เปิดนโยบายอุตสาหกรรมปี 66 ลั่นอยากให้ไทยข้ามไปผลิตน้ำมันยูโร 6

  • หวังขึ้นแท่นผู้นำการกลั่นของอาเซียน ดึงดูดการลงทุน
  • วอน 7.4 หมื่นโรงงาน-3.1 ล้านเอสเอ็มอี
  • ปรับวิถีเพิ่มขีดความสามารถ กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก

นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่าในปัจจุบันที่ประเทศไทยกำลังมีการปรับเปลี่ยนมาตรฐานการใช้น้ำมันและการควบคุมการปล่อยมลพิษไอเสียรถยนต์ ปริมาณกำมะถันระดับมาตรฐานยูโร 5 หรือ Euro5 เพื่อตอบสนองกับการลดปริมาณมลพิษทางอากาศ โดยจะมีการกำหนดใช้ในวันที่ 1 ม.ค. 2568 นี้ มองว่าอาจจะล่าช้าเกินไปและควรจะก้าวข้ามไปพัฒนาเป็นมาตรฐานยูโร 6 เลย เนื่องจากในปัจจุบันกลุ่มประเทศผู้นำของโลกได้มีการใช้น้ำมันมาตรฐานยูโร 6 แล้ว

ทั้งนี้หากประเทศไทยจะก้าวขึ้นไปผลิตน้ำมันยูโร 6 เลย แทนที่จะพัฒนาแค่ยูโร 5 จะเป็นช่องทางที่ทำให้ประเทศไทยก้าวขึ้นไปเป็นผู้นำทางด้านการกลั่นของอาเซียน รวมถึงยังสามารถดึงดูดการลงทุนจากนักลงทุนที่เกี่ยวข้องมากขึ้น นอกจากนี้หากมีการเปลี่ยนเป็นยูโร 5 แล้ว ในอนาคตอันใกล้ก็จะต้องเปลี่ยนอีกครั้งเพื่อให้ทันกับยุคสมัยและความต้องการของโลก 

สำหรับนโยบายกระทรวงอุตสาหกรรม ในปี 2566 ว่าในปี 2566 จะมีการรีแบรนด์ของกระทรวงภายใต้แนวคิด MIND ด้วยการปลูกฝังการทำดีด้วยหัวและใจของข้าราชการ ทั้งนี้ได้มอบนโยบายให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในกระทรวง ที่ปัจจุบันมีข้าราชการกระทรวงอุตสาหกรรมทั้ง 6,000 คน มีโรงงานภายใต้การดูแลของกรมโรงงานอุตสาหกรรม(กรอ.) มีจำนวนทั้งสิ้น 74,016 แห่ง และเหมืองมีอยู่ 914 แห่ง รวมถึงเอสเอ็มอีทั่วประเทศ 3,178,124 กิจการ ปรับเปลี่ยนอุตสาหกรรมเข้าสู่วิถีใหม่เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการ รวมถึงให้ผู้ประกอบการเหล่านี้ดูแลสิ่งแวดล้อม ยกระดับเทคโนโลยี และข้อตกลงของทั่วโลก พร้อมผลักดัน “ชุมชนรักโรงงาน โรงงานรักชุมชน และสร้างการกระจายรายได้สู่ชุมชน” เพื่อให้ชุมชนรอบโรงงานประมาณ 1,000,000 คน และอุตสาหกรรมอยู่ด้วยกันอย่างเป็นมิตร พัฒนาเศรษฐกิจฐานราก และสร้างความเติบโตอย่างต่อเนื่อง ตามแนวทางนี้คาดว่าในปี 2566 จะสามารถกระตุ้น ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม(MPI) และจีดีพีภาคอุตสาหกรรม ให้สูงขึ้น 2.5 – 3.5% และเติบโตอย่างต่อเนื่องในปีถัดๆไป