“แบงก์ชาติ” ยันค่าบาทผันผวนยังไม่กระทบเศรษฐกิจไทย

นายปิติ ดิษยทัต ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ได้ชี้แจงกับนักลงทุนว่า แนวโน้มเศรษฐกิจในระยะข้างหน้ายังเป็นไปตามที่ ธปท. คาดการณ์ไว้ แม้ว่าจะมีความเป็นห่วงในเรื่องของเศรษฐกิจโลกที่มีพัฒนาการชะลอตัวลง แต่ภาพรวมก็ไม่ได้กระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยมากนัก ซึ่งเศรษฐกิจไทยปีนี้ยังมีแรงส่งในเรื่องภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคในประเทศ ไม่ได้มาจากปัจจัยต่างประเทศมากนัก จึงยังมีแรงทนทานต่อเศรษฐกิจโลก ส่วนปีหน้าก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

ทั้งนี้ คาดว่าเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3/2565 ที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ จะประกาศในวันที่ 21 พ.ย. นี้ เชื่อว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ไม่ต่ำกว่า 3% เป็นการเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/2565 ที่ 2.5% และไตรมาส 1/2565 ที่ 2.2% ซึ่งสอดคล้องกับประมาณการของ ธปท. ทั้งปีนี้ที่คาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวได้ 3.3%

ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือน ต.ค. 2565 ยังเป็นไปตามที่ ธปท. คาด หลังจากที่ขึ้นไปสูงสุดในเดือน ส.ค. 2565 ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานโดยธรรมชาติก็จะปรับตัวตามอัตราเงินเฟ้อทั่วไป โดยคาดว่าจะขึ้นไปถึงจุดสูงสุดในช่วงปลายปีนี้ ถึงต้นปีหน้า ซึ่ง ธปท. ยืนยันว่าอัตราเงินเฟ้อที่เริ่มชะลอตัวลงแล้วนั้น ก็ยังไม่เบาใจ แต่อย่างน้อยก็ถือว่ายังไม่มีปัจจัยอะไรที่ผิดไปจากที่คาดการณ์ จนต้องมาทบทวนแนวโน้มเศรษฐกิจใหม่อีกครั้ง

นายปิติ กล่าวต่ออีกว่า ในส่วนของการเปลี่ยนแปลงของค่าเงินบาทในช่วงที่ผ่านมานั้น ยืนยันว่าการเคลื่อนไหวของค่าเงินไม่กระทบกับเสถียรภาพเศรษฐกิจโดยรวมมากนัก ซึ่งค่าเงินที่แข็งขึ้นในระยะที่ผ่านมา อยู่ที่ว่าเราดูตรงจุดไหน ถ้ามองตั้งแต่ต้นปี จะพบว่าค่าเงินยังอ่อนค่า 7% แต่ในระยะสั้นค่าเงินที่แข็งค่าขึ้นเป็นไปตามการเคลื่อนไหวของค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ แต่ยังไม่พบความผิดปกติของการเปลี่ยนแปลงค่าเงิน

นิกจากนั้นในส่วนของการเคลื่อนย้ายเงินทุนยังอยู่ในภาวะปกติทั้งตลาดการเงินและตลาดทุน ซึ่งที่ผ่านมาเป็นการเข้ามาของเงินทุนในระยะสั้นผ่านตลาดหุ้น แต่ก็เป็นเรื่องปกติ เป็นธรรมชาติของนักลงทุนที่จะเลือกลงทุนในประเทศที่สนใจและมีพื้นฐานเศรษฐกิจที่ดี แต่ในภาพรวมก็ไม่ได้มีปัญหา ค่าเงินยังอยู่ในระดับที่เหมาะสม ไม่ได้เป็นการสร้างผลกระทบกับการขยายตัวของเศรษฐกิจ

“ธปท.ไม่ได้เบาใจเรื่องค่าเงิน มีการจับตาโดยตลอด ซึ่งก็ไม่อยากให้เห็นค่าเงินมีความผันผวนมาก เป็นไปตามแนวนโยบายที่วางไว้ โดยการเคลื่อนไหวของค่าเงินในช่วงที่ผ่านมาถือว่ายังอยู่ในขอบเขต” นายปิติ กล่าว

นายปิติ กล่าวอีกว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะมีการพิจารณาทบทวนการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย ปี 2565 รอบใหม่ ในวันที่ 30 พ.ย. นี้ ซึ่งจากการพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนัก ยังมีทิศทางที่ดีจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น ส่วนจะมีการตัดสินใจหยุดขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจปีหน้า ถ้าเศรษฐกิจอิ่มตัว อัตราเงินเฟ้อกลับมาก็จะมาดูแนวนโยบายว่าเป็นอย่างไร แต่ตอนนี้เศรษฐกิจไทยยังอยู่ในช่วงของการฟื้นตัว การทำนโยบายการเงินจึงยังต้องเป็นไปตามทิศทางเดิมที่วางไว้