เดินหน้าโครงการ “ไปรษณีย์เพิ่มสุข” ส่งเสริมการสร้างรายได้ของชุมชนอย่างยั่งยืน

  • ร่วมส่งมอบชุดความรู้การถนอมอาหาร
  • “เพิ่มสุขโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน”
  • สนับสนุนและพัฒนาคุณภาพชีวิตของนักเรียน 

ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เปิดเผยว่าเพื่อร่วมเป็นส่วนสำคัญในการสร้างรายได้ให้กับเศรษฐกิจและผู้ประกอบการชุมชน ล่าสุดไปรษณีย์ไทยจึงได้ต่อยอดโครงการ “ไปรษณีย์เพิ่มสุข” โดยส่งมอบกล่อง “เพิ่มสุขโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน” จำนวน 222 กล่อง ให้แก่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนทุกแห่งทั่วประเทศ ซึ่งได้รวบรวมวิธีการผลิตและการถนอมอาหารที่จะเป็นประโยชน์แก่ผู้ปกครอง เยาวชน ชุมชน และโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนให้มีทักษะสร้างอาชีพ และนำไปใช้เป็นแนวทางสำหรับการสร้างรายได้ ตลอดจนเพื่อเป็นการต่อยอดอัตลักษณ์ของชุมชนให้มีคุณค่าในเชิงผลิตภัณฑ์หรือบริการ และกระจายสู่ผู้บริโภคทั่วประเทศอย่าง มีคุณภาพได้ต่อไป  

“โครงการดังกล่าวจัดขึ้นภายใต้ความร่วมมือระหว่างไปรษณีย์ไทย และกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ในการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตของนักเรียนและชุมชนที่อยู่ในพื้นที่รอบๆ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน โดยได้นำเอาศักยภาพขององค์กรและเครือข่ายคนไปรษณีย์ร่วมสนับสนุนให้เกิดความสำเร็จ ซึ่งนับว่าเป็นการส่งเสริมให้นักเรียนได้เรียนรู้จากการลงมือปฏิบัติจริง และมีโอกาส สร้างรายได้จากชุดความรู้การถนอมอาหาร ซึ่งภายในกล่อง “เพิ่มสุขโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน” ประกอบด้วย แฟลชไดร์ฟบรรจุวิดีโอชุดความรู้จำนวน 3 เรื่อง ที่จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับการแนะนำผลิตภัณฑ์ สาธิตวิธีการผลิตและถนอมอาหารรวมถึงการคำนวณต้นทุนการผลิตสินค้าและตั้งราคาขายของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนฯพร้อมกับเทคนิคการจัดจำหน่ายสินค้าในที่ทำการไปรษณีย์รวมถึงในช่องทาง เว็บไซต์ Thailandpostmart.com” 

นอกจากนี้ กลุ่มเยาวชน และชุมชนโดยรอบโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน จะได้รับองค์ความรู้  และเทคนิคจาก 3 ผลิตภัณฑ์ภายใต้การสนับสนุนของโครงการไปรษณีย์เพิ่มสุข ได้แก่ ข้าวฮางทิพย์ จากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนข้าวฮางทิพย์ บ้านกุดจิก ต.นาคำ อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร ซึ่งการฮางข้าว เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นของชาวภูไทมีวิถีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในการแปรรูปด้วยกระบวนการ แช่ นึ่ง ผึ่ง สี เพื่อกระตุ้นให้เกิดการงอกของข้าว จนเกิดสารกาบา (GABA) และสารอื่นๆ ที่มีประโยชน์ต่อสมองและร่างกาย ซึ่งสูงกว่าข้าวทั่วไปหลายเท่า ไข่เค็ม อสม. ไชยา จากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนไข่เค็ม อสม. ไชยา ตำบลเลม็ด อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งมีจุดเด่นไข่ฟองใหญ่ ไข่แดง มัน อร่อย เค็มกำลังดี และเป็นไข่เค็มแบบออร์แกนิค ไม่ใช้สารเคมี ผลิตจากไข่เป็ดที่ชาวบ้านเลี้ยงตามธรรมชาติ ตามท้องนา ทำให้ได้ไข่เป็ดฟองใหญ่ เมื่อนำมาทำไข่เค็มจะได้ไข่แดง สีเหลืองนวล เนื้อเป็นทราย มัน อร่อย เป็นที่นิยม และปลาส้มสุขหล่ำ จากวิสาหกิจชุมชนกลุ่มพัฒนาอาชีพบ้านห้วยหมากหล่ำ ต.ทมนางาม อ.โนนสะอาด  จ.อุดรธานี โดยมีจุดเด่นจากการใช้ปลาสด ๆ จากท้องถิ่น ด้วยกรรมวิธีการแปรรูปที่สะอาด ปลอดสารกันบูด ทำให้ได้ปลาส้มที่รสชาติดี อร่อย เปรี้ยวกำลังดี สามารถเก็บรักษาไว้ได้นาน

” ไปรษณีย์ไทยยังมีเป้าหมายให้โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนที่ได้รับชุดความรู้สามารถนำไปใช้เป็นสื่อการเรียนการสอน หรือจัดกิจกรรมเพื่อปฏิบัติจริงตามขั้นตอนต่าง ๆ โดยคาดว่าจะมีนักเรียนที่ได้รับความรู้จำนวนไม่ต่ำกว่า 27,000 คน และเกิดเป็นชั่วโมงการเรียนการสอนในด้านวิชาชีพที่สามารถสร้างรายได้ และบ่มเพาะการเป็นผู้ประกอบการให้กับเยาวชนรุ่นใหม่ ได้อีกด้วย”