หากคุณรู้สึก “ปวดหัว”บ่อยๆ หรือมีคนใกล้ตัวแสดงอาการปวดหัวให้เห็นเป็นประจำ อย่าละเลย หรือคิดว่าอาจจะเป็นเพราะเครียด เหนื่อย หิว หงุดหงิดจากงาน เดี๋ยวก็หายไปเอง
เพราะบางครั้งบางที อาการปวดหัวบ่อยๆ อาจจะสะท้อนให้เห็นว่า ร่างกายของเรากำลังส่งสัญญาณบางอย่างให้กับคุณอยู่ก็ได้ ลองสำรวจดูดีๆว่า เราปวดหัวที่จุดไหนกันแน่ เพราะอาการปวดหัวในตำแหน่งต่าง ๆ อาจจะบอกโรคที่คุณเป็นอยู่คร่าว ๆ ได้ ลองมาเช็ค 5 อาการปวดหัวดูว่าบอกอะไรได้บ้าง
ปวดหน้าผากและขมับทั้งสองข้าง
อาการ “ปวดหัว” ตำแหน่งแรกนี้ ถือเป็นตำแหน่งโรคปวดศีรษะที่พบมากที่สุด เป็นโรคปวดหัวที่เกิดจากการเกร็งของกล้ามเนื้อบริเวณรอบศีรษะ ซึ่งสัมพันธ์กับอาการเหนื่อยล้า และความเครียด โดยตำแหน่งที่ปวดศีรษะที่พบบ่อยคือตำแหน่งบริเวณหน้าผากและขมับทั้งสองข้าง บางครั้งร้าวมาที่ด้านหลังของศีรษะและต้นคอ รวมถึงบ่าไหล่ร่วมด้วย
ปวดขมับ หรือปวดหัวข้างใดข้างหนึ่ง
อาการปวดบริเวณขมับด้านใดด้านหนึ่งโดยเฉพาะ อาจจะปวดสลับกันได้ระหว่างข้างซ้ายหรือข้างขวา และเวลาปวดบางครั้งอาจจะมีปวดร้าวเข้ามาที่กระบอกตาร่วมด้วย ส่วนใหญ่เป็นการปวดศีรษะจากโรคไมเกรน โดยคนไข้ส่วนใหญ่จะมีอาการคลื่นไส้อาเจียน เวียนศีรษะ และขณะที่มีอาการปวด ถ้าอยู่ในที่แสงสว่างจ้า เสียงดังหรือว่ากลิ่นฉุนอาการจะแย่ลง
ปวดโหนกแก้ม ต้นคอ ดั้งจมูก
อีกตำแหน่งของอาการปวดศรีษะปวดที่พบบ่อย คือปวดบริเวณโหนกแก้มทั้งสองข้างลงมาจนถึงบริเวณหน้าผากด้วยหรือว่าปวดตรงบริเวณดั้งจมูก ซึ่งตำแหน่งของไซนัส ดังนั้น การปวดตำแหน่งนี้ส่วนใหญ่จะเกิดจากการอักเสบของไซนัส ซึ่งอาจจะมีอาการปวดศรีษะด้านหลังและต้นคอร่วมด้วย
ปวดร้าวหน้า แก้ม และใบหู
การปวดหัวในลักษณะนี้ ส่วนใหญ่เกิดจากการอักเสบของกราม ทำให้ลุกลามมาปวดบริเวณหน้าใบหู ซึ่งสัมพันธ์กับการเคี้ยวอาหารร่วมด้วย คนไข้บางคนอาจจะไม่รู้ตัวว่าตัวเองมีการกัดฟันตอนเวลานอน ตื่นเช้ามาก็รู้สึกว่าเวลาขยับปากหรือเวลาเคี้ยวอาหาร จะรู้สึกปวดบริเวณหน้าใบหู และอีกกรณีที่พบได้จากการปวดตำแหน่งนี้คือ ใบหู หรือหูอักเสบ
ปวดหัวอย่างรุนแรง คอแข็ง เห็นภาพซ้อน
หลายคนอาจจะเคยได้ยินว่า อาการปวดหัว เป็นสัญญาณของโรคร้ายแรง เช่น โรคหลอดเลือดสมอง หรือว่าโรคเนื้องอกสมอง หากเป็นอาการปวดหัวจากโรคเหล่านี้ จะมีลักษณะการปวดหัวที่รุนแรง คือ ปวดรุนแรงมากขึ้นชนิดที่ว่า ในชาตินี้ไม่เคยปวดแบบนี้มาก่อนในชีวิต นอกจากนี้ อาจจะมีอาการมองเห็นที่ผิดปกติ ไม่ว่าจะเห็นภาพซ้อน หรือว่ามองเห็นไม่ชัด มีการชาหรืออ่อนแรงของกล้ามเนื้อต่าง ๆ ของร่างกายร่วมด้วย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งปวดหัวจนเบลอ มีพฤติกรรมที่ผิดปกติไปกว่าเดิม รวมไปถึงชัก แนะนำให้มาพบแพทย์โดยเร่งด่วน หรือ กรณีอาการปวดศีรษะที่มีไข้หรือคอแข็งร่วมด้วย อาจจะเป็นลักษณะที่บอกอาารอักเสบของเยื่อหุ้มสมอง ให้พบแพทย์โดยด่วนเช่นกัน
ปวดหัวครั้งต่อไป ลองสังเกตุอาการดู เพื่อเราจะได้รับมือและแก้ปัญหาอาการปวดหัวของเราให้หมดไป