอร์มาให้เกษตรกรทั้ง 5 จังหวัด เพื่อฉีดพ่นในแปลงข้าว ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกับแปลงที่เป็นโรค 

ทั้งนี้สำหรับแปลงข้าวหอมมะลิพันธุ์ กข 15 ที่เกิดโรคไหม้คอรวง ได้ส่งผลให้เมล็ดลีบ  ผลผลิตลดลงจาก 400 กิโลกรัมต่อไร่ เหลือประมาณ 100 กิโลกรัมต่อไร่ เมื่อรวมกับความเสียหายจากฝนทิ้งช่วงและอุทกภัยที่ผ่านมา คาดว่าประมาณ700,000 ไร่ จากพื้นที่ปลูกข้าวหอมมะลิทั้งประเทศกว่า 3 ล้านไร่ ผลผลิตลดลง 3 ล้านตัน โดยประมาณการณ์ว่าปี 2562 จะได้ผลผลิตข้าวหอมมะลิ 6-7 ล้านตัน ลดลงกว่าปีที่แล้วซึ่งได้ 8 ล้านตัน ซึ่งขณะนี้ได้มอบหมายให้กรมการข้าวร่วมกับกรมส่งเสริมการเกษตรสำรวจความเสียหายทั้งหมด เพื่อกำหนดมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ จากการที่ผลผลิตเสียหาย ซโดยจะนำเสนอนายกรัฐมนตรีต่อไป

นายประภัตร กล่าวต่อว่า ปริมาณข้าวหอมมะลิยังเพียงพอต่อการบริโภคในประเทศ แต่ผลผลิตที่ลดลงอาจส่งผลกระทบด้านราคาบ้าง จึงจะประสานกระทรวงพาณิชย์จัดทำโครงการชะลอการขายข้าวของชาวนา ลักษณะเดียวกับโครงการจำนำยุ้งฉาง เพื่อไม่ให้ข้าวหอมมะลิออกสู่ตลาดพร้อมกันพ่อค้าอาจฉวยโอกาสจำหน่ายข้าวหอมมะลิแก่ผู้บริโภคในราคาสูงเช่นเดียวกับตอนที่ข้าวเหนียวราคาพุ่ง เหตุเพราะผลผลิตลดลงจากภัยแล้งปีนี้ 

ยันยันว่าจะดูแลเกษตรกรให้ได้รับการช่วยเหลืออย่างเหมาะสม และไม่ให้ผู้บริโภคต้องเดือดร้อนจากราคาข้าวที่สูงขึ้น

นายสุดสาคร ภัทรกุลนิษฐ์ อธิบดีกรมการข้าว กล่าวว่า นายประภัตรได้กำชับให้เตรียมส่งเจ้าหน้าที่ไปให้ความรู้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวหอมมะลิฤดูกาลเพาะปลูกใหม่ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโรคไหม้คอรวงข้าว โดยการนำเมล็ดพันธุ์มาคลุกสารไตรโคเดอร์ก่อนทำการหว่านใช้เมล็ดพันธุ์ไม่เกิน 10 -15 กิโลกรัมต่อไร่ อีกทั้งต้องไม่ใส่ปุ๋ยยูเรียและปุ๋ยสูตรที่มีธาตุไนโตรเจนสูงมากจนเกินไป เนื่องจากจะทำให้กอข้าวแน่นเกิน อากาศไม่ถ่ายเทและความชื้นสูง ซึ่งหากมีสปอร์เชื้อราโรคไหม้มาติดต้นข้าวจะทำให้ระบาดอย่างรวดเร็ว