เอสเอ็มอีแบงก์ ปลื้ม!ออกพันธบัตร3พันล้าน คนแห่ซื้อเกลี้ยง

.เอสเอ็มอีแบงก์ ปลื้ม! พันธบัตรรอบแรกวงเงิน 3,000 ล้านบาท ขายเกลี้ยง

. ดีเดย์ 17 มิ.ย. ออกเพิ่ม 5,000 ล้านบาท มั่นใจคนสนใจซื้อเยอะระดมทุนได้เพียงพอปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำหนุนเอสเอ็มอีไทย 60,000 ล้านบาท


นายพสุ โลหารชุน ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว). หรือ SME D Bank เผยว่า จากที่ธนาคารได้ออกพันธบัตรธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย พ.ศ.2562 ครั้งที่ 1 วงเงิน 3,000 ล้านบาท อายุ 3 ปี 8 เดือน ซึ่งจัดประมูลเมื่อวันที่ 27 พ.ค. 2562 ที่ผ่านมา ผลปรากฏว่า ได้รับความสนใจจากนักลงทุนสูงจำนวนมากและขายหมดอย่างรวดเร็ว โดยมีจำนวนวงเงินเสนอซื้อมากกว่าเสนอขายถึง 4 เท่าตัว หรือมากกว่า 12,000 ล้านบาท อีกทั้ง อัตราผลตอบแทนที่ประมูลได้ต่ำสุดอยู่ที่ 2.010% ซึ่งต่ำกว่าอัตรากำหนดหน้าตั๋วของพันธบัตรอยู่ที่ 2.125%


“พันธบัตรของ ธพว. ถือว่าเป็นที่เชื่อมั่นและต้องการของนักลงทุนมาก เนื่องจากมีความมั่นคงสูงมาก มีกระทรวงการคลังค้ำประกันเงินต้นและดอกเบี้ย อีกทั้ง ธนาคารมีสถานะความแข็งแกร่งจากการจัดอันดับเครดิตองค์กร โดยบริษัท ฟิทช์ เรทติ้ง จำกัด อยู่ในระดับ AAA ถือเป็นระดับสูงสุดเท่ากับอันดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating) ของรัฐบาลไทย “

ทั้งนี้ธนาคารเตรียมจะออกพันธบัตรฯ ครั้งที่ 2 วงเงินไม่เกิน 5,000 ล้านบาท อายุ 5 ปี 8 เดือน โดยเชื่อว่าจะได้การตอบรับที่ดีจากนักลงทุนเช่นเดิม ซึ่งกำหนดจัดประมูล ในวันที่ 17 มิ.ค. 2562 มีธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เป็นผู้จัดจำหน่ายให้แก่ผู้มีสิทธิซื้อโดยมีวิธีการ ดังนี้
1.จำหน่ายพันธบัตรโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนให้แก่ผู้ใช้บริการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-Bidding) ตามระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทยว่าด้วยการให้บริการธุรกรรมประมูลตราสารหนี้ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Bidding) พ.ศ. 2546 ได้แก่ ธนาคารแห่งประเทศไทย ธนาคารพาณิชย์ ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) บริษัทเงินทุน บริษัทหลักทรัพย์ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนรวม เป็นต้น

ปลื้ม!ออกพันธบัตร
2.จำหน่ายพันธบัตรโดยวิธีการเสนอซื้อให้แก่ มูลนิธิ สหกรณ์ และนิติบุคคลเพื่อการสาธารณกุศล ซึ่งเป็นรายจ่ายเพื่อประโยชน์แก่สาธารณะในประเทศไทย ได้แก่ ศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม วิทยาศาสตร์ วรรณคดี การศึกษา สาธารณประโยชน์อื่นๆ โดยไม่มุ่งหวังประโยชน์มาแบ่งปันกัน


“การขายพันธบัตร ธพว. ทั้ง 2 ครั้ง วงเงินรวม 8,000 ล้านบาท จะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งด้านสภาพคล่อง ทำให้ธนาคารมีต้นทุนทางการเงินที่เหมาะสมในระยะยาว สามารถนำไปปล่อยสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำแก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ผ่านโครงการสินเชื่อเพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชน ซึ่งในปีนี้ธนาคารตั้งเป้าจะอำนวยสินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี 60,000 ล้านบาท มีจำนวนเอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งทุนได้กว่า 60,000 ราย ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระบบราว 300,000 ล้านบาท”