“เพื่อไทย” เปิดตัวสมาชิกพรรคใหม่ “ก่อแก้ว-อรรถชัย” เสริมเขี้ยวเล็บเดินหน้าสู่แลนด์สไลด์

  • เชื่อทั้ง 2 คน จะเข้ามาสร้างเสริมอุดมการณ์ประชาธิปไตยร่วมกันกับพรรค เพื่อสร้างความแข็งแกร่ง
  • ชี้ “อรรถชัย” มีความโดดเด่นในการเป็นสื่อมวลชนและนักแสดง เชี่ยวชาญการนำเสนอเนื้อหา
  • ด้าน “ก่อแก้ว” มีผลงานด้านสภาและการอภิปรายที่ดุเดือด โดดเด่น

วันนี้ (28 พ.ย.65) ที่พรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ส.ส.กทม.และโฆษกพรรคเพื่อไทย นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย และ นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์สมาชิกพรรคเพื่อไทย ร่วมกันแถลงข่าวต้อนรับ นายก่อแก้ว พิกุลทอง และนายอรรถชัย อนันตเมฆ เข้าสมัครสมาชิกพรรคเพื่อไทย

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ขอต้อนรับบุคลากรทั้งสองคน ผู้ซึ่งเป็นนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย เข้าเป็นสมาชิกพรรคอีกครั้งโดยก่อนหน้านี้ทั้งสองคนเป็นสมาชิกพรรคไทยรักไทย และพรรคพลังประชาชน จึงมีความเชื่อมั่นว่าบุคลากรทั้งสองคน จะเข้ามาสร้างเสริมอุดมการณ์ประชาธิปไตยร่วมกันกับพรรคเพื่อไทยเพื่อโอกาสในการสร้างความแข็งแกร่งให้พรรคเป็นสถาบันทางการเมืองเพื่อประชาธิปไตยต่อไป

ทั้งนี้ นายอรรถชัย มีความโดดเด่นในการเป็นสื่อมวลชนและนักแสดง มีความเชี่ยวชาญในการนำเสนอเนื้อหา สื่อสารอุดมการณ์ประชาธิปไตยที่แท้จริงไปสู่พี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่อง ขณะที่นายก่อแก้ว เป็นอดีต ส.ส.เพื่อไทย มีผลงานในสภาเป็นที่ประจักษ์ จึงขอขอบคุณทั้งสองคน และผู้สนับสนุนทั้งสองคนทั้วประเทศ เรายืนยันจะร่วมกันทำงานร่วมกันเพื่อพี่น้องประชาชน

น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวว่า นายก่อแก้ว มีผลงานด้านสภาและการอภิปรายที่ดุเดือด โดดเด่น ขณะที่นายอรรถชัย ที่ผ่านมาตนได้มีโอกาสติดตามการนำเสนอแนวความคิดการเมือง การปกครอง และการเรียกร้องความยุติธรรมให้พี่น้องประชาชน ทั้งสองคนหากเข้ามาทำงานร่วมกันกับพรรคเพื่อไทย จะเป็นบุคลากรที่จะเป็นปากเป็นเสียงให้กับพี่น้องประชาชน เสียงของพวกเขาจะมีความหมายมากขึ้น การสานต่ออุดมการณ์ประชาธิปไตยร่วมกันกับพรรคเพื่อไทยจะมีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น

ด้านนายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การที่บุคลากรทั้งสองคนเข้ามาเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย จะทำให้เป้าหมายการชนะเลือกตั้งแลนด์สไลด์ของพรรคเป็นความจริง นักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยเดินทางมาสู่ถนนของพรรคเพื่อไทย และความหวังที่พี่น้องประชาชนตั้งความหวังไว้จะกลายเป็นความจริงตามไปด้วย ที่ผ่านมาประชาชนในพื้นที่ได้สะท้อนปัญหาเข้ามาว่า ความลำบากยากแค้นในการทำการเกษตร ราคาข้าวที่ตกต่ำ น้ำท่วม และการบริหารจัดการสถานการณ์ภัยพิบัติของรัฐบาลที่ไม่ทันท่วงที ได้สร้างความยากลำบากให้กับพี่น้องประชาชน พรรคการเมืองที่อยู่ในใจประชาชนในพื้นที่คือพรรคเพื่อไทย 

โดยการเข้ามาของบุคลากรทั้งสองคนจะเป็นนิมิตรหมายที่ดี ด้วยวิสัยทัศน์หัวหน้าพรรค นพ.ชลน่าน จะนำธงพรรคเพื่อไทยเข้าไปแก้ไขปัญหาพี่น้องประชาชนได้สำเร็จ

นายก่อแก้ว พิกุลทอง สมาชิกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขอขอบคุณ นพ.ชลน่าน และคณะที่ให้เกียรติต้อนรับการเข้าสมัครเป็นสมาชิกพรรคอย่างอบอุ่น ตนพร้อมนายอรรถชัยกลับมาเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ซึ่งเปรียบเสมือนบ้านหลังเดิมที่เคยอยู่ ด้วยความรู้สึกเชื่อมั่น ในบรรดาพรรคการเมืองทั้งหลายในขณะนี้ มีเพียงพรรคเพื่อไทยเท่านั้นที่จะแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้กับพี่น้องประชาชนได้ 

“ส่วนตัวรู้จักคนในพรรคทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง มีความเชื่อมั่นว่าบุคคลเหล่านี้กำลังทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประเทศในวันข้างหน้าได้ ตนจึงกลับเข้ามาสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยอีกครั้ง นอกจากนี้ยังศรัทธาฝีมือในการบริหาร และเชื่อมั่นในหลักการประชาธิปไตยของพรรตที่ไม่มีวันสั่นคลอน แม้จะถูกกระทำกี่ครั้ง แต่ยังไม่หวั่นไหว ยังต่อสู้ยืนหยัด” นายก่อแก้ว กล่าว

นายก่อแก้ว กล่าวอีกว่า ตนเป็นแกนนำคนเสื้อแดง ร่วมกับแกนนำหลายคนทั้งนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นพ.เหวง โตจิราการ นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท นายวรชัย เหมะ นายชินวัตร หาบุญพาด นายพิพัฒน์ชัย ไพบูลย์ เป็นแกนนำคนเสื้อแดงที่ต่อสู้ยาวนาน วันนี้ทุกคนมาประกาศตัวช่วยกันขับเคลื่อนพรรคเพื่อไทย เพื่อให้พรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้งแลนด์สไลด์ แม้แต่ละคนต้องคดีความทางการเมือง ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง ไม่สามารถสมัครสมาชิกพรรคการเมืองได้ แต่ได้มาช่วยพรรคทำงาน ตนเองแม้มีคดีความ แต่คดีไม่ถึงที่สุด จึงตัดสินใจกลับมาช่วยพรรคเพื่อไทย เพื่อให้แลนด์สไลด์ให้ได้

นายอรรถชัย อนันตเมฆ สมาชิกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า แม้ไม่ได้สมัครหรือไม่มีการแถลงข่าวก็เป็นสมาชิกมาโดยตลอด แต่เราผูกพันกันในเรื่องของชะตากรรมที่พรรคเพื่อไทย มีร่วมกับประชาชนคนไทยและพี่น้องชาวเสื้อแดงที่ร่วมต่อสู้ประชาธิปไตยมาโดยตลอด การเข้ามาเป็นสมาชิกพรรคในวันนี้จะเข้ามาร่วมเป็นกำลังเสริมเพื่อให้พรรคเพื่อไทยแลนด์สไลด์เกิดขึ้นได้ เพื่ออนาคตของประเทศ

ในวันนี้ประเทศกำลังประสบปัญหาหนี้สาธารณะที่เลวร้ายถึง 60% ทะลุตัวเลขแห่งความปลอดภัย และหนี้ครัวเรือนที่89% ของจีดีพี ประชาชนมีหนี้เฉลี่ย 500,000 บาทต่อครัวเรือน หนี้ที่ทวีคูณขึ้นไปเรื่อยๆในเวลาที่ระบอบประยุทธ์ดำรงอยู่ และปี 2565 หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ทะลุ 50,000 กว่าล้านบาท คาดว่าทั้งปีอาจจะพุ่งสูงถึงแสนล้านบาท ทั้งหมดสะท้อนความเหนื่อยยากแร้นแค้นของพี่น้องประชาชน เราจะจัดการตัวเลขเหล่านี้ได้อย่างไร หากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป ประเทศไทยจะตกอยู่ในสภาวะย่ำแย่ ทางออกคือเพื่อไทยแลนด์สไลด์เท่านั้น