เศรษฐกิจภูมิภาคดีทุกด้าน ผลจากการท่องเที่ยวต่อเนื่อง ความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้นในทุกภูมิภาค

  • ส่งเสริมการลงทุน เศรษฐกิจการค้าชายแดน ผลักดันส่งออก
  • เร่งขับเคลื่อนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน
  • มีการเตรียมเม็ดเงินลงทุนไว้แล้ว

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีพอใจรายงานตัวเลขภาวะเศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนตุลาคม 2565 โดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง ซึ่งเศรษฐกิจภูมิภาคได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการท่องเที่ยวต่อเนื่อง นอกจากนี้ ในภาคใต้ ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ยังได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการบริโภคภาคเอกชน ในขณะเดียวกัน ความเชื่อมั่นผู้บริโภคก็ปรับตัวดีขึ้นในทุกภูมิภาค

เศรษฐกิจภาคใต้ มีการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ขยายตัวร้อยละ 22.8 ต่อปี ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 42.2 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 40.7 และดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 92.6 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 88.1

DCIM/100MEDIA/DJI_3283.JPG

เศรษฐกิจภาคเหนือ มีการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ขยายตัวร้อยละ 23.3 ต่อปี ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 48.2 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 47.0 ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 75.8 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 76.1

เศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ขยายตัวร้อยละ 24.5 ต่อปี ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 50.2 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 48.7 ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 87.4 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 88.4

เศรษฐกิจภาคตะวันออก มีการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ขยายตัวร้อยละ 10.9 ต่อปี ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 49.0 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 47.5 และดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 102.4 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 100.7

เศรษฐกิจภาคตะวันตก มีการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ขยายตัวร้อยละ 44.9 ต่อปี ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 45.0 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 43.5 เช่นเดียวกับดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 98.2 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 95.3

เศรษฐกิจ กทม. และปริมณฑล มีการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ชะลอตัว ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 44.8 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 43.3 และดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 98.2 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 95.3

เศรษฐกิจภาคกลาง มีการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ชะลอตัว 

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 45.0 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 43.5 และดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 98.2 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 95.3

“รัฐบาลมั่นใจเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวแล้วและเป็นไปอย่างมีเสถียรภาพ  ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่ปีหน้า เศรษฐกิจจะขยายตัว 3.5-4%  และการส่งออกจะเติบโต 3-5 % ขณะเดียวกัน รัฐบาลก็ได้เร่งส่งเสริมการลงทุน เศรษฐกิจการค้าชายแดน  การผลักดันการส่งออก โดยเฉพาะการเร่งขับเคลื่อนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน มีการเตรียมเม็ดเงินลงทุนไว้แล้ว เพื่อพัฒนาระบบโลจิสติกส์ ลดต้นทุนการขนส่ง ให้เกิดขึ้นโดยเร็ว ภายในระยะเวลา 8-10 ปี ข้างหน้า โดยจะเป็นการลงทุนทั้งในระบบสาธารณูปโภคและพลังงาน”