เพื่อไทยไม่ไหวทนรัฐบาลไม่จริงจังแก้โคโรนา

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานคณะกรรมการกิจการพิเศษ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนรู้สึกเสียใจต่อการเผชิญกับการแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019 แต่ที่เสียใจมากกว่าคือรัฐบาลไม่กระตือรือร้นไม่เอาใจใส่ เพราะให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานไปแจกหน้ากากอนามัยในนามพรรคพลังประชารัฐ แต่กลับไม่ใช่ในนามรัฐบาล เท่ากับมีวาระซ้อนเร้น ทั้งนี้ หากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล จะเปิดให้นักวิชาการแสดงความเห็นถึงแนวทางแก้ไขผ่านสถานีโทรทัศน์ แต่ทางรัฐบาลกลับสร้างความสับสนในขณะนี้

ส่วนกรณีร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ที่มี ส.ส.เสียบบัตรแทนกันนั้น ส่งผลกระทบต่อประเทศอย่างมาก หากพิจารณาจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่เคยมีมา ถือว่าการเสียบบัตรเป็นการทุจริต

“รัฐบาลนี้เป็นสีเทา รัฐมนตรีบุกป่าแต่เรื่องเงียบ ปัญหา ส.ส.รุกที่ดิน ก็เงียบ มีประชาชนส่งข้อมูลให้ฝ่ายค้านจำนวนมาก ประชาชนไม่พอใจการบริหารประเทศของรัฐบาลนี้ ทั้งเรื่องการใช้กฎหมายพิเศษมาตรา 44 ทำให้ระบบการปกครองตอนนี้เป็นประชาธิปไตยเสี้ยวเดียว ผมมั่นใจว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงไปทางที่ดี สู่ความเป็นประชาธิปไตย ขอนายกรัฐมนตรีอย่าโกรธเพื่อไทยในฐานะฝ่ายค้าน และหลังอภิปรายแล้วเสร็จ ขอให้รัฐบาลหายนะ” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว

ร.ต.อ.เฉลิม ยืนยันว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลครั้งนี้ จะไม่ทำให้ประชาชนผิดหวัง พร้อมชี้แจงเหตุการเลื่อนยื่นญัตติและยังไม่กำหนดวันยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจให้แน่นอนนั้น ไม่ใช่เพราะกระแสข่าวลือล็อบบี้ฝ่ายค้านไม่อภิปราย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี แต่คณะกรรมการกิจการพิเศษฯ กลัวเสียฟอร์มว่าจะอภิปรายด้วยข้อมูลที่ไม่ดีพอมากกว่า

ด้านนายภูมิธรรม เวชชยชัย แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ฝ่ายค้านจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางในระหว่างวันที่ 29-31 มกราคมนี้ ยังไม่สามารถกำหนดได้อย่างชัดเจน เนื่องจากรอความชัดเจนของรายชื่อรัฐมนตรีที่ถูกอภิปราย และยังต้องประสานหัวหน้าพรรคแต่ละพรรคที่ยังคงดำเนินการเตรียมการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พร้อมยืนยันว่าพรรคเศรษฐกิจใหม่ยังร่วมการอภิปรายไม่ไว้วางใจอยู่ ส่วนการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กำแพงเพชร ในส่วนของพรรคเพื่อไทยนั้นขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน

ด้านนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวทหารเรือที่ปฏิบัติภารกิจและเดินทางกลับมาจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีนตั้งแต่วันที่ 26 มกราคมที่ผ่านมาด้วยสำนวนสั้น ๆ ว่า “กลับเทิดทหารกล้า ปวงประชาจะอยู่ที่อู่ฮั่นเอง”

นายอนุสรณ์ ยังเสนอให้รัฐบาลจัดระเบียบการสื่อสารของรัฐบาล โดยเฉพาะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่ให้ข้อมูลไม่ตรงกัน ขณะที่การดำเนินการต้องโปร่งใส ตรงไปตรงมา ไม่ดำเนินการสองมาตรฐาน ไม่ว่าทหาร นักศึกษา พ่อค้า ประชาชน รวมถึงต้องฟังข้อเสนอแนะจากฝ่ายค้านและผู้ที่เกี่ยวข้อง เพราะทุกฝ่ายนั้นล้วนแต่หวังดีต่อประเทศชาติ นอกจากนี้ ยังตั้งข้อสังเกตภาวะวิกฤติผู้นำเรื่องการสร้างความเชื่อมั่นและเชื่อถือต่อนายกรัฐมนตรีด้วย