- ระบุจะเก็บจากผู้ให้บริการจากต่างประเทศ ที่มีรายได้ 1.8 ล้านบาทต่อปีต้องเสียภาษี
- เชื่อการปรับปรุงการจัดเก็บภาษีครั้งนี้ ช่วยให้การแข่งขันมีความเป็นธรรม
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยถึงรายละเอียดร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากรการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มกรณีการให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์จากต่างประเทศ หรือ e-Service (อี-เซอร์วิส) ว่า ตามขั้นตอนหลังคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติจะเสนอวิปรัฐบาลก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป โดยรายละเอียดจะกำหนดให้ผู้ให้บริการ e-Service จากต่างประเทศ เช่น การให้บริการดาวน์โหลดภาพยนตร์และสื่อบันเทิงต่างๆ ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่มีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี จากการให้บริการผ่านเครือข่ายอิเล็กทรอนิกส์แก่ลูกค้าในไทย ที่ไม่ใช่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ยื่นแบบแสดงรายการภาษี และนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่มให้กรมสรรพากร
“การปรับปรุงกฎหมายครั้งนี้จะช่วยส่งเสริมให้เกิดการแข่งขันที่เป็นธรรมระหว่างผู้ประกอบการในไทยกับผู้ประกอบการในต่างประเทศที่ให้บริการในไทย สอดคล้องกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจและแนวทางการจัดเก็บภาษีของนานาประเทศ ทั้งนี้กรมสรรพากร คาดว่าการปรับปรุงกฎหมายครั้งนี้จะช่วยทำให้จัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 3,000 ล้านบาท” นายเอกนิติ กล่าว
นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง กล่าวว่า การเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มอี-เซอร์วิส ในต่างประเทศได้จัดเก็บภาษีกันหลายประเทศแล้ว และผู้ให้บริการเอกชนรายใหญ่พร้อมยินดีจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่มให้กับไทย ทำให้การแข่งขันเกิดความเป็นธรรมในการบริการซื้อสินค้าหรือบริการผ่านออนไลน์มากยิ่งขึ้น
