เอาให้ชัด! “องอาจ” เรียกร้องรัฐประกาศไทม์ไลน์เลือกตั้งท้องถิ่น อ้างโยกงบไปแก้ปัญหาโควิด ฟังไม่ขึ้น

  • ชี้งบประมาณจัดการเรื่องโควิด มี พ.ร.ก. 3 ฉบับ อยู่แล้ว
  • ตั้งข้อสังเกต เกิดจากทัศนคติของผู้มีอำนาจที่คุมท้องถิ่นหรือไม่
  • ไม่อยากให้อำนาจที่มีอยู่หลุดลอยไปหรือเปล่า
  • ถึงเวลาให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการเมืองระดับฐานรากแล้ว

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคและประธาน ..พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายวิษณุ เครืองามรองนายกรัฐมนตรี ยอมรับว่าการจัดเลือกตั้งมีปัญหาเรื่องงบประมาณ เพราะงบประมาณถูกโยกมาแก้ปัญหาโควิด-19 ว่า การอ้างไม่มีงบประมาณ เป็นข้ออ้างที่ฟังไม่ขึ้น ที่อ้างว่าต้องนำงบประมาณไปแก้ปัญหาโควิด-19 ยิ่งตลกเข้าไปใหญ่ เพราะงบประมาณที่ใช้แก้ปัญหาโควิด-19 รวมถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมจากโควิด-19 ก็มี ... 3 ฉบับ ที่สามารถมีงบประมาณมาใช้จ่ายในเรื่องที่เกี่ยวกับโควิด-19 อยู่แล้ว รวมทั้งขณะนี้จะมีงบประมาณจาก...โอนงบประมาณอีกส่วนหนึ่งมาใช้จ่ายเรื่องโควิด-19 ด้วย

นายองอาจ กล่าวด้วยว่า การที่รัฐบาลยังไม่ให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่น โดยอ้างว่าไม่มีงบประมาณ น่าจะเกิดจากทัศนคติของผู้มีอำนาจที่คุมท้องถิ่นไว้ในมือมานานหลายปี จนไม่อยากให้อำนาจที่มีอยู่หลุดลอยไป รัฐบาลควรคืนอำนาจให้ประชาชนเลือกตั้งท้องถิ่นได้แล้ว ไม่ควรมีข้ออ้างใดๆ มาถ่วงเวลาไม่ให้ประชาชนใช้สิทธิ์ใช้เสียงของตนเองตามระบอบประชาธิปไตยในการกำหนดการบริหารจัดการท้องถิ่นด้วยมือของตนเอง

ทั้งนี้ที่ผ่านมา เวลาถามเรื่องการเลือกตั้งท้องถิ่นกับผู้มีอำนาจ ก็จะโยนกันไปมาระหว่างรัฐบาลโดยกระทรวงมหาดไทยกับ กกตมาถึงวันนี้ กกต.ยืนยันชัดเจนว่าพร้อม ระเบียบต่าง  ดำเนินการเสร็จแล้ว กกต.ได้รับการจัดสรรงบที่ใช้ในการกำกับดูแลการเลือกตั้งท้องถิ่น 800 ล้านบาท งบส่วนนี้ยังอยู่ ไม่ได้เอาไปใช้แก้ไขปัญหาโควิด-19 แต่อย่างใด 

กกต.ประกาศชัดเจนว่าพร้อมจะดำเนินการทันทีที่รัฐบาลประกาศให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่น เมื่อ กกต.ประกาศชัดเจนอย่างนี้ รัฐบาลจึงไม่ควรหวงอำนาจของประชาชนไว้เป็นอำนาจของตนเอง ขอเรียกร้องให้รัฐบาลกำหนดไทม์ไลน์ของการเลือกตั้งท้องถิ่นให้ชัดเจนว่าจะเลือกตั้งท้องถิ่นรูปแบบต่าง  เมื่อไหร่ อย่างไร เพื่อให้ทุกฝ่ายเตรียมความพร้อมที่จะเดินหน้าเข้าสู่การเลือกตั้งท้องถิ่นอย่างเป็นรูปธรรม อันเป็นการส่งเสริมการปกครองในระบอบประชาธิปไตย เปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมืองในระดับฐานรากอย่างแท้จริงต่อไป” นายองอาจ กล่าว