โควิด-19ถล่มส่งออกสินค้าภายใต้เอฟทีเอ-จีเอสพี

  • ช่วงครึ่งปีแรกมีมูลค่าส่งออกแค่3หมื่นล้านเหรีญฯดิ่ง14.26%
  • ใช้สิทธิส่งออกไปอาเซียนอันดับ19พันล้านเหรียญฯลดฮวบ23.36%
  • แต่สินค้าเครื่องมือแพทย์ อาหาร เครื่องดื่ม ยังเจ๋ง ส่งออกขยายตัว

นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยถึงการใช้สิทธิประโยชน์สำหรับการส่งออกภายใต้ความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) และสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป (จีเอสพี) ระหว่างเดือนม.ค.-มิ.ย.63 ว่า  มูลค่าการใช้สิทธิรวม 30,848.59 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลง 14.26% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มีสัดส่วนการใช้สิทธิ 78.61%  แบ่งเป็นมูลค่าการใช้สิทธิภายใต้เอฟทีเอ 28,534.28 ล้านเหรียญฯ ลดลง 15.47%  และมูลค่าการใช้สิทธิภายใต้จีเอสพี 2,314.31 ล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้น 4.07%  

“สาเหตุที่ทำให้มูลค่าการใช้สิทธิในภาพรวมลดลง เพราะได้รับผลกระทบหลักจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 กดดันการส่งออกทั่วโลก สอดคล้องกับทิศทางการส่งออกของไทย แต่ไทยยังมีศักยภาพส่งออกสินค้าที่มีความต้องการสูงในช่วงการแพร่ระบาด โดยเฉพาะสินค้าเครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ ซึ่งมีการใช้สิทธิเพิ่มขึ้นในหลายเอฟทีเอ รวมถึงกลุ่มเครื่องดื่ม อาหาร เกษตรแปรรูปที่เพิ่มต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี 63”

สำหรับตลาดที่ไทยส่งออกโดยมีมูลค่าการใช้สิทธิภายใต้ เอฟทีเอสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ อาเซียน มูลค่า 9,490.68 ล้านเหรียญฯ ลดลง 23.38%  ตามด้วยจีน 9,567.64 ล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้น 3.74% , ญี่ปุ่น 3,402.10 ล้านเหรียญฯ ลดลงกว่า 20%, ออสเตรเลีย 2,937.55 ล้านเหรียญฯ และ ลดลงกว่า 20%, อินเดีย 1,573.08 ล้านเหรียญฯ ลดลงกว่า 20%    

ส่วนการใช้สิทธิภายใต้จีเอสพี 4 ระบบ คือ สหรัฐฯ สวิตเซอร์แลนด์ รัสเซียและเครือรัฐเอกราช และนอร์เวย์นั้น ตลาดส่งออกที่ไทยมีมูลค่าการใช้สิทธิมากที่สุดคือ สหรัฐฯ มีมูลค่า 2,043.32 ล้านเหรียญฯ 1.39% และมีสัดส่วนการใช้สิทธิ 85.24% ของมูลค่าสินค้าที่ได้รับสิทธิ 2,397.27 ล้านเหรียญฯ ตามด้วย สวิตเซอร์แลนด์ 177.58 ล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้น 37.65% , รัสเซียและเครือรัฐเอกราช 76.54 ล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้น 11.29 % และนอร์เวย์ 16.87 ล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้น 59.30%