เปิดคำสนทนา’สุริยะ-นายกฯ’ก่อนปรอทแตกถึงขั้นจ่อถอนตัวร่วมรัฐบาล


ระเด็นร้อนปะทุขึ้นอีกครั้ง เมื่อการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีในรัฐบาล “ประยุทธ์ 2/1″ กำลังจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ โดยเฉพาะในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ภายหลังจากที่หลายคนหลุดออกจากโผรัฐมนตรี ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ได้รับการยืนยันในตำแหน่งมาแล้วเห็นได้ชัดเจนคือ“กลุ่มสามมิตร” ของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ มีทั้งรัฐมนตรีที่หลุดออกจากโผ และถูกสลับตำแหน่ง จนสร้างความไม่พอใจอย่างหนักขณะนี้

ทั้งที่ก่อนหน้านี้ได้รับการยืนยันมาตลอดกับโควตารัฐมนตรีที่ได้รับ 3 ตำแหน่ง นั่นคือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติ ธรรม และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง จากจำนวนสมาชิกส.ส.ของกลุ่มซึ่งมีอยู่ร่วมๆ 30 คน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มสามมิตร ได้รับทราบเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2562 ว่า โควตาที่ได้รับไม่เป็นไปตามข้อตก ลง  ล่าสุดมีการสลับตำแหน่งนายสุริยะ จากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาห กรรม ขณะที่นายอนุชา นาคาศัย กลับไม่มีรายชื่อเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระ ทรวงการคลัง เท่ากับ”ถูกเขี่ย”ออกไปโดยปริยาย โดยไม่ได้แจ้งให้ทราบแต่อย่างใด

“ผมงงขณะไปรับแบบฟอร์มกรอก ประวัติคุณสมบัติรัฐมนตรีจากนายกฯ” นายสุริยะ เปิดเผยว่า นายกฯ ถามผมว่า รู้หรือยังอยู่กระทรวงไหน ผมบอกว่า ก็ทราบแล้วซีครับ ผมอยู่กระทรวงพลัง งาน แต่ท่านนายกฯ บอกไม่ใช่ คุณอยู่กระทรวงอุตสาหกรรม สลับกับคุณสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ที่จะไปอยู่กระทรวง

“ผมตกใจ! ไม่ทันได้ถามสาเหตุ นายกฯก็เดินจากไป ผมจึงขอหารือกับคุณสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯฝ่ายเศรษฐกิจ ว่า เกิดอะไรขึ้น คุณสมคิดจึงโทรหาท่านนายกฯ ได้รับทราบว่า เป็นความประสงค์ของนายกฯเองที่อยากจะสลับตำแหน่ง”

นายสุริยะ กล่าวว่า นายกฯคงไม่เข้า เรื่องการเมือง และไม่เข้าใจธรรมเนียมปฏิบัติทางการเมือง เพราเมื่อวันที่ 11 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายกฯเรียกคนที่จะเป็นรัฐมนตรีกระทรวงต่างๆไปที่บ้าน แล้วแจ้งให้ทุกคนทราบว่า จะค้องไปอยู่กระทรวงใดบ้าง

“ของพรรคเรา พปชร.ก็มี ดร.สมคิด เป็ยรองนายกฯ ดร.อุตตม สาวนายนเป็น รมว.คลัง อนุชา นาคาสัย เป็น รมช. คลัง สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เป็น รมว.อุต สาหกรรม ส่วนตน เป็น รมว.พลังงาน”

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 27มิ.ย.ที่ผ่านมาทุกอย่างเปลี่ยนไป ข้อตกลงที่ทำกันไว้ ถูกคว่ำ “ผมต้องไปสลับเก้าอี้กับคุณสนธิรัตน์ ซึ่งตัวเขาก็งงเหมือนกัน และเขาก็ยินดีสลับกลับมา ส่วนคุณอนุชา ไม่ได้ตำแหน่งใดๆเลย “

นายสุริยะ ยังเปิดเผยด้วยว่า พรรคอื่นๆไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เว้นแต่มีการรับเอา นายเทวัญ ลิปตพัลลภ จากพรรคชาติพัฒนา ซึ่งได้สส.มาเพียง 3 ที่นั่ง เข้ามาเป็นรัฐมนตรีช่วยกระทรวงอุต สาหกรรมด้วย จากเดิมที่ไม่มีชื่อมาก่อน

“ท่านสมคิดยังบอกด้วยว่า เรียนท่านนายกฯไปแล้วว่า ข้อตกลงเราเป็นอย่าง ไร ก็ควรดำเนินการไปตามนั้น ที่สำคัญ เอานายเทวัญ เข้ามาได้อย่างไรจากที่ไม่มีชื่อมาก่อน นอกจากนี้ ถ้าเอานายเทวัญ ไปเป็น รมช.อุตสาหกรรม ก็ต้องไปอยู่กับนายสุริยะ ซึ่งไม่น่าจะไปด้วยกันได้ ที่สำคัญ พรรคชาติพัฒนา เคยมีข่าวเกี่ยวกับการอนุมัติใบรง.4 อยู่ จะเอากลับไป สภาอุตสาหกรรมคงตั้งคำ ถามมาก แต่ท่านนายกฯตอบกลับมาว่าไม่คุยแล้ว และไม่ต้องให้นายอุตตม หัวพรรคพปชร.โทรกลับมาคุยด้วย เพราะจะไม่เปลี่ยนอีกแล้ว”

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน

นายสุริยะ กล่าวอย่างถอดใจว่า เขาควรถอนตัวออกจากการเป็นรัฐมนตรีดีกว่า พร้อมกันนั้น ขอตัวไปสวดมนต์เพื่อสงบสติอารมณ์ก่อน จะได้คิดอะไรให้รอบคอบ

ขณะที่ด้านนายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำอีกคนของ พรรคพปชร. ผู้ได้รับการทาบทามให้ดำรงตำแหน่งรมว.ยุติธรรม กล่าวว่า มีคนจะเสียสละเก้าอี้ให้นายอนุชา ซึ่งถูกเขี่ยกระเด็นออกไปให้สามารถกลับมาอยู่ในคณะรัฐบาลได้ และอยากประนีประนอมกับนายกฯมาก กว่าจะใช้วิธี ถอนตัวไม่ร่วมรัฐบาลด้วยเพราะช่วยกันทำมาถึงขนาดนี้แล้ว และต่างคนต่างก็ตัดสินใจมาเพราะถูกโทรไปชวนหลายต่อหลายครั้งเช่นเดียวกับนายสุริยะที่ถูกขอร้องให้มาตัดตั้งพรรค และลงเงินไปมากถึง 500 ล้านบาทเพื่อตั้งสาขาพรรคกระจายไปทั่วประเทศ กว่าจะได้ สส.มาขนาดนี้ “คุณสุริยะ ไม่เคยยอมทำอะไรให้มากขนาดนี้เลย คือใครไม่มีเงินมา รับไปหาเสียงได้ โดยไม่ มีข้อแม้ใดๆเลย เพราะทำให้ดร.สมคิด”

ด้านนายอนุชา นาคาสัย ยังคงอดทนที่จะรอการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง โดยเชื่อว่า นายกฯเป็นขายชาติทหารที่จะทำตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้

นายอนุชา นาคาศัย และ นายสมศักดิ์​ เทพสุทิน


ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เป็นที่น่าสังเกตว่า ในขณะที่ 2 มิตร ถูกหักหลังแต่ทีมของ ดร.สมคิด หนึ่งในกลุ่มสามมิตร และผู้พยายามขอร้องให้นายสุริยะ และนายสมศักดิ์ กลับมาข่วยเหลือในทางการเมือง พร้อมข่วยลงขันระดมทุนเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการหาเสียง กลับได้รับการดูแลให้ได้แต่งตั้งเป็น รัฐมน ตรี ลงตัวทุกตำแหน่ง


เริ่มตั้งแต่ นายอุตตมเป็น รมว.คลัง นายสนธิรัตน์ เป็น รมว. พลังงาน นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ เป็นรมว. กระทรวงวิทยา ศาสตร์เทคโนโลยี นายกอปศักดิ์ ภูตระกูล เป็น รมว.กระทรวงดีอี

ทั้งนี้หลังจากที่นาย อัครา พรหมเผ่า น้องชาย ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า ซึ่งเดิมได้รับตำแหน่ง รมว.กระทรวงดีอี ประกาศลาออกจากการเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลเพราะถูกยึดโควตาไปให้ นาย กอบศักดิ์ แทน โดยนายอัครา ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ได้ส่งเอกสาร และประวัติส่วนตัวไปที่ทำเนียบรัฐบาล ตั้ง แต่เมื่อวันที่ 27 มิถุนายนแล้ว แต่วานนี้ (28 มิ.ย.) ได้ตัดสินใจประสานงานกับผู้ใหญ่ในพรรค เพื่อขอไม่รับตำแหน่งรัฐมนตรี เพราะเห็นว่ามีบุคคลที่มีความรู้ความสามารถในด้านนี้ทำหน้าที่ได้ดีกว่า 

สำหรับผู้ที่หลุดออกจากตำแหน่งแล้วขณะนี้ ได้แก่ 1. นายอนุชา นาคาศัย หลุดจากรมช.คลัง 2. นายอัครา พรหมเผ่า หลุดจาก รมว.กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอี) 3. ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล หลุดจาก เก้าอี้ รมว.ต่างประเทศ 4.พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล หลุดจาก รมช.กลาโหม

ส่วนผู้ที่ได้ตำแหน่งรัฐมนตรีล่าสุดคือ  1. นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รมว.กระ ทรวงดีอี 2.นายดอน ปรมัตถ์วินัย  เป็นรมว.กระทรวงการต่างประเทศ(อีกสมัย) 3.นายเทวัญ ลิปตพัลลภ เป็น รมช.กระทรวงอุตสาหกรรม