เกษตรฯ เข้มเตรียมแผนรับมือหมอกควัน-ฝุ่น PM 2.5 รุนแรงช่วงท้ายปี

  • เน้นป้องกัน ยับยั้ง แก้ไข และฟื้นฟู
  • นำร่อง 9 จังหวัดภาคเหนือ
  • เตือนประชาชนอย่าเอาเศษซากพืชไปเผา

นายทองเปลว กองจันทร์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะทำงานป้องกันและเฝ้าระวังการเผาเศษซากพืช หรือวัชพืชและเศษวัสดุทางการเกษตรในพื้นที่การเกษตร ครั้งที่ 3/2563 ว่า จากสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ที่มักทวีความรุนแรงในช่วงเดือนธันวาคม – เดือนมีนาคม ของทุกปี ซึ่งมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย โดยเฉพาะการเผาเศษซากพืชหรือวัชพืชและเศษวัสดุทางการเกษตรในพื้นที่การเกษตร

ทั้งนี้ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีความเป็นห่วงถึงสถานการณ์ปัญหาหมอกควันที่จะเกิดขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าวเป็นประจำทุกปี จึงได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานในสังกัดของกระทรวงเกษตรฯ ร่วมบูรณาการวางแผนป้องกันและแก้ไขปัญหาการเผาในพื้นที่เกษตรกรรม ตลอดจนสร้างการรับรู้ให้กับพี่น้องเกษตรกรในการนำเอาเศษซากพืช หรือวัชพืชและเศษวัสดุทางการเกษตรมาใช้ประโยชน์ด้านอื่นแทนการเผา

“สำหรับแผนการป้องกันและแก้ไขปัญหาการเผาในพื้นที่เกษตรกรรมนั้น กระทรวงเกษตรฯ ได้เริ่มดำเนินงานในเบื้องต้นแล้ว แต่จะเข้มข้นขึ้นตั้งแต่ 1 ธันวาคม ‪2563 – 31‬ พฤษภาคม 2564 มีพื้นที่เป้าหมายนำร่อง 9 จังหวัดภาคเหนือ ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แพร่ น่าน พะเยา แม่ฮ่องสอน และตาก”

โดยเห็นชอบมาตราการแก้ไขปัญหาการเผาในพื้นที่เกษตรกรรม 3 มาตราการ ดังนี้ มาตราการที่ 1 การป้องกัน ด้วยการรณรงค์ ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้แก่เกษตรกร ผ่านโครงการต่าง ๆ ของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ และยังต้องเน้นการป้องกันและเฝ้าระวังในพื้นที่เสี่ยง มาตราการที่ 2 การยับยั้ง โดยให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ สนับสนุนข้อมูลและอุปกรณ์ต่าง ๆ  รวมถึงประสานการปฏิบัติงานร่วมกับศูนย์อำนวยการฯ ระดับจังหวัด ซึ่งอยู่ระหว่างการจัดตั้ง รวมทั้งการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดในช่วงเวลาห้ามเผา

และมาตราการที่ 3 การแก้ไข/ฟื้นฟู ลดการกระจายตัวของปัญหาฝุ่นละอองที่ฟุ้งกระจายในอากาศ โดยให้หน่วยงานในสังกัดของกระทรวงเกษตรฯ อาทิ กรมฝนหลวงและการบินเกษตร กรมชลประทาน และหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง สนับสนุนในด้านการใช้น้ำเพื่อลดการฟุ้งกระจายของหมอกควัน PM 2.5 ตลอดจนกระทรวงเกษตรฯ จะร่วมถอดบทเรียนเหตุการณ์ไฟป่าหมอกควัน เพื่อทบทวนแผนการปฏิบัติการให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นในปีต่อไป

ทั้งนี้ คณะทำงานป้องกันและเฝ้าระวังการเผาเศษซากพืช หรือวัชพืชและเศษวัสดุทางการเกษตรในพื้นที่การเกษตร ได้มีมติรับร่างแผนการป้องกันและแก้ไขปัญหาการเผาในพื้นที่เกษตรกรรม ประจำปี 2564 และยังมอบหมายให้ทุกหน่วยงานในสังกัดของกระทรวงเกษตรฯ ที่เกี่ยวข้อง กลับไปทบทวนแผนปฏิบัติการและรายละเอียดต่าง ๆ ตามภารกิจที่หน่วยงานรับผิดชอบ เพื่อให้แผนการป้องกันและแก้ไขปัญหาการเผาในพื้นที่เกษตรกรรม เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ