โซเชียลมีเดียจีน คุมเข้มรายการ “กินโชว์” สนองผู้นำจีนรณรงค์เลิกค่านิยมกินทิ้งกินขว้างโชว์ฐานะ

ไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ เราได้เห็นผู้นำ “สี่ จิ้นผิง” ประธานาธิบดีของจีน ทนไม่ไหวกับพฤติกรรมการบริโภคของคนจีนในยุคใหม่ที่ชอบสั่งอาหารเต็มโต๊ะ แล้วก็เหลือทิ้งเป็นจำนวนมากอย่างน่าตกใจว่า ช่างน่าละอาย จนชวนหดหู่ใจยิ่งนัก พร้อมกับวทะเด็ดว่า “คนกินทิ้ง กินขว้าง ช่างหน้าอายขายหน้า คนที่กินอยู่คุ้มค่า ควรค่าแก่การยกย่อง”

ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวนี้เราเห็นกันบ่อยๆ ครั้งในประเทศไทยกับนักท่องเที่ยวชาวจีนและนักธุรกิจที่มาทำธุรกิจในประเทศไทยที่กลายเป็นเรื่องปกติสำหรับการรับประทานอาหารในภัตตาคารที่ชอบสั่งอาหารมาเต็มโต๊ะและเหลือทิ้งจำนวนมาก เหมือนกันว่าเป็นค่านิยมที่เป็นการเหลือกินเหลือใช้ เป็นการบ่งบอกบอกถึงความมีฐานะ เรื่องกินเต็มที่กัน

แม้ว่าจะมีผลผลิตทางการเกษตรจำนวนมากมายมหาศาลแต่การมีจำนวนประชากรมากกว่า 1,400 ล้าน ทำให้ต้องมีการนำเข้าอาหารโดยเฉพาะข้าวสารจากต่างประเทศจำนวนมากซึ่งเป็นลูกค้ารายใหญ่ของไทยด้วย

ทั้งนี้ที่ผ่านมา จีนได้รับผลกระทบจากหลากหลายเหตุการณ์ ไม่ว่าจะเป็นสงครามการค้ากับสหรัฐ วิกฤตไวรัสโควิด-19 จนไปถึงผลกระทบจากภัยพิบัติธรรมชาติ น้ำท่วมใหญ่ทั่วพื้นที่ทางใต้ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งสร้างความเสียหายต่อพื้นที่เพาะปลูกและทำลายพืชผลทางการเกษตรจำนวนมาก แต่คนจีนก็ยังมีพฤติกรรมกินทิ้งกินขว้างเช่นเดิม

สมาคมอุตสาหกรรมจัดเลี้ยงอู่ฮั่น ได้ออกมาขานรับนโยบายของนายสีทันที โดยขอให้ร้านอาหารต่าง ๆ ในเมืองจำกัดจำนวนอาหารที่ลูกค้าสามารถสั่งได้ โดยลูกค้าต้องสั่งอาหารน้อยกว่าจำนวนคนที่มารับประทาน 1 อย่าง โดยเรียกระบบนี้เรียกว่า “N-1″ เช่น หากมารับประทานอาหารร่วมกัน 10 คน จะสามารถสั่งอาหารได้เพียง 9 อย่าง มา 5 คน สั่งได้ 4 อย่าง

แน่นอนว่าคนจีนบางคนก็เริ่มจะหงุดหงิดใจว่าทำไมต้องมาจุกจิก จู้จี้ กับการสั่งอาหาร ถ้าสั่งมาแล้วกินหมด หรือ ห่อกลับก็ไม่มีปัญหานี่ แต่ในโลกโซเชียลของจีน ยังพบพฤติกรรมการสั่งอาหารเหลือ กินทิ้งๆขว้างๆ กันอยู่

สถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีของจีน ยังเสนอรายงานเรื่องการกินโชว์ ของคนที่เผยแพร่คลิปการรับประทานอาหารปริมาณมาก หรือที่เรียกว่า “มุกบัง” ว่าได้รับความนิยมในหลายประเทศในเอเชียรวมถึงในจีนด้วย นักกินโชว์บางคนถึงกับอาเจียน หลังจากรับประทาานอาหารมากเกินไปและไม่สามารถย่อยได้ทัน 

สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า ทางผู้ให้บริการโซเชียลมีเดียได้ขานรับกับมาตรการดังกล่าวด้วยการ ค้นหาคำที่เกี่ยวข้องอย่างเช่น “กินโชว์” หรือ “ถ่ายทอดกินโชว์” จะได้รับคำแจ้งเตือน

ผู้ใช้งานแอปพลิเคชันยอดนิยมอย่าง ไคว่โส่ว (Kuaishou) กำลังได้รับคำเตือนให้ “ประหยัดอาหาร รับประทานอย่างเหมาะสม” และผู้ใช้งานโต่วอิน (Douyin) หรือ TikTok เวอร์ชั่นจีน จะได้รับคำเตือนว่า “เห็นคุณค่าของอาหาร อย่ารับประทานเหลือทิ้ง รับประทานอาหารอย่างเหมาะสมและให้มีสุขภาพแข็งแรง”

ขณะที่ดารามุกบังอย่าง มินิ (Mini) ได้ทำคลิปวิดีโอสนับสนุนให้คนอย่ารับประทานเหลือทิ้ง เผยแพร่ผ่านหนังสือพิมพ์กวางหมิงเดลี่ ของทางการจีน

ในคลิปหนึ่งเธอกล่าวว่า “อุ่นอาหารเหลือกินก็อร่อยสุด ๆ ได้เหมือนกัน”

แต่คำเตือนต่าง ๆ เหล่านี้ ดูเหมือนจะไม่ปรากฏในแอปฯ ของจีนที่ใช้งานนอกประเทศอย่างเช่น TikTok

คร์รี อัลเลน นักวิเคราะห์ของบีบีซี ภาคภาษาจีนกลาง กล่าวว่า “แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ของจีน กังวลมาโดยตลอดว่าเนื้อหาของพวกเขาจะถูกมองว่า เป็นปฏิปักษ์ต่อสิ่งที่ทางการเห็นว่า เป็นพฤติกรรมที่ดีงามและมีศีลธรรม”

“การถ่ายทอดสด หรือการทำบล็อกด้วยคลิปวิดีโอ ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ขณะที่ทางการกำลังกังวลเกี่ยวกับเสรีภาพที่สื่อต่าง ๆ เหล่านี้มอบให้ วล็อกเกอร์หลายคนพยายามหาผู้ที่มีความสนใจเฉพาะกลุ่ม เพราะว่ามีกฎคุมเข้มเกี่ยวกับการถ่ายคลิปนอกบ้าน หรือการทำคลิปที่มีเนื้อหายั่วยวนอินฟลูเอนเซอร์หลายคนจึงเลือกมาทำคลิปร้องเพลงหรือกินอาหารแทน”

แต่ตอนนี้ ดารามุกบังที่ประสบความสำเร็จที่สุดบางส่วนในจีน อย่าง “ราชากระเพาะโต” ที่กินอาหารจำนวนมากที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอจนเกลี้ยง ก็กำลังถูกเบลอคลิปวิดีโอจากโซเชียลมีเดียต่าง ๆ เพื่อไม่ให้ผู้ชมทำตาม

อัลเลนบอกว่า ผู้ใช้งานจำนวนมากเริ่มลบคลิปวิดีโอกินอาหารของตัวเอง แต่กระนั้น พวกเขาก็เสี่ยงที่จะต้องถูกทำให้ขายหน้าในโลกออนไลน์ เพราะคลิปวิดีโอก่อนหน้านี้อาจจะมีคนอื่นบันทึกเก็บไว้แล้ว

“ผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียจำนวนมากฉวยโอกาสนี้ในการระบุชื่อและประณามคนที่เคยกินโชว์ซึ่งกลายมาเป็นพวกที่ถูกตีตราเป็น ‘พวกกินทิ้งกินขว้าง’ ในชั่วข้ามคืน” นักวิเคราะห์ของบีบีซีภาคภาษาจีนกลางกล่าว

“ซึนา” อินฟลูเอนเซอร์ชาวเกาหลี หรือที่รู้จักกันอีกชื่อว่า เอ.ไบต์ (a.bite) มีผู้ติดตามเธอจากทั่วโลก พวกเขาชื่นชอบการจัดจานอาหารที่สวยงามและการกินโชว์ของเธอ มีผู้ติดตามทาง TikTok มากกว่า 6 ล้านคน ที่เข้ามาชมเธอกินอาหารจานยักษ์ด้วยท่าทางเอร็ดอร่อยในแต่ละวัน

“ฉันเริ่มโพสต์ติ๊กต็อกเมื่อกว่าสองปีครึ่งที่ผ่านมา ฉันทำวิดีโอกินอาหารจานเดียวไปแล้วมากกว่า 270 คลิป ในช่วงหนึ่งปีครึ่งที่ผ่านมา” ผู้ติดตามเธอส่วนใหญ่อยู่ในเกาหลีใต้ เวียดนาม และไทย

เธอกำลังเป็นห่วงแฟนชาวจีนของเธอราว 50,000 คน ซึ่งในจำนวนนี้หลายคนคาดว่าจะเป็นคนเหงาและโดดเดี่ยวที่ต้องการหาคนมารับประทานอาหารเป็นเพื่อนผ่านทางหน้าจอโทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์

“ฉันหวังว่ามาตรการนี้จะพุ่งเป้าไปที่ช่อง (กินโชว์) ที่แย่ที่สุดเท่านั้น ส่วนช่องที่ดีและมีประโยชน์น่าจะได้รับการอนุญาตให้ช่องที่ดีและมีประโยชน์เปิดต่อไปได้”

“ในคลิปวิดีโอ ฉันกินไม่เยอะ และพยายามจะกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ” ซึนากล่าว