นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เปิดเผยถึงความกังวลในพื้นที่ จ.ระยอง ยังใช้ชีวิตตามปกติได้หรือไม่ และหากห้างแหลมทองกลับมาเปิดบริการ ยังใช้บริการได้ปกติหรือไม่ว่า ประชาชนสามารถใช้ชีวิตตามปกติได้ เพราะในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงได้มีการทำความสะอาดแล้ว ถือว่าปราศจากเชื้อไม่ต้องกังวล สามารถใช้พื้นที่ได้ปกติเหมือนเดิม ส่วนที่ถามว่าทั้งกรณีทหารอียิปต์ และบุตรสาวอุปทูตซูดาน เชื้อโควิด-19 เป็นสายพันธุ์ใด ใช่สายพันธุ์ G หรือไม่ ต้องใช้เวลาในการทดสอบ ถ้าผลออกมาจะรีบรายงานต่อไป
ส่วนที่หลายแห่งใช้มาตรการโอเวอร์รีแอคชันหรือไม่ จากกรณีทหารอียิปต์ จนมีการสั่งปิดสถานที่ต่าง ๆ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ตรงนี้เป็นปฏิกิริยาสังคมที่เกิดขึ้น ด้านหนึ่งจะมองผลบวกว่าสร้างความตื่นตัว แต่ภาษาไทยก็บอกว่า ตื่นตัวแต่อย่าตื่นตูม จึงต้องมาวางสมดุล ตื่นตัว คือ ระมัดระวังได้ดี จัดการได้ดี แต่ตื่นตูมอาจทำมากเกินไป และทำให้เสียหายทางเศรษฐกิจได้
“โรคนี้ต้องใช้เวลาสอบสวนโรค ขณะนี้ข้อมูลชัดเจนแล้วว่าเฉพาะโรงแรมดีวารี และห้างแหลมทองเท่านั้น ดังนั้น ช่วงแรกที่ยังไม่ชัดเจน พอทราบว่ามีคนติดเชื้อไปในสถานที่ ก็ไม่สบายใจ จนมีการปิดไป 200 กว่าโรงเรียน โดยผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด จะมีการพิจารณาเฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องจริงๆ จากการตีวงให้แคบลง เมื่อข้อมูลชัดเจนขึ้น การตัดสินใจก็จะดีขึ้น” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
ขณะที่การอุดช่องโหว่ต่าง ๆ ศบค.ชุดเล็กได้ให้หน่วยงานที่เป็นผู้รับผิดชอบแต่ละกิจการกิจกรรม แจกแจงขั้นตอนปฏิบัติในแต่ละมาตรการ และใส่เจ้าภาพหลัก ผู้รับผิดชอบหลักเข้าไป เดิมที่มอบหลักการกว้าง ๆ ปรากฏว่าบางงานมีผู้รับผิดชอบกรณีนี้มากมาย เช่น เครื่องบินทางทหารมาลงประเทศไทย เชื่อมโยงหลายหน่วยงานมากๆ ผู้รับผิดชอบหลากหลายท่าน วันนี้แจกแจงรายละเอียดมอบผู้รับผิดชอบเพื่อชี้ชัดถ้าเกิดปัญหาขึ้นมาอีกว่าใครจะรับผิดชอบ
นพ.ทวีศิลป์ ยังกล่าวถึงกรณีสายการบินเช่าเหมาลำ 2 สายการบิน แวะจอดที่ไทยก่อนไปจีน แต่จีนพบว่าแต่ละลำมีคนติดเชื้อโควิด 5-6 คน ว่า เครื่องบินนี้มาแวะที่สนามบินไทยเท่านั้น เพื่อขอใช้เส้นทางที่อนุญาตเข้าไปประเทศจีน โดยผู้โดยสารไม่ได้ลงจากเครื่อง คนที่ติดเชื้อทั้งหมดนั่งในเครื่องบิน ไม่ได้มีโอกาสลงมา ก็ขอให้คนไทยมั่นใจได้ว่าปลอดภัย เพราะไม่ได้รับคนต่างชาติเข้ามาจาก 2 เที่ยวบินดังกล่าว
“หากถามว่าจำเป็นต้องทบทวนเมดิคัล ทัวริสซึม หรือไม่นั้น กลุ่มเมดิคัลยังคงดำเนินการตามปกติ แต่ต้องเข้มงวดในส่วนของผู้ติดตาม การจัดหาที่พัก โดยจะไม่อนุญาตให้ออกมาในพื้นที่สาธารณะ แต่วันนี้ยังไม่มีใครเข้ามาด้วยวิธีนี้ ซึ่งก็ต้องออกมาตรการต่างๆ ซักซ้อมความเข้าใจอีกครั้ง อย่างเร็วอาจเป็นปลายเดือน ก.ค.นี้ ซึ่งข้อห่วงใยที่เกิดขึ้นจากกรณีระยอง หรือคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ ก็ต้องมาสู่มาตรการเข้มข้นในกลุ่มนี้ด้วย” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
