ในแวดวงสมาร์ทโฟน Samsung Galaxy Fold สมาร์ทโฟนจอพับของซัมซุงเป็นหนึ่งในนวัตกรรมที่ถูกคิดค้นออกแบบมาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดและเป็นรายแรกที่วางจำหน่ายในตลาดประเทศไทยด้วยการเปิดให้ผู้สนใจสั่งจองมา 2 รอบ และปิดการจองไปอย่างรวดเร็วเพราะสินค้ามีจำกัด
ทางซัมซุงมองว่านี่ไม่ใช่การเปลี่ยนรูปลักษณ์ของสมาร์ทโฟน แต่เป็นการเปลี่ยนโฉมของโลกอนาคต เป็นการเริ่มต้นของเทคโนโลยีจอแสดงผลแบบพับได้ Infinity Felix Display กับราคาจำหน่ายในบ้านเราเครื่องละ 69,900 บาท
เป็นจอ Amoled ที่เป็นไฮบริดแบบ 2 จอใช้งานบนหน้าจอเดียวขนาด 4.6 นิ้วหรือกางออกมีขนาดใหญ่ 7.3 นิ้ว ใช้งานเหมือนจอแท็บเล็ตในเครื่องเดียวกัน ด้วยวัสดุโพลิเมอร์ที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ให้มีหลายขั้นที่บางและคงมีความยืดหยุ่น
ทางซัมซุงระบุว่า บานพับ ซึ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญของรุ่นนี้ ถูกออกแบบทางวิศวกรรมจากการทำงานกลไกของนาฬิกา ทำให้บานพับล็อกเข้าต่ำแหน่งได้นุ่มนวล ทำให้พับปิดเปิดจอได้เหมือนกับเปิดปิดหน้าหนังสือ สเปกระบุด้วยว่ารองรับการเปิดปิดได้ถึง 2 แสนครั้ง
อีกหนึ่งจุดเด่นของรุ่นนี้เมื่อกางจอออกใช้งานได้ถึง 3 แอปพลิเคชั่นแบบอิสระได้พร้อมกัน เรียกว่า Multi Active Window ด้านประสิทธิภาพของรุ่นนี้ใส่ Ram ถึง 12 GB ใช้งานหนักๆ ได้พร้อมกัน เล่นเกม ดูวีดิโอ ไลฟ์สดไปพร้อมกัน Rom 512 GB มีพื้นที่เหลือเฟือสำหรับการเก็บข้อมูลต่างๆ เต็มที่
ระบบกล้องแน่นอนว่าถูกจัดเต็มถูกพัฒนาใหม่ถึง 6 ตัว ใช้ทั้งถ่ายภาพและวีดิโอ โดยใช้จอ Infinity Flex Display เป็นหน้าจอ เรียกว่าเห็นกันชัดๆ เต็มๆ ด้านแบตเตอรี่แบบเซลส์คู่ มีความจุ 4,380 mAh มีระบบการชาร์จไฟเกินให้กับแบตเตอรี่ และมีระบบการจัดการแบตชาญฉลาดช่วยปิดแอปที่ไม่ได้ใช้ลงเพื่อประหยัดพลังงาน
สรุปได้ว่าสมาร์ทโฟนจอพับกับราคาขายที่ตั้งไว้ สเปคต่างๆ ที่ให้มาซัมซุงได้จัดเต็มในทุกๆ ด้าน
หลังจากได้นำมาทดลองใช้งานมา 3 สัปดาห์กับ Galaxy Fold สีดำ Cosmos Black สิ่งแรกที่ประทับใจคือเท่ที่ไม่เหมือนใคร เมื่อควักขึ้นมาและกางออกใช้งาน จะมีการถามจากผู้คนรู้จักรอบข้างว่าใช้อะไร แบรนด์ไหน พับดีไหม ใช้งานดีหรือเปล่า และขอลองสัมผัส และสัมผัสแรกที่หลายๆ คนได้ทดลองจับและเล่นดูทุกคนมีความประทับใจกัน
เมื่อกางจอใช้งานมองตรงๆ จะไม่เห็นรอยพับ แต่ถ้ามองด้านข้างจะเห็นรอยพับชัดเจน ทางซัมซุงอธิบายว่าเป็นลักษณะพิเศษของจอนี้ พับเปิดและปิดดูเป็นธรรมชาติดี
แต่เมื่อเวลาใช้งานจอพับมือเดียวจะรู้สึกว่า เป็นมือถือที่ค่อนข้างหนักขนาด 263 กรัม แต่เมื่อกางออกใช้สองมือความรู้สึกจะเปลี่ยนไป
การสัมผัสหน้าจอ นับว่าไหลรื่นได้ดี แม้ว่าจะมีติดฟิล์มป้องกันจอภาพติดมา การเล่นเกมไหลรื่นรองรับเกมหนักๆ ได้หมด แต่จะติดตรงติ่งบนด้านซ้ายที่ติดกล้องจะทำให้การแสดงผลหน้าจอไม่เต็ม
เช่นเดียวกับการแสดงผลกับการดูวีดิโอผ่านแอป Youtube ไม่แสดงเต็มจอมีขอบหนาบนล่าง อาจเป็นเพราะจอถูกออกแบบมาเป็นไฮบริดก็เป็นได้
ส่วนการทำงานของกล้องโดดเด่นไม่แพ้แฟล็กชิพสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ ของซัมซุง ภาพถ่ายที่ได้จะมีโทนสีสด โดยส่วนตัวชอบ ฟังก์ชั่น shot suggestion ซึ่งกลายเป็นฟีเจอร์พื้นหลักของซัมซุงไปแล้ว ระบบ AI ช่วยแนะนำมุมถ่ายตรงไหนดีสุด และ night mode ฟีเจอร์ถ่ายภาพกลางคืนช่วยการถ่ายภาพในที่แสงน้อยให้สว่าง เห็นรายละเอียดได้ดี
สรุปแล้ว การใช้งานค่อยข้างประทับใจในทุกๆ ด้าน เพียงแต่ว่าการใช้งานจะต้องระมัดระวังตลอดเวลาเพราะเป็นสมาร์ทโฟนที่มีราคาสูง อีกทั้งยังมีคุณสมบัติด้านจอที่ต้องคอยระมัดระวัง
ทำให้การใช้งานดูเหมือนจะไม่ค่อยเป็นธรรมชาติเหมือนการใช้สมาร์ทโฟนทั่วไป แต่ภาพรวมประทับใจกับนวัตกรรมของซัมซุงรุ่นนี้
