“เอไอเอส” แรงต่อเนื่อง ไตรมาส2 กำไร 8,234 ล้านบาท

  • เติบโตต่อเนื่อง4 ไตรมาสพร้อมจ่ายเงินปันผล3.78 บาทต่อหุ้น
  • เตรียมลุยทดสอบ5จีเต็มพิกัด 
  • ดัน”ซีเอสแอล”ปั๊มลูกค้าองค์กร  ตลาดไฟเบอร์ยังแรงไม่ยั้ง

นายสมชัยเลิศสุทธิวงค์ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทแอดวานซ์อินโฟร์เซอร์วิสจำกัด(มหาชนหรือเอไอเอสเปิดเผยว่าไตรมาสปี2562 เอไอเอสยังคงมีรายได้และกำไรเติบโตต่อเนื่องโดยรายได้รวมเติบโตขึ้น5.8% จากปีก่อนจากภาพรวมของการแข่งขันในตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นส่งผลให้รายได้ต่อเลขหมายสูงขึ้นเป็น263 บาทต่อเดือนและส่งผลให้รายได้จากธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่เติบโต5.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

 ปัจจุบันเอไอเอสยังคงความเป็นผู้นำอย่างแข็งแกร่งโดยมีจำนวนลูกค้าโทรศัพท์มือถือสูงสุดในตลาดที่41.5 ล้านเลขหมายขณะที่มีสัดส่วนลูกค้าที่ใช้4G สูงถึง66% และมีการใช้งานดาต้าเพิ่มขึ้นเป็น11.5 กิกะไบต์ต่อเดือนจาก8.9 กิกะไบต์ต่อเดือนในช่วงเดียวกันของปีที่แล้วส่วนธุรกิจอินเทอร์เน็ตบ้านAIS Fibre ยังคงมีรายได้เติบโตต่อเนื่องอย่างแข็งแกร่งด้วยอัตราการเติบโตกว่า26% ด้วยคุณภาพโครงข่ายและงานบริการที่ดีเยี่ยมพร้อมด้วยกลยุทธ์Fixed Mobile Convergence ที่ดึงดูดใจลูกค้าจนทำให้ในปัจจุบันAIS Fibre มีฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นเป็น855,400 รายครอบคลุมการใช้งานในพื้นที่57 จังหวัดทั่วประเทศและยังคงเน้นย้ำเป้าหมายจำนวนลูกค้า1 ล้านรายภายในสิ้นปีนี้ 

ทั้งนี้จากการควบคุมต้นทุนต่อเนื่องส่งผลให้ในไตรมาส2/2562 เอไอเอสมีกำไรสุทธิอยู่ที่8,234 ล้านบาท(ไม่รวมรายการพิเศษ) ปรับตัวเพิ่มขึ้น2.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนและ8.1% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมาคิดเป็นกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นสี่ไตรมาสติดต่อกันโดยยังคงคาดการณ์รายได้การให้บริการเติบโตทั้งปีที่4-6% และตั้งเป้าอัตรากำไรEBITDA ทั้งปีใกล้เคียงกับปีก่อนที่ประมาณ42-44% พร้อมจัดสรรงบลงทุน20,000 – 25,000 ล้านบาทสำหรับลงทุนทั้งในโครงข่าย4G และไฟเบอร์

นายสุทธิชัยกล่าวต่อว่านอกจากนี้เอไอเอสได้วางรากฐานต่อยอดการเติบโตในอนาคตโดยเฉพาะการเตรียมความพร้อมสู่5G ได้แก่1.  การพัฒนาขีดความสามารถของเทคโนโลยี5G ร่วมกับภาคส่วนต่างๆได้แก่หน่วยงานภาครัฐภาคเอกชนตลอดจนสถาบันการศึกษาทั่วประเทศเพื่อร่วมศึกษาวิจัยค้นคว้าและทดลองทดสอบ2. การรับจัดสรรคลื่นความถี่700MHz เพื่อก้าวสู่5Gโดยจะสามารถเริ่มใช้งานได้ในเดือนตุลาคมปีหน้าซึ่งคลื่นความถี่700MHz ถือเป็นคลื่นความถี่มาตรฐานของเทคโนโลยี5G ในย่านความถี่ต่ำที่มีคุณสมบัติเด่นในด้านความครอบคลุมจึงถือเป็นการสร้างความพร้อมสำหรับการให้บริการ5G ในอีก2-3 ปีข้างหน้าได้เป็นอย่างดี

3.ขยายตลาดกลุ่มลูกค้าองค์กรจากความแข็งแกร่งของAIS Business ผนึกเข้ากับCSLที่มีความเชี่ยวชาญในฐานะผู้ให้บริการOne Stop ICT Service แบบครบวงจรภายใต้กลยุทธ์3Ss ประกอบด้วยSolutions, Services และSystem Integration สนับสนุนการให้บริการData Center และCloud ให้แก่ธุรกิจองค์กรตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

4. พัฒนาบริการด้านIoT เพื่อส่งเสริมศักยภาพของธุรกิจไทยโดยนำโซลูชันNB-IoT Motor Tracker เข้ามาเสริมขีดความสามารถให้กับธุรกิจประกันภัยรถยนต์โดยบริษัทประกันภัยไทยวิวัฒน์จำกัดเป็นครั้งแรกด้วยความมุ่งมั่นพัฒนาบริการดิจิทัลที่ดีที่สุดสำหรับกลุ่มลูกค้าองค์กรในทุกอุตสาหกรรม

 “และสิ่งที่สำคัญไปกว่าความสำเร็จในแง่ธุรกิจเอไอเอสในฐานะภาคเอกชนของไทยยังตระหนักถึงการได้มีส่วนร่วมขับเคลื่อนประเทศชาติและดูแลคุณภาพชีวิตคนไทยในสังคมยุคดิจิทัลผ่านโครงการอุ่นใจไซเบอร์ภายใต้แนวคิด“ถ้าเราทุกคนคือเครือข่าย” เพื่อช่วยยกระดับมาตรฐานความรู้เท่าทันดิจิทัลผ่านเครื่องมือแบบทดสอบDQ รวมไปถึงได้ต่อยอด“ภารกิจคิดเผื่อ” องค์ความรู้สู่ระดับภูมิภาคในงานAIS ACADEMY for THAIs: to the Region ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมากที่จังหวัดเชียงใหม่และเตรียมจะจัดขึ้นต่อเนื่องที่จังหวัดขอนแก่นในช่วงกลางเดือนสิงหาคมนี้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น”