“แอลทีวี” จำเลยทำสินเชื่อบ้านวูบจริงหรือ!! “สมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย” ชูแอลทีวีเป็นผลดีให้คนไทยรู้จักเก็บออม ไม่ก่อหนี้เกินตัว

  • สมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย ชี้สถานการณ์การอนุมัติสินเชื่อปี 62 โต 4% แต่ไม่หวืดหวา
  • รับมาตรการแอลทีวีมีผลกระทบ มองเป็นสิ่งดีเพราะจะเปลี่ยนิสัยคนไทยไม่ก่อหนี้เกินตัว
  • เผยปีนี้บ้านมือสองออกมาเพียบ เหตุแบงก์ระบายเอ็นพีแอลที่ปัจจุบันแตะ 3.11%

นายกิตติ พัฒนพงศ์พิบูล ประธานสมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย เปิดเผยว่า สถานการณ์การอนุมัติสินเชื่อที่อยู่อาศัยโดยรวมปี 2562 คาดจะเติบโต 4% ซึ่งหากเทียบกับช่วงปีก่อนหน้าถือว่าเติบโตลดลง โดยปี 2561 เติบโตที่ 7% แน่นอนเหตุที่ยอดปล่อยสินเชื่อลดลงก็เป็นผลมาจากแบงก์มีความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ มาตรการกำหนดอัตราสินเชื่อต่อมูลค่าที่อยู่อาศัย (แอลทีวี) ที่บังคับใช้ไปแล้ว ส่งผลให้ลูกค้ากลุ่มซื้อเพื่อเก็งกำไรหายไป รวมถึงภาวะเศรษฐกิจโดยรวมมีการเติบโตในทิศทางที่ชะลอตัว 

กิตติ พัฒนพงศ์พิบูล

ทั้งนี้ในส่วนของการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล ช่วง 5 เดือนแรกปีนี้ (ม.ค.-พ.ค.) โดยตัวเลขจากศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติ พบว่ามีจำนวนรวมทั้งสิ้น 71,019 ยูนิต แบ่งเป็นบ้านใหม่ 41,990 ยูนิต หรือ 71% และบ้านมือสอง 29,029 ยูนิต หรือ 29% ในด้านมูลค่ามียอดโอนกรรมสิทธิ์รวม 200,245 ล้านบาท แบ่งเป็นบ้านใหม่ 141,360 ล้านบาท หรือ 71% และบ้านมือสอง 58,885 ล้านบาท หรือ 29% 

“ในปีนี้คาดว่าแนวโน้มการโอนกรรมสิทธิ์กรุงเทพฯ ปริมณฑล อยู่ที่ 145,300-177,600 ยูนิต ด้านมูลค่าการโอนฯอยู่ที่ 431,900-527,900 ล้านบาท ซึ่งหากเทียบกับช่วงปีก่อนจำนวนยูนิตลดลง 17.9% และจำนวนมูลค่าลดลง 15.1%”

นายกิตติ กล่าวว่า ปีนี้ถือเป็นโอกาสดีของคนที่อยากมีบ้าน โดยเฉพาะใครที่มองหาบ้านมือสอง เพราะเหล่าธนาคารพาณิชย์จะระบายทรัพย์สินรอการขาย ณ ธ.ค.2562 อยู่ที่ 138,511 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่อยู่ที่ 93,065 ล้านบาท ทั้งนี้ในช่วงครึ่งปีแรก 2562 ระบายออกมาแล้ว 92,528 ล้านบาท ทั้งนี้ปัจจุบัน ณ มิ.ย.2562 ธนาคารพาณิชยของไทยมีเอ็นพีแอลรวมอยู่ที่ 3.11% ต่อสินเชื่อรวม หรือเป็นจำนวนเงิน 447,027 ล้านบาท 

“ในส่วนของประเด็นแอลทีวี ผมมองว่าเป็นมาตรการที่ดี เพราะจะทำให้คนไทยมีความระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น รู้จักการออมเพื่อซื้อทรัพย์สิน ไม่ก่อหนี้เกินตัว รวมถึงประเด็นผู้กู้ร่วมก็เป็นส่วนหนึ่งที่ต่อไปนี้ต้องคิดให้รอบคอบว่าในอนาคตเราจะซื้อบ้านเองหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาการหาผู้มากู้ร่วมก็เพื่อต้องการให้ธนาคารอนุมัติผ่าน แต่ถึงเวลาผ่อนกลับผ่อนไม่ไหวก็มีประเด็นนี้เยอะ”

ทั้งนี้หากเทียบกับต่างประเทศมาตรการของไทยถือว่าไม่เข้มข้น เช่น ที่ปักกิ่ง ไต้หวัน ซื้อบ้านหลังแรกต้องวางเงินดาวน์ 30% เกาหลีใต้บ้านหลังแรกวางดาวน์ 30-60% มาเลเซียหลังแรกก็วางดาวน์ 20% แต่มาเลเซียมีประเด็นที่น่าสนใจคือเขาแก้ปัญหาเรื่องบ้านผู้มีรายได้ โดยมีข้อบังคับให้ผู้ประกอบที่พัฒนาโครงการในประเทศต้องทำที่อยู่อาศัยให้ผู้มีรายได้น้อย 20-30% จากจำนวนโครงการเปิด

อลงกต บุญมาสุข

นายอลงกต บุญมาสุข เลขาธิการสมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย กล่าวว่า จากการที่สมาคมฯมีการใช้บิ๊กเดต้าและเทคโนโลยี ก็ทำให้พบความต้องการผู้ที่อยากมีบ้าน โดยพบว่า มีการศึกษาหาข้อมูลผ่านออนไลน์เป็นจำนวนมาก โดยเรื่องหลักๆจะเป็นเรื่องการขอสินเชื่อ มาตรการแอลทีวี โดยผู้ที่ค้นหาจะอายุเฉลี่ย 25-44 ปี โดยทำเลที่มีคนสนใจเยอะคือ คลองหลวง เมืองนนทบุรี ปากเกร็ด ส่วนใหญ่ยังเป็นในกลุ่มที่มองหาที่อยู่ประเภทบ้านแนวราบเป็นหลัก

“การที่มาตรการแอลทีวีมีผลบังคับใช้ ก็ยอมรับว่ามีผลให้กลุ่มธนาคารพาณิชย์มีการปรับตัวกันเยอะ ทั้งการออกแคมเปญสินเชื่อต่างๆมาจูงใจ ใช้เทคโนโลยีมาช่วยวิเคราะห์เพื่อนำเสนอความต้องการให้ต้องกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงกลุ่มผู้ประกอบการการมีการปรับตัวรับมือพอควร ทั้งการควบคุมต้นทุน เปิดโครงการที่รอบคอบมากขึ้นเน้นทำเลที่มีความต้องการจริงๆ”

อย่างไรก็ตามทางสมาคมฯยังเตรียมจัดงาน NPA Grand Sale & Home Loan 2019 มหกรรมบ้านมือสองและสินเชื่อแห่งปี เพื่อให้คนที่ฝันอยากมีบ้านได้มีโอกาส โดยจัดวันนี้ – 1 ก.ย.2562 ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี