ฝรั่งเศสแฉมะกันจ่าย3เท่าฉกหน้ากากตัดหน้า
มีรายงานข่าวว่า ผู้ซื้อจากสหรัฐกำเงินสดสามารถสั่งซื้อหน้ากากป้องกันไวรัสโควิด-19 ได้ โดยหน้ากากถูกโหลดบนเครื่องบินในมหาครเซี่ยงไฮ้เป็นที่เรียบร้อยเพื่อมุ่งหน้าส่งมอบไปยังประเทศฝรั่งเศส แต่ท้ายสุดเครื่องบินมุ่งหน้าไปส่งสินค้าที่ประเทศสหรัฐแทน เพราะว่าจ่ายเงินสดให้ราคาสูงกว่า 3 เท่า
ฌอง โฮตเนอร์ ซึ่งเป็นนายแพทย์และเป็นประธาน GrandEst regional council กล่าวว่า ส่วนหนึ่งของออร์เดอร์หน้ากากจำนวนหลายล้านชิ้นที่มุ่งหน้าไปนังภูมิภาคนี้ซึ่งเป็นสถานที่สีผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยหนักสูญเสียผู้ซื้อ เมื่อสินค้าของพวกเขจามาถึงก็รับเงินสดทันที พวกเราต้องต่อสู้กันจริงๆ
โฮตเนอร์ ไม่ได้ระบุตัวผู้ซื้อว่าพวกเขาทำงานให้ใครหรือระบุว่า ทางการสหรัฐฯกำลังขนส่งสินค้าทางอากาศไปไหน แต่เจ้าหน้าที่ฝรั่งเศสอีกคนหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการจัดหาหน้ากากจากจีนกล่าวว่ากลุ่มนี้กำลังทำหน้าที่ให้กับรัฐบาลสหรัฐฯ
“มีต่างประเทศยินดีจ่ายแพงกว่า 3 เท่าของราคาสินค้า” เรนูอด์ มุสเซลญี่ หัวหน้าภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ Provence-Alpes-Côte d’Azur region กล่าวกลับ BFMTV ของฝรั่งเศส
เอเอฟพี อ้างแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโสว่า “รัฐบาลสหรัฐอเมริกาไม่ได้ซื้อหน้ากากใด ๆ ที่ส่งมาจากจีนจากประทศฝรั่งเศส รายงานตรงข้ามถือเป็นความเท็จทั้งหมด”
“จัสติน ทรูโด” นายกรัฐมนตรีของแคนาดา อธิบายรายงานดังกล่าวว่า “มีความกังวลและถามเจ้าหน้าที่ตรวจสอบการว่าหน้ากากที่กำลังส่งไปยังแคนาดา ได้มุ่งหน้าไปส่งประเทศอื่นแทนหรือไม่
“เราต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าสินค้าที่กำหนดส่งให้แคนาดามาถึงและอยู่ในแคนาดาและผมขอให้รัฐมนตรีติดตามรายงานเหล่านี้โดยเฉพาะ” เขากล่าว
ทางด้านประเทศบราซิล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข “ลูอิซ เอนรีเก มันเดตตา” กล่าวว่ามีความพยายามจะซื้ออุปกรณ์ป้องกันไวรัสโควิดเช่นถุงมือและหน้ากากจากประเทศจีนเมื่อไม่นานมานี้ แต่ล้มเหลว
“วันนี้สหรัฐได้ส่งเครื่องบินขนส่งสินค้าที่ใหญ่ที่สุดถึง 23 ลำไปยังประเทศจีนเพื่อรับสิ่งของที่พวกเขาได้มา เราหวังว่าความต้องการทางด้านอุปกรณ์จะลดลง เพราะทั้งโลกต้องการก็ต้องการด้วย ปัญหาคือมีความต้องการที่มากเกินไป”
“แมนเดตตา” เรียกร้องให้ชาวบราซิลผลิตหน้ากากจากผ้าเพื่อให้บุคลากรทางด้านการแพทย์มีใช้
ตุรกี รับเงินแล้วไม่ส่งหน้ากาก
ทั้งนี้ท่ามกลางโรคระบาดทวีความรุนแรงมากขึ้น หลายๆ รัฐบาลตื่นตนกพร้อมกับการถูกกล่าวหาใช้วิธีการที่เคลือบแคลง เพื่อสั่งซื้อสินค้าและอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อรับมือกับไวรัส กลยุทธ์มีตั้งแต่การบล็อกการส่งออกยาไปจนถึงการส่งสายลับในภารกิจลับเพื่อค้นหาชุดตรวจเชื้อโรค
ทางด้านตุรกีเองที่ห้ามการส่งออกหน้ากากก็ถูกกล่าวว่า ผิดสัญญาไม่ส่งสินค้าให้ประเทศอื่นแม้จะรับเงินไปแล้ว โดยสื่อจากเบลเยียมและอิตาลี ระบุว่า หน้ากากที่ในตุรกี เหล่านั้นไม่เคยมาถึง ในอิตาลีต้องใช้เวลานานกว่าสองสัปดาห์หลังจากมีการโทรศัพท์จากนายกรัฐมนตรี “จูเซปเป้ คอนเต” ไปยังประธานาธิบดีตุรกี “เรเจป ไตยิป แอร์โดอัน” เพื่อให้ส่งหน้ากากมา ในเบลเยียมยังไม่มีการส่งแม้ว่าจะมีการร้องเรียนอย่างเป็นทางการจากกระทรวงสาธารณสุขของประเทศ
ตุรกียังขู่ว่าจะเป็นผู้ควบคุมผู้ผลิตหน้ากากในประเทศเพื่อให้แน่ใจว่าจะเพียงพอต่อบความต้องการใช้ในประเทศ ข่าวระบุว่า ทางการจะยึดโรงงานผลิตหาก บริษัท ต่างๆไม่เห็นด้วยที่จะขายเอ็กซ์คลูซีฟให้กระทรวงสาธารณสุข
ประเทศจีนซึ่งเป็นผู้ผลิตหน้ากากรายใหญ่ที่สุดของโลกเป็นประเทศแรกที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดไวรัส และถูกกล่าวหาว่าเป็นกักตุนสินค้า ซึ่งหลายๆ ประเทศได้หันไปหาผู้ผลิตประเทศอื่น
ขณะที่ทำส่งออกหน้ากากหรือบริจาคหน้ากากจำนวนหลายล้านตัวให้กับยุโรป การจัดส่งหนึ่งครั้งที่ถูกส่งไปยังอิตาลีนั้นผ่านสาธารณรัฐเช็ก ซึ่งยึดโดยเจ้าหน้าที่ภายใต้สถานการณ์ที่ขัดแย้งกัน
แต่หน่วยงานเช็กปฏิเสธข้อกล่าวหาเรื่องการขโมย แต่ถูกยึดจากพวกค่าผิดกฏหมาย และระบุภายหลังว่ารัฐบาลเช็กได้ส่งหน้ากาก 110,000 ใบไปยังกรุงโรมเพื่อชดเชย
ยิวต้องใช้สปายเผื่อซื้อแหล่งผลิตศัตรู
มีเหตุการณ์คล้ายกันเกิดขึ้นในประเทศเคนยาซึ่งมีการขนส่งหน้ากากยาวถึง 6 ล้านชิ้น ส่งไปประเทศเยอรมนีก็หายไปอย่างลึกลับขณะผ่านประเทศในแอฟริกาตะวันออกแและไม่มีการรับผิดขอบแต่อย่างใด
ทางด้านประเทศอิสราเอล หน่วยข่าวกรอง Mossad ได้เปิดตัวปฏิบัติการระดับสากลเพื่อไปค้นหาแหล่งซื้อชุดตรวจเชื้อโควิด-19 หลายแสนชุด ซึ่งไม่ต้องการข้กตกลงที่เป็นสาธารณะ หากต้องไปซื้อจากแหล่งผลิตประเทศที่เป็นศัตรูในกรณีของปาเลสไตน์
