“เอสเปอร์” รมว.กลาโหมสหรัฐ สวนทาง “ทรัมป์” ลั่นไม่เห็นด้วยทหารมาจัดการผู้ประท้วง

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า “มาร์ค เอสเปอร์” รมว.กลาโหมสหรัฐ เปิดเผยเมื่อวันที่ 3 มิ.ย.ตามเวลาสหรัฐ ว่า เขาไม่สนับสนุนให้มีการประกาศใช้กฎหมาย Insurrection Act หรือ พรบ.ปราบการจลาจล เพื่อส่งกองกำลังประจำการเข้าควบคุมสถานการณ์ความไม่สงบเรียบร้อย แม้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะขู่ก่อนหน้านี้ว่าจะใช้ทหารจัดการกับเหตุจลาจลและความรุนแรง จากการประท้วงการเหยียดผิว

“ทางเลือกที่จะใช้กองกำลังประจำการควรถูกใช้ในกรณีที่เป็นหนทางสุดท้าย และใช้ในสถานการณ์ที่เร่งด่วนที่สุด เลวร้ายที่สุดเท่านั้น แต่ขณะนี้เราไม่ได้อยู่ในสถานการณ์เหล่านั้นผมไม่สนับสนุนให้ใช้กฏหมายดังกล่าวเพื่อปราบจลาจล” นายเอสเปอร์กล่าว

“เอสเปอร์” ถูกวิจารณ์ด้วยว่า เขาร่วมขบวนเดินไปกับ “ทรัมป์” ออกจากประตูทำเนียบขาวไปยังโบสถ์เซนต์จอห์น หลังจากตำรวจเพิ่งใช้กำลังและแก็สน้ำตาจัดการผู้ประท้วง เพื่อเคลียร์พื้นที่จัตุรัสลาฟาแย็ต เพื่อให้ “ทรัมป์” และคณะ เดินไปโบสถ์ได้สะดวกปลอดภัย

โดย “เอสเปอร์” กล่าวว่า ตนรู้แค่ว่าคณะจะเดินไปโบสถ์เซนต์จอห์น แต่ไม่รู้ว่าจะมีการถ่ายรูปตรงนั้น และไม่รู้ด้วยว่า ตำรวจใช้กำลังจัดการกับผู้ประท้วงที่ชุมนุมโดยสงบ

สำหรับสถานการณ์การประท้วงเมื่อวันพุธที่ 3 มิ.ย. เริ่มสงบลงต่อเนื่องจากคืนที่แปดของการประท้วง แม้จะมีผู้ประท้วงจำนวนมากฝ่าเคอร์ฟิวออกมาตามท้องถนนในหลายเมืองทั่วสหรัฐ

มีรายงานล่าสุดด้วยว่า “คีธ เอลลิสัน” อัยการสูงสุดของรัฐมินนิโซตา ออกแถลงการณ์ว่า ได้สั่งปรับข้อหาอดีตตำรวจ “ดีเร็ค โชววิน” ให้มีโทษหนักขึ้น จากเดิมที่ทางการได้ตั้งข้อหาฆ่าคนตายโดยไม่ไตร่ตรองไว้ก่อนเป็นทำให้ผู้อื่นเสียชีวิตโดยมีเจตนา แต่ไม่ได้วางแผนก่อนล่วงหน้า 

ซึ่งจะทำให้อดีตตำรวจผู้นี้ต้องรับโทษจำคุกสูงสุดถึง 40 ปี มากกว่าโทษเดิม 15  และตั้งข้อหาอดีตตำรวจอีก 3 นายที่ปรากฏอยู่ในคลิปการเสียชีวิตของ “จอร์จ ฟลอยด์: ชายผิวสีวัย 46 ปี คือ โธมัส เลน, เจ.เอ. เกิง และ โทว เถา ฐานร่วมมือและให้ความช่วยเหลือในการฆาตกรรม จากเดิมที่ทั้ง 3 ไม่ได้ถูกตั้งข้อหาจากการเสียชีวิตของนายจอร์จ ฟลอยด์