“แสนสิริ” ปรับเป้าปี 63 ยอดขายโต 67% จากเป้าหมายเดิม 29,000 ล้านบาท เป็น 35,000 ล้านบาท

  • Sold out ปิดการขายไปถึง 16 โครงการ ในรอบ 5 เดือน
  • จ่อคิวปิดขาย เดอะ เบส สุขุมวิท 50 ในเดือน มิ.ย.นี้

นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชนหรือ SIRI   เปิดเผยว่า แสนสิริได้มีการพิจารณาปรับเป้าหมายยอดขายรวมในปี 2563 จากเดิมที่ตั้งไว้ 29,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็น 35,000 ล้านบาท เติบโตขึ้น 67%จากปีก่อนที่มียอดขายรวม 21,000 ล้านบาท หลังยอดขายในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา พุ่งสูงไปถึง 22,000 ล้านบาท เติบโตขึ้นถึง 168% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนและคิดเป็น 76% จากเป้าหมายยอดขายเดิมที่ตั้งไว้ 29,000 ล้านบาท 

ทั้งนี้ความสำเร็จมาจากการตอบรับของลูกค้าจากความเชื่อมั่นในแบรนด์แสนสิริ จากการเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งของคนอยากมีบ้านในวงการอสังหาฯ ไทยและการดำเนินธุรกิจ ด้วยกลยุทธ์การตลาดที่แข็งแกร่งนำหน้าคู่แข่ง อาทิ การเป็นผู้นำในการเปิดตัวแคมเปญ “แสนสิริผ่อนให้ 24 เดือน” ที่คิดจากความเข้าใจใน Customer Insight จากการจองซื้อที่อยู่อาศัยแล้ว ไม่ต้องจ่ายทั้งต้นทั้งดอกเป็นเวลา 2 ปี ลูกค้านำเงินไปใช้จ่ายอย่างอื่นตามต้องการได้ ไม่ต้องกังวลกับสภาพเศรษฐกิจ ส่งผลให้ลูกค้าให้การตอบรับสูงและรวดเร็ว

นอกจากนี้ภายใต้สถานการณ์โควิด-19 ยังทำให้แสนสิริต้องเร่งการขายโครงการที่อยู่อาศัยต่างๆ ให้เร็วกว่าแผนเดิมเพื่อแข่งขันกับสภาพตลาด (Speed to Market) ส่งผลให้มียอดขายและยอดโอนที่ดี สวนกระแสตลาดหดตัว จนต้องมีการปรับเป้ายอดขายทั้งปี ภายในระยะเวลาเพียง 5 เดือนแรกของการดำเนินธุรกิจ โชว์ผลงานปิดการขายโครงการต่อเนื่องไปแล้ว 16 โครงการ และคาดว่าจะสามารถปิดการขายเดอะ เบส สุขุมวิท 50 ได้ในเดือน มิ..นี้ 

ความสำเร็จจากการดำเนินธุรกิจในช่วงที่ผ่านมารวมถึงแนวโน้มสถานการณ์อสังหาฯ ที่ดีขึ้น ทำให้บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถสร้างยอดขายได้ตามเป้าหมายใหม่ที่วางไว้ขณะที่รายได้และกำไรมีแนวโน้มที่สูงขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 2 เป็นต้นไป จากการเร่งโอนคอนโดมิเนียมก่อสร้างแล้วเสร็จ อาทิ “คาวะ เฮาส์” รีสอร์ทคอนโดริมน้ำกลางสุขุมวิท ที่มียอดขายแล้วกว่า 80%, “เดอะ เบส สุขุมวิท 50” คอนโดมิเนียมที่ลงตัวด้วยฟังก์ชั่นและงานดีไซน์ สะท้อนความเป็นตัวคุณ ที่จ่อคิวใกล้ปิดการขาย รวมถึงแผนรุกเปิดตัวโครงการแนวราบอีก 12 โครงการ มูลค่ารวม 15,200 ล้านบาท” นายเศรษฐากล่าว

นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนรุกธุรกิจที่แข็งแกร่งในช่วงที่เหลือของปี ภายใต้การบริหารธุรกิจ 3 แนวทางได้แก่  แผนการเปิดตัวโครงการใหม่ที่รัดกุมพร้อมปรับเปลี่ยนไปตามทุกสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา โดยหลังจากนี้เตรียมเปิดโครงการใหม่อีก 14 โครงการรองรับเรียลดีมานต์ แบ่งเป็นบ้านเดี่ยว 6 โครงการ ทาวน์โฮมและมิกซ์โปรเจคต์อีก 6  โครงการ และคอนโดมิเนียม 2 โครงการ การบริหารสต็อกที่ดี ทั้งนี้ ปัจจุบันแสนสิริ มีสินค้าพร้อมขายมูลค่าประมาณ8,000 ล้านบาท ซึ่งนับว่าเป็นปริมาณที่มีความสุมดุลในตลาด ซึ่งเป็นผลมาจากการวางแผน Inventory ที่ดี และประการสุดท้ายคือ การบริหารกระแสเงินสดที่แข็งแกร่งและสภาพคล่องที่ดี ด้วยการกำ Cash Flow เงินหมุนเวียนในบริษัทไว้ถึง 10,000 ล้านบาท มีความพร้อมในการดำเนินธุรกิจและมีความแข็งแกร่งในทุกสภาวการณ์ รวมถึงสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน คือ การยืนหยัดความเป็นแบรนด์ที่ลูกค้าเชื่อมั่น ดูแลลูกค้าอย่างดีที่สุดและพร้อมช่วยเหลือสังคม เพื่อก้าวผ่านทุกสถานการณ์ไปด้วยกัน