เตรียมบิน…กพท.คาดกันยานี้มีแววเปิดเส้นทางบินระหว่างประเทศ

กพท.คาดเที่ยวบินระหว่างประเทศจะเริ่มกลับมาให้บริการช่วงเดือนกันยายน ชี้แม้ไทยเปิดน่านฟ้า ก็ยังมีปัจจัยเรื่องจำนวนผู้โดยสารและมาตรการของประเทศปลายทางเข้ามากระทบการตัดสินใจของสายการบิน

นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย(กพท.) เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับผู้ประกอบการสายการบินของไทยและต่างประเทศที่ให้บริการเส้นทางบินระหว่างประเทศ, และผู้ที่เกี่ยวข้องว่า การประชุมครั้งนี้เพื่อชี้แจงข้อกำหนดและเงื่อนไขการเดินอากาศใหม่ ที่องค์กรการบินพลเรือนระหว่างประเทศ(ICAO) และสมาคมขนส่งสินค้าทางอากาศ( IATA) ได้กำหนดภายใต้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า2019(โควิด-19) ให้สายการบินและผู้ประกอบการสนามบินได้รับทราบถึงมาตรการและแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน หากรัฐบาล หรือ ศบค. มีการผ่อนปรนให้เดินทางระหว่างประเทศได้ และ กพท. ประกาศเปิดน่านฟ้าให้ทำการบินเส้นทางระหว่างประเทศได้ ​เพื่อให้กเป็นไปในมาตรฐานเดียวกัน

ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีสายการบินใดแสดงความจำนงที่จะให้บริการการบินเส้นทางบินระหว่างประเทศ แม้ว่าประกาศ กพท.เดิมจะประกาศปิดน่านฟ้าสิ้นสุดใน30 มิ.ย.นี้ เนื่องจากสายการบินยังกังวลประเด็นของผู้ที่เดินทางจะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านสาธารณสุข และ ศบค.ยังคงห้ามการเดินทางเข้ามาในประเทศ

อย่างไรก็ตาม กพท.คาดการณ์ว่าปีนี้จำนวนผู้โดยสารที่เดินทางทางอากาศในส่วนของประเทศไทย จะหายไปถึง 70% และเหลือเดินทาง 30% เท่านั้น เกือบทั้งหมดเป็นเส้นทางภายในประเทศ อย่างไรก็ตามคาดว่า การบินในเส้นทางระหว่างประเทศ จะเริ่มกลับมาได้ในช่วงเดือน กันยายน 63 นี้ แต่ยังไม่เป็นปกติ100% จะเป็นลักษณะการทยอยเปิดบริการ

ประกอบกับส่วนใหญ่ยังต้องการทราบแนวทางและมาตรการในทางปฏิบัติที่ชัดเจนจากภาครัฐ รวมถึงขั้นตอนที่ผู้โดยสารต้องปฏิบัติหากต้องการเดินทางไปต่างประเทศ และมาตรการของประเทศปลายทาง เพื่อประเมินสถานการณ์และความต้องการเดินทางของผู้โดยสาร ก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะกลับมาเปิดบินอีกครั้งเมื่อไหร่

ซึ่งขณะนี้สายการบินยังไม่สามารถประเมินปริมาณความต้องการของผู้โดยสารได้ และอาจต้องรอดูสถานการณ์จนถึงสิ้นเดือนนี้ เพื่อไม่ให้การกลับมาบินอีกครั้งทำให้ต้องประสบภาวะขาดทุน หรือ ไม่คุ้มทุน นอกจากนั้นจากข้อมูลของ IATA ที่ทำการสำรวจข้อมูลจาก 122 สายการบินทั่วโลก พบว่า การทำการบินแต่ละครั้ง จะต้องมีผู้โดยสารบนเครื่องบิน(Load Factor) ไม่น้อยกว่า 77% จึงจะคุ้มทุน หากจำนวนผู้โดยสารต่ำกว่านั้น อาจเสี่ยงกับการขาดทุนได้

สำหรับข้อกำหนดและเงื่อนไขการเดินอากาศใหม่ที่ได้ชี้แจงสายการบิน และผู้เกี่ยวข้องประกอบด้วย ข้อกำหนดในการยกเลิกการเว้นที่นั่งภายในเครื่องบิน , การปรับเปลี่ยนอุปกรณ์กรองอากาศและระบบหมุนเวียนอากาศภายในเครื่องบินให้เหมาะสม , ผู้โดยสารต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่เดินทาง , ห้ามเสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่มในเส้นทางที่ใช้เวลาเดินทางไม่เกิน 2 ชั่วโมง, การจัดเตรียมอาหารและน้ำดื่มจะต้องมีการปิดผนึกแพคเกจ

นอกจากนี้ยังมีข้อกำหนดในการกันพื้นที่นั่งแยกไว้รองรับผู้ที่มีอาการเจ็บป่วยออกจากผู้โดยสารปกติ โดยสายการบินจะต้องประเมินความเสี่ยงของเส้นทางที่จะไป หากเดินทางไม่เกิน 2 ชั่วโมง ถือว่าความเสี่ยงต่ำ จะกันพื้นที่ไว้หรือไม่ก็ได้ ส่วนการเปิดน่านฟ้าให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศ ต้องอยู่ภายใต้การตัดสินใจของ ศบค. และ รัฐบาล เบื้องต้นมองว่านักธุรกิจมีความเสี่ยงน้อยกว่านักท่องเที่ยวทั่วไป เนื่องจากแต่ละบริษัทจะมีมาตรการคัดกรองและดูแลสุขภาพของผู้ที่เดินทางไปทำงานในต่างประเทศอยู่แล้วและสามารถตรวจสอบได้