เปิด 5 รูปแบบ “ลงทุนทองคำ” ซื้อขายเก็งกำไรแบบไหนเหมาะกับคุณ

ในช่วงที่ราคา “ทองคำ” อยู่ในช่วงขาขึ้นต่อเนื่องมา ตั้งแต่ช่วงต้นปีจากผลกระทบของโควิด-19 ที่มีต่อเศรษฐกิจทั่วโลก ทำให้นักลงทุนจำนวนมากทั่วโลกหลีกเลี่ยงสินทรัพย์เสี่ยง มาลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น ทองคำมากขึ้น ส่งผลให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นจนทะลุราคาสูงสุดในรอบ 9 ปี และอาจจะมีช่วงขาขึ้นต่อไปอีกระยะ

ทำให้หลายต่อหลายคนสนใจ อยากจะลงทุนใน “ทองคำ” มากขึ้น แต่ไม่แน่ใจว่า ควรลงทุนในรูปแบบไหนดีถึงจะเหมาะสมกับตัวเรา และเงินในกระเป๋าของเรา วันนี้เรามี 5 รูปแบบการลงทุนในทองคำมากฝากให้เลือกกัน

แต่อย่างไรก็ตาม การลงทุนทุกอย่าง มีต้นทุน และมีความเสี่ยง ราคาปรับขึ้นได้เร็ว ก็ปรับลงได้เร็วเช่นกัน ก่อนที่จะลงทุนควรจะตัดสินในทางเลือกที่เหมาะสมกับเรา เรายอมรับความเสี่ยงจากกำไร หรือขาดทุนนั้นได้ โดยไม่เดือดร้อนหรือกระทบกับเงินที่เราต้องใช้ในชีวิตประจำวัน

ลงทุนซื้อทองคำจากร้านขายทอง

นักลงทุนมือใหม่” หรือ “นักลงทุนรุ่นใหญ่” อาจจะสะดวกลงทุนทองคำในช่องทางนี้มากกว่าช่องทางอื่น ซึ่งเลือกลงทุนได้ 2 รูปแบบ คือ 

ทองคำแท่ง ซึ่งสามารถซื้อที่ร้านทองได้เลย ข้อดี คือ ราคาซื้อและราคาขายไม่ห่างกันมากนัก  นอกจากนั้นทองคำแท่งจะมีราคาที่ถูกกว่าทองรูปพรรณในน้ำหนักที่เท่ากัน เนื่องจากจะไม่เสียค่ากำเหน็จ  แต่ต้องซื้อในราคา 5 บาทขึ้นไป ซึ่งผู้ลงทุนคงจะต้องมีเงินก้อนเพื่อซื้อ ส่วนข้อเสียคือ ต้องเก็บรักษา ซึ่งอาจจะมีต้นทุนเพิ่มขึ้น หากมีจำนวนมาก ในขณะนี้ บางแห่งจึงใช้ตั๋วสัญญาแทนการครอบครองทองคำแท่ง

ทองคำรูปพรรณ  หรือ ทองที่นำมาขึ้นรูปเป็นรูปทรงต่างๆ สร้อยคอ แหวน กำไล ซื้อได้ที่ร้านทอง เหมือนทองคำแท่ง  ข้อดี คือ มีหลายราคาสำหรับคนที่อาจจะไม่มีเงินมากนัก และนอกจากซื้อเพื่อลงทุนแล้ว ยังสามารถนำมาสวมใส่เป็นเครื่องประดับในโอกาสต่าง  แต่ทองคำรูปพรรณจะมีราคาซื้อขายที่แตกต่างกันตามสภาพการใช้งานและร้านที่ซื้อขาย รวมทั้ง มีการเก็บค่ากำเหน็จ ทำให้ราคาซื้อจะสูงกว่าทองคำแท่ง ทำให้กำไรจากการลงทุนอาจจะน้อยกว่า

ลงทุนด้วย “การออมทอง

รูปแบบนี้ เป็นรูปแบบที่คิดค้นขึ้นมา สำหรับคนที่ไม่มีเงินถุงเงินถัง เช่นที่ ห้างทองฮั่วเซ่งเฮงห้างทองแม่ทองสุกฯลฯ เราสามารถไปเปิดบัญชีไว้กับร้านทอง แล้วค่อยทยอยนำเงินฝากเข้าไป ร้านทองจะนำเงินฝากของเราเพื่อไปซื้อทองคำแท่งสะสมเป็นน้ำหนักไว้ สะสมครบ 1 บาทหรือ 5 บาท ตามที่เรากำหนด ก็สามารถไปรับทองคำแท่งได้ที่หน้าร้าน โดยสามารถเริ่มต้นสะสมได้ตั้งแต่ 1,000 บาทต่อเดือน ขึ้นไป

อย่างไรก็ตาม การใช้วิธีทยอยสะสมแบบนี้ ราคาทองในแต่ละรอบก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ จึงเหมาะกับคนที่ต้องการเก็บทองคำยาวๆ เพื่อแทนการเก็บเงินมากกว่าคนที่ต้องการเก็งกำไรในระยะสั้น

ลงทุนใน “กองทุนรวมทองคำ

เป็นทางเลือกของคนที่อยากลงทุนทองคำ แต่ไม่อยากซื้อขายทองคำด้วยตัวเอง โดยการเปิดบัญชีกองทุนเพื่อนำเงินของเราไปลงทุนในกองทุนที่ลงทุนในทองคำ ที่เรียกว่า กองทุนรวมทองคำ หรือ Gold Fund การเคลื่อนไหวของมูลค่าหน่วยลงทุนจะเป็นไปตามการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในตลาดโลก เปรียบเสมือนลงทุนในทองคำแท่งทางอ้อมผ่านกองทุนหลักในต่างประเทศ ซึ่งจะนำเงินไปลงทุนในทองคำแท่ง 99.99% หรือ 99.50% อีกทอดหนึ่ง 

ดังนั้น มูลค่าหน่วยลงทุนของกองทุนรวมจึงไม่ได้ขึ้นลงตามราคาทองคำในประเทศ แต่จะอิงกับราคาทองคำโลก 

โดยข้อดี คือ เงินเริ่มต้นที่ใช้ลงทุนไม่มาก  มีเงินน้อยกว่า 10,000 บาท ก็สามารถเริ่มลงทุนกับกองทุนประเภทนี้ได้และเราสามารถใช้กองทุนทองคำเป็นที่พักเงิน เพื่อเลี่ยงความผันผวนของเศรษฐกิจไ  เพราะราคาทองคำส่วนใญ่จะไม่เคลื่อนที่ไปทางเดียวกันกับเศรษฐกิจ  เพราะทองคำถือเป็น หนึ่งในสินทรัพย์ปลอดภัยของโลก โดยเงินของเราจะมีผู้จัดการกองทุนที่มีความรู้ประสบการณ์ในการนำลงทุนต่อ

อย่างไรก็ตาม ข้อเสียของการลงทุนประเภทนี้ คือ ความเสี่ยงที่สูงขึ้น เพราะการที่กองทุนนำเงินไปลงทุนในต่างประเทศ จึงมีความเสี่ยงในเรื่องของอัตราแลกเปลี่ยนมาเกี่ยวข้องด้วย การลงทุนในกองทุนทองคำเพียงอย่างเดียวมีความเสี่ยงสูงมาก ส่วนใหญ่อยู่ในระดับความเสี่ยงที่ 8 ซึ่งไม่เหมาะกับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ

ลงทุนในสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้า

สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้า หรือ Gold Futures จะเป็นการลงทุนที่ยกระดับขึ้นไปอีกขึ้น สำหรับติดตามข่าวสารการลงทุนทั่วโลกอย่างใกล้ชิด และรับความเสี่ยงได้สูงขึ้น ไม่เหมาะกับคนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ เพราะเป็นเครื่องมือที่ผู้ลงทุนลงทุนได้ตามความคาดการณ์ที่มีต่อราคาทองคำได้ ทั้งในช่วงราคาทองขึ้น และราคาทองลง  และใช้เงินลงทุนน้อย เนื่องจากไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินทั้งจำนวนในการซื้อขาย ลงทุนวางเงินประกัน 1 ใน 10 ของมูลค่าสัญญา

ผู้ลงทุนสามารถซื้อขายโกลด์ฟิวเจอร์ส ได้ผ่านระบบซื้อขายอิเล็กทรอนิกส์ของตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า(TFEX)  ด้วยการสมัครเป็นสมาชิก โดยมีบริษัทสำนักหักบัญชี (ประเทศไทยจำกัด เป็นผู้ประกันการชำระราคาจากการซื้อขาย ซึ่งตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในเวลานี้ เปิดซื้อขาย Gold Futures 2 ประเภท ได้แก่ 50 Baht Gold Futures และ 10 Baht Gold Futures

แต่ข้อเสียคือ ลักษณะการซื้อขายจะเหมือนการซื้อขายหุ้น มีปัจจัยที่เข้ามากระทบ ทั้งการเปลี่ยนแปลงของราคาทองคำ และอัตราแลกเปลี่ยน ทำให้การทำกำไรจะต้องติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด  เพราะมีโอกาสทำกำไรได้สูงก็จริงแต่โอกาสขาดทุนก็สูงเช่นกัน 

นอกจากนั้น  Gold Futures ยังมีอายุสัญญาที่ซื้อขายไว้ล่วงหน้า หากผู้ลงทุนถือ Gold Futures ไปจนถึงวันครบอายุสัญญา สัญญาจะปิดโดยอัตโนมัติ โดยผู้ลงทุนต้องยอมรับกำไร หรือขาดทุนจาสัญญานั้น ผู้ลงทุนจึงควรรู้จักกับความเสี่ยงที่ตนเองยอมรับได้ก่อนตัดสินใจลงทุน และควรติดตามผลการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ

ลงทุนด้วยการซื้อหุ้นบริษัทที่ทำเหมืองทองคำ

นอกเหนือจากลงทุนโดยตรงในทองคำโดยตรงใน4รูปแบบที่ผ่านมาแล้วผู้ที่มีเงินหนาเงินเย็นและรับความเสี่ยงได้สูงอาจจะเลือกลงทุนที่มีความสัมพันธ์โดยตรงกับราคาทองคำโลกเช่นการลงทุนในหุ้นของบริษัทที่ผลิตทองคำและโลหะมีค่าการขุดค้นและการพัฒนาเหมืองทองคำแทนการลงทุนในทองคำแท่งโดยตรง

เนื่องจากหุ้นบริษัทเหล่านี้จะมีรายได้ในทิศทางเดียวกันกับผลตอบแทนของโลหะมีค่าอ้างอิงแต่มีต้นทุนการซื้อขายและการจัดเก็บในระดับที่ต่ำกว่าทำให้ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นได้ดีกว่าในช่วงที่ทองคำขาขึ้นโดยสามารถเลือกบริษัทที่จะลงทุนหุ้นได้ทั้งในตลาดหุ้นไทยและในตลาดหุ้นทั่วโลก