เป็นห่วง!…”ศักดิ์สยาม”กำชับกรมทางหลวงเข้าช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชม.หลังพายุซัดทำถนนทางหลวงพังใน 14 จังหวัด เสียหาย 39 สายทาง

นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง(ทล.) เปิดเผยว่า นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม มีความห่วงใยต่อประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม จึงได้กำชับหน่วยงานในสังกัดให้เร่งช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างเต็มกำลัง  พร้อมทั้งให้ติดตามเฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับมืออุทกภัยตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อให้ประชาชนได้รับความปลอดภัยและทันท่วงที และให้รายงานผลการดำเนินงานมายังกระทรวงฯ รับทราบทุกวันและประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบด้วย 

ทั้งนี้ กรมทางหลวงได้เตรียมพร้อมเครื่องมือ เครื่องจักร สะพานเบลีย์ และจัดเจ้าหน้าที่คอยช่วยเหลืออำนวยความสะดวกปลอดภัยให้กับประชาชนตามแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อีกทั้งช่วงนี้ยังอยู่ในฤดูฝนจึงกำชับหน่วยงานในพื้นที่ให้เตรียมพร้อมและเฝ้าระวังเป็นพิเศษ กรณีน้ำท่วมสูงได้ติดตั้งป้ายเตือน ป้ายแนะนำเส้นทาง หลักนำทาง ไฟกะพริบ จัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านการจราจร เร่งสูบระบายน้ำออกจากพื้นที่ วางแท่งแบริเออร์ เรียงกระสอบทราย และกำแพงดินเพื่อชะลอน้ำ กรณีถนนหรือสะพานขาด/ชำรุด ได้เร่งติดตั้งสะพานเบลีย์เชื่อมทาง และกรณีดินไหล่เขาข้างทาง Slide ได้นำเครื่องจักรเขาเกลี่ยดินออกเพื่อให้ประชาชนสัญจรได้สะดวก   

นอกจากนี้ยังได้ตั้งจุดให้บริการประชาชน จัดรถ Mobile Service ช่วยเหลือประชาชนกรณีรถเสียบนทางหลวง ช่วยขนย้ายประชาชนและสิ่งของไปยังพื้นที่ปลอดภัย จัดรถบรรทุกไว้บริการรับส่งประชาชนในพื้นที่ประสบภัย แจกจ่ายอาหารเครื่องอุปโภคบริโภค และช่วยล้างทำความสะอาดเก็บกวาดบ้านเรือนเพื่อเป็นการบรรเทาทุกข์ให้ประชาชนในพื้นที่น้ำลดน้ำ และได้กำชับหน่วยงานในสังกัดกรณีเกิดภัยพิบัติให้ประสานงานช่วยเหลือผู้ประสบภัย และสนับสนุนเครื่องมือเครื่องจักร ยานพาหนะ กรณีมีการร้องขอจากหน่วยงานอื่นๆ หรือประชาชน

สำหรับสถานการณ์ประจำวันที่ 3  ตุลาคม 64  เวลา 13.30 น. พบทางหลวงถูกน้ำท่วม/ดินสไลด์ และสะพานชำรุด จำนวน 14 จังหวัด 39 สายทาง  รวม 66  แห่ง  การจราจรผ่านได้ 37 แห่ง ผ่านไม่ได้ 29 แห่ง

โดยทางหลวงในจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย 14 จังหวัด ได้แก่ 1) จ.ชัยภูมิ   2) จ.ขอนแก่น   3) จ.นครราชสีมา  4) จ.นนทบุรี  5)  จ.สระบุรี  6) จ.อ่างทอง  7) จ.สุโขทัย  8) จ.ลพบุรี  9) จ.กำแพงเพชร   10) จ.พระนครศรีอยุธยา  11) จ.สุพรรณบุรี  12) จ.นครสวรรค์ 13) จ.อุทัยธานี  14) จ.ตาก การจราจรผ่านไม่ได้  29 แห่ง  ดังนี้ 

◾1. จ.ขอนแก่น (การจราจรผ่านไม่ได้ 1 แห่ง)

– ทล. 2065 พล – ลำชี ช่วง กม.ที่ 33+000 – 34+500 ระดับน้ำสูง 10 ซม.

◾2. จ.นนทบุรี (การจราจรผ่านไม่ได้ 2 แห่ง)

– ทล. 302 สะพานพระนั่งเกล้า-ต่างระดับบางใหญ่ ช่วง กม.ที่ 16+950  ระดับน้ำสูง 20-25 ซม. ใช้จุดกลับรถต่างระดับ 

  บางใหญ่ที่ กม.18+500 แทนแทน

– ทล. 302 สะพานพระนั่งเกล้า-ต่างระดับบางใหญ่ ช่วง กม.ที่ 17+000  ระดับน้ำสูง 15-20 ซม. ใช้จุดกลับรถใต้สะพาน

  คลองบางไผ่ที่ กม.16+600 ทดแทน

◾3. จ.สระบุรี (การจราจรผ่านไม่ได้  2 แห่ง)

   – ทล.1 หนองแค-หินกอง ช่วง กม.ที่ 85+143  (ทางลอดใต้สะพานระพีพัฒน์ทั้ง 2 ฝั่ง) ระดับน้ำสูง 40 ซม.

   – ทล.3020  พระพุทธบาท-หนองโดน ช่วง กม.7+301 (คอสะพานหนองโดนถูกน้ำกัดเซาะชำรุด การจราจรผ่านไม่ได้ 

     ปิดการใช้สะพานทั้งสองฝั่ง

◾4. จ.อ่างทอง (การจราจรผ่านไม่ได้ 5 แห่ง)

  – ทล.33 นาคู-ป่าโมก ช่วง กม.ที่ 36+000 – 36+200 (จุดกลับรถใต้สะพานฝั่งป่าโมก) ระดับน้ำสูง 40 ซม.

  – ทล.32 นครหลวง-อ่างทอง ช่วง กม.33+200 จุดกลับรถใต้ท่อ Box Cul.(วัดค่าย) ระดับน้ำสูง 60 ซม.

  – ทล.32  นครหลวง-อ่างทอง ช่วง กม.ที่ 32+607 (จุดกลับรถคลองกะท่อ)   ระดับน้ำสูง 150 ซม. เส้นหลักผ่านได้          

    จุดกลับรถผ่านไม่ได้

  – ทล. 32 นครหลวง-อ่างทอง ช่วง กม.ที่ 39+843 (จุดกลับรถวัดดอกไม้)  ระดับน้ำสูง 55 ซม. เส้นหลักผ่านได้          

    จุดกลับรถผ่านไม่ได้

  – ทล.32 นครหลวง-อ่างทอง ช่วง กม.ที่ 43+719 (จุดกลับรถหลวงปู่ทวด๗ ระดับน้ำสูง 65 ซม.เส้นหลักผ่านได้          

    จุดกลับรถผ่านไม่ได้

◾5. จ.ลพบุรี  (การจราจรผ่านไม่ได้ 5 แห่ง) 

– ทล.1 แยกโรงพยาบาลอานันทมหิดล-โคกสำโรง ช่วง กม.ที่ 168+228-169+328  ระดับน้ำสูง 50 ซม.  ทางเลี่ยง 

  จ.ลพบุรี เลี้ยวที่ กม.170 เข้าวัดหนองคู

– ทล. 205 คลองห้วยไผ่-เทศบาลลำนารายณ์ ช่วง กม.ที่ 68+000 – กม.71+000 ระดับน้ำสูง 5 ซม. เดินทางไปลพบุรี 

  ใช้ ทล.2  หรือ ทล.21 แทน

– ทล. 2243 บัวชุม – สี่แยกบัวชุม ช่วง กม.ที่ 0+800 -2+500 ระดับน้ำสูง 50 ซม. 

– ทล. 3019  สามแยกโคกกระเทียม-สถานีรถไฟโคกกระเทียม ช่วง กม.ที่ 1+750-กม.1+825 ระดับน้ำสูง 50 ซม. 

  ทางเลี่ยงใช้ทางท้องถิ่นแทน

– ทล.3024  บ้านหมี่-เขาช่องลม ช่วง กม.ที่ 5+600-กม.7+300  ระดับน้ำสูง 150 ซม. ทางเลี่ยงใช้ทางท้องถิ่นแทน

◾6. จ.กำแพงเพชร  (การจราจรผ่านไม่ได้ 7 แห่ง) 

– ทล. 1 ตอน โนนปอแดง – ปากดง ช่วง กม.ที่ 419+036 (จุดกลับรถคลองพะยอม) ระดับน้ำสูง 120 ซม. 

– ทล. 1 ตอน โนนปอแดง – ปากดง ช่วง กม.ที่ 432+030 (จุดกลับรถคลองสุวรรณ) ระดับน้ำสูง 70 ซม. 

– ทล. 1 ตอน โนนปอแดง – ปากดง ช่วง กม.ที่ 431+701 (จุดกลับรถคลองสุวรรณ) ระดับน้ำสูง 70 ซม. 

– ทล.1117 ตอน คลองแม่ลาย-อุ้มผาง ช่วง กม.ที่ 432+030 ดินสไลด์

– ทล.1117 ตอน คลองแม่ลาย-อุ้มผาง ช่วง กม.ที่ 87+415 ดินสไลด์

– ทล.1117 ตอน คลองแม่ลาย-อุ้มผาง ช่วง กม.ที่ 83+220 ดินสไลด์

– ทล.1117 ตอน คลองแม่ลาย-อุ้มผาง ช่วง กม.ที่ 89+100 ดินสไลด์

◾7. จ.พระนครศรีอยุธยา (การจราจรผ่านไม่ได้ 3 แห่ง)

– ทล. 347 บางกระสั้น–บางปะหัน ช่วง กม.ที่ 40+860 (จุดกลับรถใต้สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา) ระดับน้ำสูง 40 ซม.

– ทล 3263 อยุธยา–ไผ่กองดิน ช่วง กม.ที่ 10+940 (จุดกลับรถใต้สะพานสีกุก) ระดับน้ำสูง 160 ซม. ใช้ทางกลับรถ

  ข้างหน้าแทน

– ทล 3263 อยุธยา–ไผ่กองดิน ช่วง กม.ที่ 11+100 (จุดกลับรถใต้สะพานสีกุก) ระดับน้ำสูง 150 ซม. ใช้ทางกลับรถ

  ข้างหน้าแทน

◾8. จ.สุพรรณบุรี (การจราจรผ่านไม่ได้ 2 แห่ง)

– ทล. 33 สุพรรณบุรี – นาคู ช่วง กม.ที่ 9+886 (สะพานคลองทับน้ำ) ระดับน้ำสูง 55 ซม. 

– ทล. 340 สาลี – สุพรรณบุรี กม.ที่ 59+674 (สะพานศาลเจ้าแม่ทับทิม)  ระดับน้ำสูง 100 ซม.

◾9. จ.นครสวรรค์  (การจราจรผ่านไม่ได้ 1 แห่ง) 

– ทล. 1 บ้านหว้า – วังไผ่  ช่วง กม.ที่ 339+600 ใต้สะพานเดชาติวงศ์ ระดับน้ำสูง 105 ซม. ใช้ทางกลับรถข้างหน้าแทน

◾10. จ.ตาก (การจราจรผ่านไม่ได้ 1 แห่ง)

– ทล. 1175 ห้วยส้มป๋อย – เจดีย์ยุทธหัตถี ช่วง กม.ที่ 55+300 คันทางทรุดตัว  ใช้ทางเลี่ยง ทล.12 แทนเดินทางไป 

  อ.บ้านตาก

ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนผู้ใช้เส้นทางหลวงเดินทางด้วยความระมัดระวังเพื่อความปลอดภัยและหลีกเลี่ยงเส้นทางที่คาดว่าจะเกิดความสุ่มเสี่ยง พร้อมขอให้ปฏิบัติตามป้ายเตือน ป้ายแนะนำและคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด และหากประชาชนต้องการสอบถามสภาพเส้นทาง สภาพการจราจร หรือต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ และสายด่วนกรมทางหลวง 1586  (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง) และสามารถติดตามการรายงานสถานการณ์สภาพเส้นทางได้ที่ทวิตเตอร์กรมทางหลวง @prdoh1