- ยืนกราน Strees test แข็งแกร่ง รับพิษโควิดได้
- โลกสะกัดกั้นผู้โดยสารจากเมืองผู้ดี “อังกฤษ” หลังพบไวรัสโควิด -19 กลายพันธ์ุ
.”อีลอน มัสก์”เคยติดต่อแอปเปิลซื้อเทสลา
นายอีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ เทสลา อิงค์ เปิดเผยผ่าน ทวิตเตอร์ว่า เขาเคยติดต่อกับแอปเปิล อิงค์ เพื่อหวังให้แอปเปิลซื้อกิจการของเทสลาเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเวลาที่เทสลาอยู่ในช่วงตกต่ำที่สุด แต่ความตั้ง ใจของเขาไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากนายทิม คุก ซีอีโอของแอปเปิล ได้ปฏิเสธที่จะประชุมด้วย
นายมัสก์ ระบุว่า ตอนที่เขาติดต่อแอปเปิลนั้นเป็นช่วงที่เทสลากำลังตกต่ำ จากการเผชิญปัญหาในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น Model 3 จนทำให้ต้องเสียเงินเป็นจำนวนมากไปกับการยกระดับกำลังการผลิต โดยขณะนั้นเขาตั้งใจที่จะเสนอขายกิจการของเทสลาให้แอปเปิลในวงเงินราว 1 ใน 10 ของมูลค่าปัจจุบันของเทสลา ซึ่งคาดว่าน่าจะอยู่ที่ราว 60,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
นายอีลอน มัสก์ มีขึ้นหลังจากสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า แอปเปิลมีแผนจะผลิตรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติสำหรับลูกค้าทั่วไป โดยคาดว่าจะเริ่มการผลิตได้ในปี 67 ทั้งนี้แอปเปิลกำลังพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรีรถ ยนต์ของตัวเอง ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนด้านพลังงาน และทำให้รถวิ่งได้ไกลขึ้น
อย่าง ไรก็ตามแอปเปิลจะไม่ผลิตรถยนต์ทั้งคันแต่จะคิดค้นเพียงระบบขับขี่อัตโนมัติแทน โดยจะให้ค่ายรถยนต์ทำการผลิต และใช้ระบบขับขี่อัตโนมัติของแอปเปิลที่ได้พัฒ นาเทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับมาตั้งแต่ปี 57 แต่ก็ได้ระงับแผน การผลิตรถทั้งคันโดยหันมาพัฒนาระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติแทน โดยซื้อบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนารถยนต์ขับเคลื่อนเองด้วย
.BOJออกมาตรการรับมือโควิดอีก
ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยรายงานคณะกรรมการ BOJ ได้หารือกันเกี่ยวกับแนวทางการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่ให้มีความยั่งยืนมากยิ่งขึ้น และกรรมการรายหนึ่งได้เรียกร้องให้ BOJ ปรับโครงการซื้อสินทรัพย์เสี่ยงซึ่งปัจจุบันโครงการดังกล่าวมีขนาดใหญ่มาก
ทั้งนี้คณะกรรมการ BOJ มีมติคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเป็นพิเศษ ซึ่งรวมถึงการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ -0.1% และคงเป้าหมายอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีไว้ที่ระดับราว 0% BOJ ยังจะเดินหน้าเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลจากสถาบันการเงินโดยไม่จำกัดจำนวน และเข้าซื้อกองทุน ETF รายปีในอัตรา 12 ล้านล้านเยน หรือประมาณ 115,000 ล้านเหรียญต่อปี ส่วน การเข้าซื้อสินทรัพย์ จะทำเมื่อ BOJ เห็นว่าจำเป็น
.”ทรัมป์”วอนเวียดนามลดยอดขาดดุล
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แสดงความกังวลต่อนายเหงียน ซวน ฟุก นายกฯเวียดนามเกี่ยวกับยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐกับเวียดนาม พร้อมทั้งเรียกร้องให้เวียดนามดำเนินการอย่างจริงจังเพื่อรับประกันว่า เวียดนามจะทำการค้าทวิภาคีที่เป็นธรรมและเป็นประโยชน์กับทั้งสองฝ่าย ทั้งนี้ กระทรวงการคลังสหรัฐประกาศขึ้นบัญชีเวียดนามเป็นประเทศที่ปั่นค่าเงินเพื่อหวังผลทางการค้า แต่ธนาคารกลางเวียดนามได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่า นโยบายการเงินดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มการส่งออกโดยการทำให้สกุลเงินของประเทศอ่อนค่าลง
.“ทรัมป์”ตามง้อเวียดนาม
แม้ประธานาธิบดีสหรัฐ จะพยายามแสดงท่าทีที่ดีต่อเวียดนามในโอกาสครบรอบสัมพันธ์ทางการทูต 25 ปี และเห็นพ้องว่าความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศควรจะแน่นแฟ้นกว่าที่เคยเป็น แต่แถลงการณ์นี้ระบุว่า ทรัมป์แสดงความกังวลเกี่ยวกับยอดขาดดุลการค้า และเรียกร้องให้นายฟุกดำเนินการอย่างจริงจังเพื่อรับประกันว่า จะทำการค้าที่เป็นธรรมและให้ประโยชน์ทั้งกับสหรัฐและเวียดนาม ทั้งนี้ ในช่วง 12 เดือนจนถึงมิ.ย. 63 เวียดนามมียอดเกินดุลการค้ากับสหรัฐแตะ 58, 000 ล้านเหรียญ ซึ่งมากเป็นอันดับ 4 ในบรรดาคู่ค้าของสหรัฐและเพิ่มขึ้น 25% จากการยอดเกินดุล 47,000 ล้านเหรียญในช่วง 12 เดือนระหว่างมิ.ย.62/63
.ออกกฎเข้มคนอังกฤษตรวจโควิดก่อนเดินทาง
รัฐบาลสหรัฐกำลังจะออกกฎข้อบังคับให้ผู้โดยสารทุกคนที่เดินทางมาจากอัง กฤษ ต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ภายใน 72 ชั่วโมงก่อนออกเดินทางหน่วยงานด้านการรับมือกับไวรัสโควิด-19 ของทำเนียบขาวกำลังหารือกันเกี่ยวกับการออกกฎข้อบังคับหลังมีรายงานพบการกลายพันธุ์ของไวรัสโควิด-19 ในอังกฤษ ซึ่งได้ส่งผลให้หลายประเทศทั่วโลกพากันประงับเที่ยวบินจากอังกฤษ
ขณะนี้มี 3 สายการบิน ได้แก่ บริติชแอร์เวย์, เดลตาแอร์ไลน์ และ เวอร์จิน แอตแลนติก ที่ออกมาประกาศว่าจะเริ่มคัดกรองผู้โดยสารในเส้นทางต่าง ๆ ตั้งแต่สัปดาห์นี้เป็นต้นไป
.เฟดเปิดทางแบงก์จ่ายปันผล-ซื้อหุ้นคืน
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยผลการทดสอบภาวะวิกฤต (Stress Test) ของธนาคารพาณิชย์รายใหญ่ โดยระบุว่า ธนาคารรายใหญ่หลายแห่งมี ฐานเงินทุนที่เพียงพอต่อการรับมือกับภาวะวิกฤต ซึ่งรวมถึงการขาดทุนกว่า 600, 000 ล้านเหรียญจากการทรุดตัวทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรงในระยะสั้น และความเสี่ยงที่จะเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวลงยาวนานในระดับปานกลาง
นอกจากนี้ เฟดยังอนุญาตให้ธนาคารขนาดใหญ่ของสหรัฐสามารถจ่ายเงินปันผล และซื้อหุ้นคืนแบบจำกัดจำนวนด้วย ทั้งนี้ การที่เฟดอนุญาตให้ธนาคารพา ณิชย์สามารถซื้อหุ้นคืนได้นั้น เป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นกลุ่มธนาคารพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นนิวยอร์ก และยังส่งผลให้ธนาคารรายใหญ่อย่างเจ พี มอร์แกน เชส และโกลด์แมน แซคส์ ประกาศแผนการซื้อหุ้นคืนทันที โดยจะเริ่มในปี 2564
ภายใต้กฎระเบียบใหม่นี้ ธนาคารพาณิชย์จะได้รับอนุญาตให้จ่ายเงินปันผลและซื้อหุ้นคืนได้ตราบเท่าที่จำนวนเงินดังกล่าวไม่สูงไปกว่ารายได้สุทธิของปีที่แล้ว เฟดระบุว่าจะไม่ใช้ผลการทดสอบภาวะวิกฤตครั้งใหม่นี้ เป็นเกณฑ์ในการสั่ง ว่าธนาคารพาณิชย์แต่ละแห่งจะต้องตั้งสำรองเงินทุนกันชนมูลค่าเท่าใด เพราะ
ผลการทดสอบภาวะวิกฤตครั้งนี้ บ่งชี้ว่าภาคธนาคารของสหรัฐมีทิศทางที่สดใส ซึ่งต่างกับผลการทดสอบครั้งแรก โดยในครั้งนั้น เฟดกำหนดให้ธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐจะต้องกันเงินทุนสำรองไว้ที่ระดับปัจจุบันด้วยการระงับการซื้อหุ้นคืน และจำกัดการจ่ายเงินปันผลในไตรมาส 3/2563
การทดสอบ Stress Test ของเฟดนั้นครอบคลุมถึงการประเมินว่า มีความปลอดภัยหรือไม่ที่ธนาคารต่างๆ จะดำเนินการตามแผนการใช้จ่ายเงินทุน ซึ่งรวมถึงการจ่ายเงินปันผล และการใช้จ่ายอื่นๆ นอกเหนือจากการตั้งสำรองหนี้เสียโดย การทดสอบดังกล่าวได้รับการออกแบบขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้เงินภาษีของประชาชนมาช่วยเหลือธนาคารต่างๆ เหมือนในช่วงที่เกิดวิกฤตการเงินปี 2550-2552
.แคลิฟอร์เนียหวั่นผู้ป่วยโควิดล้นโรงพยาบาล
รัฐแคลิฟอร์เนียพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สูงเป็นประวัติการณ์กว่า 500,000 รายในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ยอดผู้ป่วยที่รักษาตัวในโรงพยาบาลมีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้นเกือบ 100,000 รายในเดือนหน้า
นายเกวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย เปิดเผยหลังได้รับทราบตัวเลขคาดการณ์จำนวนผู้ป่วยดังกล่าวา รัฐแคลิฟอร์เนียอาจมีการขยายเวลาการใช้คำสั่งให้ประชาชนในพื้นที่ส่วนใหญ่ของรัฐแคลิฟอร์เนียอยู่แต่ในบ้าน
ด้านดร.มาร์ก เกลี่ เลขาธิการสำนักงานสาธารณสุขและบริการมนุษย์ของรัฐแคลิฟอร์เนีย กล่าวว่า รัฐกังวลว่าโรงพยาบาลบางแห่งอาจมีจำนวนผู้ป่วยที่เข้ารักษาตัวมากกว่าตัวเลขที่คาดการณ์ไว้ในขณะนี้ เขายังระบุด้วยว่า รัฐแคลิฟอร์เนียกำลังแจ้งแนวทางการวางแผนเพื่อรับมือสถานการณ์ดังกล่าวไปยังโรงพยาบาลต่างๆ ในกรณีที่ไม่สามารถให้การรักษาผู้ป่วยทุกคนอย่างที่จำเป็นได้ ขณะเดียว กันก็หวังด้วยว่า สถานการณ์จะไม่ไปถึงขั้นที่ต้องใช้มาตรการดังกล่าว โดยจะเพิ่มจำนวนบุคลากร สร้างโรงพยาบาลชั่วคราว และขอความช่วยเหลือจากพื้นที่อื่นๆ ที่มีจำนวนเตียงเหลืออยู่
สำหรับยอดล่าสุดของโลก ณ วันที่ 24 ธ.ค. มีผู้ติดเชื้อท่ัวโลกแล้ว 78.6 ล้านคน โดยสหรัฐ ยังคงครองอันดับ 1 มีผู้ติดเชื้อ 18.5 ล้านคน ตาย 326, 000 คน โดยมลรัฐต่างๆยังคงมีคนตายทุกวันๆละ 16,000 – 36,000 คน
