โคเมเฮียว ร้านแฟชั่นแบรนด์เนมหรูมือสองจากญี่ปุ่น เอาใจไฮไซคนไทย เปิดแฟล็กชิปสโตร์แห่งแรกที่ห้างเซ็นทรัล @เซ็นทรัลเวิลด์

  • โคเมเฮียว ศูนย์แฟชั่นแบรนด์เนมจากญี่ปุ่น เปิดสาขาแรกที่ห้างเซ็นทรัล @เซ็นทรัลเวิลด์
  • ชี้ลูกค้าคนไทยลูกค้ารายใหญ่สุดใช้จ่ายเฉลี่ย 2-3 แสนบาทต่อหัว
  • ไม่ต้องเส่ียเวลาเดินทางไปช้อปถึงประเทศญี่ปุ่น
  • วางแผนขยาย 3-4 สาขาในไทย ตั้วเป้าขาย 300-400 ล้านบาทใน 3-4 ปีข้างหน้า

นายทาคุจิ อิชิฮาร่า กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทโคเมเฮียว จำกัด (ประเทศญี่ปุ่น)  เปิดเผยว่า ทางโคเมเฮียวได้เข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทย ด้วยการเปิด KOMEHYO Flagship Store แห่งแรกในประเทศที่ห้างเซ็นทรัล ชั้น 2 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เป็นศูนย์รวมซื้อขายแฟชั้นแบรนด์เนมมือสอง ซึ่งคัดสรรสินค้าโดยผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการอบรมและมีความชำนาญในการเลือกสินค้า

ทั้งนี้ การเข้ามาทำธุรกิจประเทศไทยได้เข้ามาร่วมทุนกับเครือสหพัฒน์ ภายใต้การบริหารของบริษัทสหโคเมเฮียว จำกัด โดยฝ่ายไทยถือหุ้น 51% และญี่ปุ่น 49% โดยทางบริษัทในประเทศญี่ปุ่นให้บริการมากกว่า 30 สาขา ทั่วประเทศกับยอดขายรวม 45,000 ล้านเยนในปีที่ผ่านมา ซึ่งลูกค้าต่างประเทศที่เข้าไปช้อปปิ้งมากที่สุดคือนักท่องเที่ยวจีนตามด้วยไทย, ฟิลิปปินส์และเกาหลีเป็นต้น โดยลูกค้าชาวไทยถือเป็นลูกค้ารายใหญ่ของบริษัทมียอดช้อปปิ้งตัวหัวละ 2-3 แสนบาท

การเข้ามาในประเทศไทยนับต่อไปนี้ลูกค้าคนไทยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปช้อปปิ้งแฟชั่นแบรนด์เนมมือสองที่ประเทศญี่ปุ่นอีกต่อไป โดยตามแผนงานในช่วงต่อไปนี้คาดว่าจะเปิดเพิ่มอีก 3-4 สาขา และคาดหมายยอดขายจะถึง 300-400 ล้านบาท ในอีก 3-4 ปีข้างหน้า



“สาขาแรกในประเทศไทยจะมีสินค้าจำหน่ายอยู่ประมาณ 400 ชิ้น รวมกับสินค้าในเว็บไซต์ซึ่งเพิ่งเปิดให้บริการเช่นเดียกันคือ www.komehyo.co.th มีสินค้าให้เลือกอีกกว่า 600 ชิ้น รวมแล้วกว่า 1,000 ชิ้น ซี่งสินค้าส่วนใหญ่ 90% จะเป็นกระเป๋าแบรนด์เนมอันดับหนึ่งคือเบอกิ้น ตามด้วยชาแนล และหลุยวิตตอง ขณะที่นาฬิกาอันดับหนึ่งจะเป็นนาฬิกาแบรนด์ปาเต๊ะ ฟิลลิป ตามด้วยแบรนด์โรเล็กซ์”

นายอิชิฮาร่า กล่าวว่า บริษัทได้เปิดทำธุรกิจ Reuse ที่ประเทศญี่ปุ่นมาแล้วกว่า 70 ปี เป็นรูปแบบธุรกิจที่ทำการรับซื้อสินค้ามาจากลูกค้าที่ไม่ได้ใบ้ของสิ่งนั้นแล้ว เอามาทำการซ่อมแซมเพื่อจำหน่ายต่อลูกค้าที่มีความต้องการสินค้านั้นๆ  โดยจุดเริ่มต้นของการ Reuse คือการใช้สิ่งของอย่างทะนุถนอมและให้เกิดความคุ้มค่าของสิ่งของมากที่สุด สุดท้ายจะนำไปสู่สังคมแห่งการแบ่งปัน โดยธุรกิจ Reuse ดังกล่าวนี้นับเป็นเพียง 10% ของตลาดแฟชั่นแบรนด์เนมเท่านั้น เพราะส่วนใหญ่ 90% ของบรรดาผู้ใช้มักจะเก็บไว้ใช้เอง 

สำหรับธุรกิจของบริษัทในต่างประเทศในขณะนี้ร่วมทุนกับทางประเทศจีน และเปิดธุรกิจโฮลเซลในฮ่องกง ส่วนไทยเป็นประเทศแรกที่เปิดในรูปแบบสาขาแฟล็กชิปสโตร์ฺ