โฟกัสจุดเหมือนนโยบาย 8 พรรคการเมืองร่วมตั้งรัฐบาล 313 เสียง

The Journalist Club ได้รวบรวมนโยบายของพรรคการเมืองที่รายงานต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ของ 8 พรรคการเมือง ที่อยู่ระหว่างการจับมือทำเอ็มโอยูตั้งรัฐบาลในขณะนี้ ประกอบด้วยพรรคก้าวไกล, พรรคเพื่อไทย, พรรคไทยสร้างไทย, พรรคประชาชาติ, พรรคเสรีรวมไทย, พรรคเพื่อไทรวมพลัง, พรรคเป็นธรรม และพรรคพลังสังคมใหม่

จุดเหมือนในนโยบายหลักของทั้ง 8 พรรค ที่สำคัญมีดังนี้

นโยบายด้านระบบสวัสดิการของรัฐ

นโยบายในการดูแลสวัสดิการของเด็กแรกเกิดไปจนถึงผู้สูงอายุมีเกือบทุกพรรค ได้แก่ พรรคเป็นธรรม มีนโยบายเบี้ยพัฒนาคุณภาพชีวิตตั้งแต่อยู่ในครรภ์จนถึง 7 ขวบได้รับเงินเดือนละ 3,500 บาท เบี้ยบำนาญผู้สูงอายุและคนพิการเดือนละ 3,000 บาท พรรคประชาชาติ มีสวัสดิการตั้งแต่ครรภ์มารดาจนถึงเสียชีวิต เมื่ออยู่ในครรภ์มารดาจนถึง 7 ปีจะได้รับเงิน 4,500บาทต่อเดือน  อายุ 60 ปีขึ้นไปรับเงิน 3,000 บาทต่อเดือน กรณีเสียชีวิตได้ค่าทำศพ 7,000 บาท

พรรคเสรีรวมไทย เบี้ยคนพิการ 3,000 บาทต่อเดือน บำนาญประชาชนอายุ65ปีขึ้นไปรับ 3,000 บาทต่อเดือน พรรคเพื่อไทย จัดสวัสดิการผู้สูงอายุให้เพียงพอต่อการดำรงชีพ มีการจ้างงานผู้สูงอายุ และมีนโยบายยกระดับสวัสดิการประเทศทั้งระบบ

พรรคไทยสร้างไทย มีสวัสดิการดูแลตั้งแต่เกิดจนแก่ พ่อแม่ได้รับสวัสดิการในการเลี้ยงลูก ไม่น้อยกว่า 180 วัน ระหว่างตั้งครรภ์มารดาเบิกได้ 3,000 บาทต่อเดือน หลังคลอดบุตร มารดาเบิกได้ 3,000 บาทต่อเดือนตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 6 ขวบ พรรคก้าวไกล สร้างสังคมคนเท่ากันลาคลอดได้180 วัน มีเงินคนพิการเดือนละ 3,000 บาท สวัสดิการเด็กแรกเกิดรับ 3,000 บาทเพื่อซื้อของใช้เลี้ยงลูก  เด็กเล็กรับ 1,200 บาทต่อเดือน  ผู้สูงอายุ เดือนละ 3,000 บาท

นโยบายด้านลดราคาพลังงาน

ค่าไฟฟ้า ค่าพลังงานที่แพงน่าจะเป็นPain Point ของประชาชนที่ประสบปัญหากันจำนวนมาก จึงถูกจับมาชูเป็นนโยบายของพรรคการเมืองหลายพรรค  พรรคเป็นธรรม น้ำประปาฟรี 300 บาทต่อครัวเรือน และใช้ไฟฟ้าฟรี300 บาทต่อครัวเรือน พรรคประชาชาติ ลดค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำมัน และพลังงานอื่นให้ถูกลง พรรคเสรีรวมไทย น้ำมัน ไฟฟ้าราคาถูกสำหรับประชาชน

พรรคเพื่อไทย ปรับโครงสร้างและลดราคาพลังงาน น้ำมัน ไฟฟ้า ก๊าซ พรรคไทยสร้างไทย ปรับโครงสร้างค่าไฟฟ้า ไม่เกิน 3.50 บาทต่อหน่วย พรรคเพื่อไทรวมพลัง ลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน ค่าไฟฟ้าถูกลง ตั้งกองทุนผลิตกระแสไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ พรรคก้าวไกล เปิดตลาดซื้อขายไฟฟ้าเสรี ลดค่าไฟฟ้า “ค่าไฟแฟร์” ถูกและเป็นธรรมสำหรับประชาชน หลังคาสร้างรายได้ เป็นเสรีโซลาร์เซลล์ ลดความแปรปรวนของราคาน้ำมัน

นโยบายด้านเกษตร

นโยบายด้านเกษตร ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องการแก้ปัญหาหนี้สิน ปัญหาที่ดินทำกิน ปัญหาราคาสินค้าเกษตรและปัญหาด้านประมง ซึ่งเกือบทุกพรรคจะมีนโยบายในด้านนี้ เช่น พรรคก้าวไกล มีนโยบายปลดหนี้เกษตรกร ลดต้นทุนเกษตรกร เพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร เพิ่มรายได้เกษตรกร การคืนชีวิตให้ชาวประมง  เปลี่ยนสปก.เป็นโฉนดอย่างเป็นธรรม เปลี่ยนนิคมสหกรณ์เป็นโฉนด ตั้งธนาคารที่ดิน เปลี่ยนระบบภาษีที่ดิน

พรรคพลังสังคมใหม่ ส่งเสริมนวัตกรรมแปรรูปข้าวให้ได้ราคาขายตันละ 20,000 บาท โครงการปุ๋ยคนละครึ่งลดต้นทุนเกษตรกร เปลี่ยนที่ดินภบท.5-5-11 และสปก.4-01 เป็นโฉนดที่ดินให้เกษตรกร พรรคเพื่อไทรวมพลัง ยกระดับราคาข้าว ตั้งตลาดกลางให้กลุ่มเกษตรกร พรรคไทยสร้างไทย นโยบายเกษตรสร้างไทย เกษตรกรหายจน หมดหนี้ มีรายได้ยั่งยืน พัฒนาแหล่งน้ำ แก้ปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง ตั้งโรงงานปุ๋ย ขจัดข้อจำกัดการใช้ประโยชน์ที่ดินของรัฐ วิจัยและพัฒนาด้านเกษตร

พรรคเพื่อไทย นโยบายสินค้าเกษตรปรับขึ้นยกแผง, รายได้เกษตรกรขึ้น 3 เท่าภายใน 4 ปี, พักหนี้เกษตรกร 3 ปี, โคขุนเงินล้าน, ทุเรียนล้านไร่, ปลูกพืชทดแทนเลี้ยงสัตว์, ทำประมงพื้นบ้านขนาดเล็ก, เจรจากฎหมายประมงIUU, เพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย ขยายโอกาส เพิ่มความสามารถในการแข่งขันภาคเกษตร พรรคเสรีรวมไทย สร้างเขื่อนเพื่อการเกษตร ป้องกันน้ำแล้งน้ำท่วม พรรคประชาชาติ แก้ปัญหาประมง เกษตรกรมีกรรมสิทธิ และสิทธิในที่ดินทำกิน 20 ไร่

นโยบายด้านสาธารณสุข

จุดเหมือนของนโยบายด้านสาธารณสุขคือ การปรับปรุงนโยบาย 30 บาท รักษาทุกโรค พรรคเสรีรวมไทย มีนโยบายบัตรประชาชนใบเดียวรักษาฟรีทั่วไทย พรรคเพื่อไทย อัพเกรด 30 บาท รักษาทุกโรค พรรคไทยสร้างไทย นโยบายยกระดับ 30 บาทรักษาทุกโรค เป็น 30บาทพลัส

นโยบายด้านค่าใช้จ่ายในการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ

พรรคเพื่อไทย รถไฟฟ้ากทม. 20 บาทตลอดสาย  พรรคก้าวไกล รถเมล์-รถไฟฟ้า 8-45 บาทตลอดสาย ใช้บัตรใบเดียวครอบคลุมทั่วกทม. รถเมล์ไฟฟ้าทุกคันภายใน 7 ปี