.กรุงศรีมองปีหน้าเงินบาทแข็งแตะ 29 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ
.รับกระแสเงินทุนไหลเข้าตลาดเงินใหม่โดยเฉพาะอาเซียน
.กนง.คงดอกเบี้ยนโยบายยาวตลอดปีไว้ที่ระดับ 0.5%
นายตรรก บุนนาค ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY เปิดเผยว่า แนวโน้มค่าเงินบาทสิ้นปีหน้า (2564) คาดว่าจะอยู่ที่ 29 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ จากสิ้นปีนี้ที่ระดับ 30.00 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นผลจากเงินทุนไหลกลับเข้าสู่กลุ่มตลาดเกิดใหม่ โดยเฉพาะภูมิภาคอาเซียน ซึ่งไทยได้รับอานิสงส์บางส่วน
“ในช่วงไตรมาส 4 ปี 63 เงินทุนเริ่มไหลออกจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ หลังดัชนีดาวโจนส์ขึ้นไปแตะ 30,000 จุด ทำให้ผลตอบแทนเริ่มลดลง ซึ่งนักลงทุนได้ปรับพอร์ตมาหาผลตอบแทนที่ดีกว่าในตลาดหุ้นเกิดใหม่ ส่งผลบวกต่อการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นไทย และทำให้เงินบาทกลับมาแข็งค่าขึ้น”
ทั้งนี้ตลอดปี 64 คาดว่าบาทจะมีทิศทางการเคลื่อนไหวดังนี้ ในช่วงไตรมาส 1 ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวระหว่าง 29.50-30.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเฉลี่ยอยู่ที่ 30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ไตรมาส 2 เคลื่อนไหวระหว่าง 29.25-30.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเฉลี่ย 29.75 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ไตรมาส 3 เคลื่อนไหวระหว่าง 29.00-30.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเฉลี่ยที่ 29.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ และไตรมาส 4 เคลื่อนไหวระหว่าง 29.00-30.25 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเฉลี่ยที่ 29.25 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ
สำหรับเงินดอลลาร์สหรัฐยังมีแนวโน้มอ่อนตัวลง หลังจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของ นาย โจ ไบเดน ประธานาธิบดี สหรัฐฯ ยังมีความไม่แน่นอน ทำให้นักลงทุนชะลอการลงทุนใหม่ และความคืบหน้าวัคซีนโควิด-19 โดยหากยังไม่มีความชัดเจนถึงการออกมาใช้ได้จริง จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก นอกจากนี้ ธนาคารกลางทั่วโลก มีแนวโน้มคงดอกเบี้ยนโยบายในระดับต่ำต่อเนื่อง และยังคงอัดฉีดเม็ดเงินเข้ามาในระบบเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และสภาพคล่อง โดยเฉพาะในสหรัฐฯ
นายตรรก กล่าวอีกว่า ขณะที่ทิศทางอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า มองว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง. ) จะคงดอกเบี้ยนโยบาย 0.5% ตลอดทั้งปี 64 หลังบัญชีเดินสะพัดของไทยยังคงเกินดุลเล็กน้อย นอกจากนี้ในส่วนของทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ในระดับสูงสามารถรับมือกับการไหลออกอย่างรวดเร็ว
