แบงก์กรุงศรีได้ใจหญิงแกร่งเจ้าของเอสเอ็มอี

  • แบงก์กรุงศรีระดม220ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯออกพันธบัตรขายIFC-DEG
  • ปล่อยกู้ผู้ประกอบการหญิง เจ้าของธุรกิจเอสเอ็มอี
  • ช่วยเพิ่มประสิทธิผล ยกระดับมาตรฐานความเป็นอยู่ของครอบครัว และส่งเสริมความสามัคคีในสังคม

กรุงเทพฯ (23 สิงหาคม 2562) – บรรษัทการเงินระหว่างประเทศ (International Finance Corporation หรือ IFC) ซึ่งเป็นองค์กรสมาชิกกลุ่มธนาคารโลก (World Bank Group) และ DEG (Deutsche Investitions und Entwicklungsgesellschaft) ตกลงที่จะซื้อพันธบัตรเพื่อผู้ประกอบการหญิง (Women Entrepreneurs Bonds) ที่จะออกโดยธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ในจำนวนไม่เกิน 220 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายใต้การสนับสนุนด้านการลงทุนจากโครงการสร้างโอกาสให้แก่ผู้ประกอบการหญิง (Women Entrepreneurs Opportunity Facility: WEOF) ซึ่งเป็นโครงการที่ริเริ่มโดย IFC และ Goldman Sachs 10,000 Women การออกพันธบัตรให้แก่ผู้ลงทุนในต่างประเทศมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดหาแหล่งสินเชื่อให้แก่กิจการ SME ที่มีผู้หญิงเป็นเจ้าของหรือผู้บริหาร (Women-led small and medium-sized enterprises หรือ WSMEs) ในประเทศไทย

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ “กรุงศรี” เป็นหนึ่งในธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ที่ให้บริการทางการเงินครบวงจร โดยเป็นผู้นำในตลาดการเงินเพื่อลูกค้ารายย่อยและลูกค้าธุรกิจ SME ได้เตรียมออกพันธบัตรเพื่อสังคมเสนอขายให้ผู้ลงทุนในต่างประเทศภายในเดือนตุลาคมปีนี้ โดย IFC และ DEG จะซื้อพันธบัตรดังกล่าวในจำนวนไม่เกิน 150 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และจำนวนไม่เกิน 70 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ตามลำดับ โดยมีบริษัท MUFG Securities Asia Limited เป็นที่ปรึกษา (Bond Structuring Advisor) ผู้จัดจำหน่าย และตัวแทนการขายแต่เพียงผู้เดียว

การออกพันธบัตรครั้งนี้เป็นการออกพันธบัตรที่คำนึงถึงเพศสภาพ (Gender Bond) โดยภาคเอกชนเป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และเป็นพันธบัตรเพื่อสังคมที่ออกเป็นครั้งแรกในตลาดเกิดใหม่ในเอเชียตามหลักการพันธบัตรเพื่อสังคมของสมาคมตลาดทุนสากล (International Capital Markets Association Social Bond Principles) และมาตรฐานพันธบัตรเพื่อสังคมแห่งอาเซียน (ASEAN Social Bond Standards)

นายเซอิจิโระ อาคิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกรุงศรีกล่าวว่า “กรุงศรียึดมั่นในการสร้างการเติบโตทางธุรกิจที่พร้อมช่วยสนับสนุนด้านเงินทุนอย่างทั่วถึงในทุกกลุ่มลูกค้า ซึ่งรวมถึงกลุ่มลูกค้าที่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน อาทิ ผู้ประกอบการ SME ที่มีเจ้าของหรือผู้บริหารเป็นผู้หญิง การออกพันธบัตรครั้งนี้ตอกย้ำพันธสัญญาของธนาคารในการเป็นพลเมืองภาคธุรกิจที่ดี (Corporate Citizen) รวมทั้งความมุ่งมั่นในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ”
ผู้ประกอบการ SME มากกว่าครึ่งในประเทศไทยโดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการหญิงขาดโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน ความต้องการเงินทุนของผู้ประกอบการหญิงเหล่านี้มีมูลค่ากว่า 25 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบเท่าร้อยละ 61 ของความต้องการเงินทุนที่ยังขาดแคลนสำหรับผู้ประกอบการรายย่อยและผู้ประกอบการ SME ทั้งหมดในประเทศไทย

นายออกุสโต คิง ผู้บริหารสูงสุดตลาดตราสารหนี้ด้านสินเชื่อและพันธบัตร เอเชียแปซิฟิก ของ MUFG กล่าวว่า “การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนเป็นนโยบายที่สำคัญของ MUFG การออกพันธบัตรครั้งนี้จะสร้างโอกาสให้ผู้กลุ่มประกอบการหญิงในประเทศไทยในการยกระดับธุรกิจให้พัฒนาและเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งอย่างแท้จริง”

การออกพันธบัตรเพื่อสังคมซึ่งได้รับการรับรองแล้วนี้ จะช่วยสนับสนุนวงเงินสินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบการ SME หญิงซึ่งเป็นกลุ่มที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและช่วยเพิ่มอัตราการจ้างงานในประเทศ ทั้งนี้การออกพันธบัตรครั้งนี้ยังมีส่วนสำคัญในการส่งเสริมความโปร่งใสในการสร้างความเติบโตของตลาดพันธบัตรเพื่อสังคมในภูมิภาคเอเชีย

นางสาวโมนิกา เบ็ค กรรมการบริหารของ DEG กล่าวว่า “DEG มีความภูมิใจที่ได้ร่วมมือกับกรุงศรีและ IFC ในการออกพันธบัตรที่คำนึงถึงเพศสภาพ (Gender Bond) โดยภาคเอกชนในประเทศไทยเป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นการสะท้อนพันธสัญญาของ DEG ในการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของผู้หญิงในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิผล ยกระดับมาตรฐานความเป็นอยู่ของครอบครัว และส่งเสริมความสามัคคีในสังคม”

พันธบัตรเพื่อสังคมช่วยระดมเงินทุนให้แก่โครงการที่จะช่วยยกระดับคุณภาพสังคมโดยรวม จึงถือเป็นสินทรัพย์ที่น่าลงทุนสำหรับนักลงทุนโดยทั่วไป อีกทั้งยังช่วยสร้างโอกาสในการสนับสนุนโครงการหลากหลายที่สร้างผลเชิงบวกให้กับสังคม

พันธบัตรเพื่อสังคมที่ออกโดยกรุงศรีจะให้การสนับสนุนสินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการ SME หญิงซึ่งนับว่าเป็นสินทรัพย์ที่น่าลงทุนสำหรับกลุ่มนักลงทุน และยังเป็นพัฒนาการที่สำคัญในการออกตราสารในตลาดทุนที่สนับสนุนโครงการที่เป็นประโยชน์และรับผิดชอบต่อสังคมทั้งในประเทศไทยและในภูมิภาคเอเชีย การออกพันธบัตรในครั้งนี้จึงสร้างชื่อให้กรุงศรีอยู่ในตำแหน่งผู้บุกเบิกการสนับสนุนแหล่งเงินทุนสำหรับกลุ่มผู้หญิงในประเทศไทย
นางสาวคริสตินา ชาพีโร Global Director ของ 10,000 Women กล่าวว่า “เรามุ่งเน้นในเรื่องการเข้าถึงแหล่งเงินทุนและการศึกษาของผู้ประกอบการหญิง ดังนั้น เราจึงสนับสนุนการออกพันธบัตรที่คำนึงถึงเพศสภาพ (Gender Bond) โดยภาคเอกชนเป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกนี้ งานวิจัยของ Goldman Sachs สะท้อนให้เห็นว่าการช่วยตอบสนองด้านความต้องการเงินทุนสำหรับกิจการ SME ที่มีผู้หญิงเป็นเจ้าของในตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets) จะช่วยให้รายได้ต่อหัวของประชากรเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย
ร้อยละ 12 ภายในปี 2573 ผู้ประกอบการหญิงในไทยจึงมีศักยภาพในการร่วมผลักดันประเทศสู่ความเติบโตในอนาคต”

นายฟิลิป เลอ อูเอรู ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร IFC กล่าวว่า “พันธมิตรระหว่าง IFG กรุงศรี และ DEG ได้ช่วยพัฒนาเครื่องมือด้านตลาดทุนให้กับประเทศไทยและภูมิภาคนี้ ตราสารอย่างพันธบัตรเพื่อผู้ประกอบการหญิง (Women Entrepreneurs Bonds) จะทำให้นักลงทุนได้รับประสบการณ์ในลักษณะที่ IFC ได้ตั้งข้อสังเกตไว้ นั่นคือ ผู้ประกอบการหญิงเป็นกลุ่มหนึ่งที่สร้างความเติบโตและความยั่งยืนให้แก่ธนาคาร ชุมชน และประเทศโดยรวม การลงทุนเพื่อผู้ประกอบการหญิงจะส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีให้แก่ครอบครัว ในขณะเดียวกันก็ยังช่วยขับเคลื่อนธุรกิจไปข้างหน้า ซึ่งทำให้มั่นใจว่าเส้นทางการเติบโตของประเทศจะเป็นไปอย่างทั่วถึงและยั่งยืน”