“เซ็น กรุ๊ป” เผยธุรกิจร้านอาหารเติบโตมูลค่ารวม 4.18-4.25 แสนล้านบาท กางแผนพร้อมรุกตลาดทั้งในและต่างประเทศ

ตอบโจทย์ผู้บริโภคในทุกช่องทาง ตอกย้ำผู้นำธุรกิจอาหารชั้นนำ ตั้งเป้าทำรายได้ในปีนี้ 4,500 ล้านบาท

นายบุญยง ตันสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2566 นี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดธุรกิจร้านอาหารจะเติบโต 2.7 – 4.5% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวในปีที่ผ่านมา มูลค่าธุรกิจรวม 4.18 – 4.25 แสนล้านบาท โดยเฉพาะร้านอาหาร Full Service ที่เป็นกลุ่มร้านอาหารที่อยู่ในห้างสรรพสินค้า และร้านนอกห้างสรรพสินค้าที่มีชื่อเสียง จะเห็นการเติบโตแบบชัดเจนขึ้น ซึ่งการคาดการณ์ในส่วนนี้ผนวกกับทิศทางองค์กรและการวางแผนกลยุทธ์ที่ดีจะส่งผลให้ปี 66 นี้ เติบโตขึ้นไปถึงเป้าที่ตั้งไว้อีกได้อย่างแน่นอน

สำหรับปี 65 ที่ผ่านมา ธุรกิจในเครือเซ็นกรุ๊ปสามารถเติบโตได้ตามเป้า ตอกย้ำความเป็นผู้นำธุรกิจร้านอาหารชั้นนำในประเทศไทย ทำรายได้ไปถึง 3,413 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ของบริษัท กำไร 154 ล้านบาท 

ส่วนปี 66 นี้ พร้อมเปิดเกมรุกแบบดุดันทั้ง 5 ธุรกิจ กับการวางกลยุทธ์การตลาดที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคได้อย่างแท้จริง รวมถึงแผนขยายสาขาของร้านอาหารในเครือและแฟรนไชส์ ทั้งในไทยและต่างประเทศ ตลอดจนการเพิ่มช่องทางกระจายสินค้าในธุรกิจอาหารค้าปลีก เพื่อผลักดันเป้าหมายให้ถึง 4,500 ล้านบาท

ทีมผู้บริหารเซ็นกรุ๊ป

ธุรกิจร้านอาหาร

ทำรายได้สัดส่วนสูงสุดกว่า 70% ระยะเวลาของการดำเนินธุรกิจกว่า 32 ปี ปัจจุบันมีร้านอาหารในเครือกว่า 10 แบรนด์ รวมแล้วกว่า 345 สาขา ซึ่งปี 65 ที่ผ่านมาขยายไปแล้วกว่า 45 สาขา ทั้งสาขาที่ลงทุนเองและแฟรนไชส์ ครอบคลุมในไทยและต่างประเทศ 

ในปีนี้ธุรกิจนี้จึงถูกโฟกัสเป็นพิเศษเช่นเดิม เพื่อเน้นการทำรายได้และกำไรของสาขาที่มีอยู่ในปัจจุบัน การปรับโมเดลธุรกิจให้กระชับ ทันสมัย พร้อมทั้งการขยายเพิ่มอีกกว่า 90 สาขาภายในปี 66 ทั้งสาขาที่ลงทุนเองและแฟรนไชส์ และเน้นการทำการตลาดที่เผ็ดร้อน สร้างกระแสที่สนุกสนานให้กับวงการตลอดทั้งปี

ธุรกิจแฟรนไชส์

เตรียมแผนขยายฐานลูกค้าใหม่และมองหาตลาดใหม่ ผลักดันแบรนด์ ตำมั่ว และเขียง บุกหนักสร้างความแข็งแกร่งกับตลาดหลักในกลุ่มประเทศอาเซียน อาทิ ไทย มาเลเซีย กัมพูชา เวียดนาม ลาว และสร้างโอกาสในการเติบโตกับตลาดใหม่ให้ครอบคลุมประเทศในภูมิภาคเอเชีย อาทิ เกาหลีใต้ เป็นต้น 

คาดว่าในปี 66 นี้ จะสามารถต่อยอดให้ธุรกิจแฟรนไชส์เติบโตได้ตามเป้าหมาย อีกส่วนคือการมุ่งเน้นเรื่องการขายวัตถุดิบให้แฟรนไชส์ เพื่อสร้างมาตรฐานเดียวกันให้เกิดขึ้นในทุกสาขาด้วย

ธุรกิจอาหารค้าปลีก

หลังจากปีที่แล้วที่ทางเซ็นกรุ๊ป ได้ดึง “คิง มารีน ฟู้ดส์” และ “เซ็น แอนด์ โกสุม อินเตอร์ฟู้ดส์” เสริมทัพพอร์ทธุรกิจอาหารในเครือ ในปีนี้ได้มีการวางแผนที่จะเร่งสร้างยอดขายธุรกิจอาหารค้าปลีกให้ได้ตามเป้าหมาย พร้อมกับการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายและศูนย์กระจายสินค้าในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมถึงการปรับปรุงโรงงานและคลังสินค้าให้รองรับกับยอดขายที่เติบโตขึ้น

ทั้งนี้ทางเซ็นกรุ๊ปเองก็ยังคงมองหาโอกาส การลงทุนในธุรกิจใหม่ ที่มีความน่าสนใจและให้อัตราผลตอบแทนที่คุ้มค่า เข้ามาเสริมทัพพอร์ทธุรกิจอาหารในเครือให้มีขนาดใหญ่และแข็งแกร่งมากขึ้นต่อไป

ธุรกิจจัดส่งอาหารและอีคอมเมิร์ซ

ในส่วนนี้จะได้ถูกปรับปรุงระบบสนับสนุนการขายให้ราบรื่นคล่องตัวมากยิ่งขึ้น ปักหมุดขยายธุรกิจจาก B2C เป็น B2B โดยเน้นการขาย Voucher แก่องค์กร พร้อมกับการสร้างการรับรู้ระบบและเพิ่มยอดสมาชิก ผ่านแอพพลิเคชัน ZEN GROUP ให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น และ 1376 Delivery บริการจัดส่งอาหาร โดยเน้นรูปแบบ Big Order ชูความแตกต่าง เน้นคุณภาพการบริการและศักยภาพในการจัดส่งอาหารในจำนวนมากได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

“คาดว่าปี 66 สัดส่วนรายได้ของแต่ละธุรกิจในเครือ เซ็นกรุ๊ป จะแบ่งเป็นรายได้จาก ธุรกิจร้านอาหาร 74% ธุรกิจแฟรนไชส์ 7% ธุรกิจอาหารค้าปลีก 13% ธุรกิจจัดส่งอาหารและอีคอมเมิร์ซ 6% เชื่อมั่นว่าการเปิดเกมรุกการทำการตลาดรอบด้านในปีนี้ จะส่งเสริมให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างแข็งแรงและมั่นคง แตะเป้าที่ตั้งไว้ได้อย่างแน่นอน” นายบุญยง กล่าวทิ้งท้าย