อุปกรณ์อัจฉริยะในรถยนต์ปลอดภัยแค่ไหน?

  • บริษัทด้านความปลอดภัยบนอินเทอร์เน็ตออกบทวิจัยให้ความรู้
  • เผยการเลือกใช้อุปกรณ์อัจริยะในรถเป็นสิ่งที่ดี สะดวก ปลอดภัย
  • แนะทริคเลือกสรรอุปกรณ์แบบง่ายๆที่มีปลอดภัยทั้งตัวคุณ-ตัวรถ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท Kaspersky บริษัทด้านความปลอดภัยบนอินเทอร์เน็ตระดับโลก ที่ก่อตั้งในปี 1997 ด้วยความเชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยที่ได้พัฒนามาอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบันเปลี่ยนเป็นโซลูชั่นความปลอดภัยยุคใหม่ ที่ให้บริการในการป้องกันสำหรับธุรกิจ โครงสร้างพื้นฐาน รัฐบาลและลูกค้าทั่วโลก ได้เผยพบวิจัยออกมาว่า นักวิจัย Kaspersky ได้ทำการวิเคราะห์เกี่ยวกับงานหลังการขายของอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับรถยนต์ ที่ออกแบบมาให้กลายเป็นรถอัจฉริยะมากขึ้น ซึ่งการใช้อุปกรณ์เฉพาะนี้ได้รับการยืนยันว่าปลอดภัยกว่าอุปกรณ์ Internet of Things (IoT) อื่นๆ 

ทั้งนี้ปัจจุบันมีรูปแบบบริการที่ให้คนรักรถได้เลือกใช้อุปกรณ์เชื่อมต่อกับรถยนต์ 2 แบบด้วยกัน ได้แก่ การซื้ออุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อรถยนต์จากผู้จัดจำหน่าย หรือการเพิ่มฟังก์ชั่นหรืออุปกรณ์เสริมกับอุปกรณ์เดิมที่มากับรถนั้นๆ ซึ่งทั้ง 2 รูปแบบนั้นทำให้ประสบการณ์การใช้รถดีมากยิ่งขึ้น โดยเทคโนโลยีอัจฉริยะนี้ยังนำเสนอส่วนที่สามารถใช้ในทางอันตรายได้อีกด้วย

ดังนั้น บรรดานักวิจัยของ Kaspersky ได้ทำการค้นหาประเด็นปัญหาต่างๆ ที่เกี่ยวกับความปลอดภัยของอุปกรณ์ IoT ต่างๆ ที่มีผลกระทบต่อผู้ผลิตอุปกรณ์อัจฉริยะในอุตสาหกรรมยานยนต์ นักวิจัยได้เลือกสุ่มอุปกรณ์เพื่อวิเคราะห์ ประกอบด้วย ตัวสแกน OBD ระบบตรวจสอบความดันลมและอุณหภูมิยาง ระบบการเตือนอัจฉริยะ ระบบ GPS และแอปพลิเคชั่นที่ควบคุม dashcam หรือกล้องติดรถยนต์ 

โดยผลการวิจัยออกมาอย่างน่าประหลาดใจ เพราะในขณะที่อุตสาหกรรม IoT มักจะถูกมองว่ามีช่องโหว่ แต่อุปกรณ์อัจฉริยะที่เชื่อมต่อในรถได้รับการยืนยันว่ามีความปลอดภัยเป็นอย่างดี โดยไม่มีช่องโหว่ใด ๆ อย่างไรก็ตามการวิจัยครั้งนี้ได้ค้นพบปัญหาด้านความปลอดภัยต่างๆ อาทิ ความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลการขับเคลื่อนผ่านทางการสแกน ตัวเลือกในการควบคุมสัญญาณจากระบบการตรวจสอบยาง และที่น่าตื่นตระหนกที่สุดคือ ความสามารถในการเปิดประตูรถด้วยการตั้งระบบเตือน อย่างไรก็ตามองค์ประกอบทั้งหมดนี้ล้วนนำไปใช้งานในทางอาชญากรรมทางไซเบอร์ได้ยาก 

นายวิคเตอร์ เชบีเชฟ ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย Kaspersky กล่าวว่า อุปกรณ์ที่เราได้ตรวจสอบนั้น ได้ตรวจพบนโยบายด้านความปลอดภัยที่น่าพึงพอใจ นอกจากปัญหาเล็กๆน้อยๆ นั่นเป็นเพราะว่าฟังก์ชั่นการใช้งานที่จำกัด และไม่มีช่องทางที่อันตรายที่สามารถทำให้เกิดการโจมตีได้อย่างสำเร็จผ่านทางผลิตภัณฑ์เหล่านี้ ป็นเพราะผู้ผลิตให้ความระมัดระวังในการผลิต ซึ่งภาพรวมถือเป็นสัญญาณที่ดีในอุตสาหกรรมยานยนต์ แต่ก็ยังวางใจไม่ได้ เพราะจากประสบการณ์อุปกรณ์หากยิ่งมีความอัจฉริยะมากขึ้นก็จะมีโอกาสเกิดปัญหาด้านความปลอดภัยสูงขึ้นตามไปด้วย 

อย่างไรก็ตามเพื่อเพิ่มความปลอดภัยของอุปกรณ์มากยิ่งขึ้นทาง Kaspersky ขอแนะนำว่า 1.เมื่อเลือกอุปกรณ์ที่เพิ่มความชาญฉลาดให้กับการใช้รถ อันดับแรกต้องคำนึงถึงความเสี่ยงด้านความปลอดภัย คิดให้รอบคอบหากต้องใช้อุปกรณ์บางอย่างที่ใช้กับส่วนที่เรียกว่าสมองของรถ

2.ก่อนที่จะซื้ออุปกรณ์ ควรค้นหาข่าวเกี่ยวกับช่องโหว่ต่าง ๆ ต้องดูว่าอุปกรณ์ที่กำลังจะเลือกซื้อได้ผ่านการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยและค้นหาได้ว่ามีช่องโหว่ใดบ้างในอุปกรณ์นั้น หรือได้รับการติดตั้งแล้ว

3.การซื้ออุปกรณ์ตัวใหม่ล่าสุดถือว่าไม่ได้เป็นทางเลือกที่ดีเสมอไป ซึ่งมักจะมีข้อบกพร่องเบื้องต้นที่มักจะพบในอุปกรณ์ใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวในตลาด และอาจจะมีปัญหาด้านความปลอดภัยที่นักวิจัยยังไม่เคยค้นพบได้อีกด้วย ทางเลือกที่ดีคือซื้ออุปกรณ์ที่ได้รับการอัปเดตซอฟแวร์มาหลายครั้งแล้ว

4.ควรพึงระวังอยู่เสมอเกี่ยวกับความปลอดภัยของอุปกรณ์เคลื่อนที่ต่าง ๆ โดยเฉพาะอุปกรณ์ระบบแอนดรอยด์ ถึงแม้ว่าแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ จะมีประโยชน์และทำให้ชีวิตง่ายขึ้น แต่เมื่อมือถือได้รับมัลแวร์ก็จะเกิดอันตรายมากมายได้เช่นกัน

งานนี้ใครที่จะหาซื้ออุปกรณ์ หรือเทคโนโลยีอะไรที่จะมาช่วยเสริมความสะดวกสบายในการใช้รถยนต์ ก็พึงต้องตวจสอบอุปกรณ์ที่จะนำมาใช้ให้รอบคอบ คิดถึงเรื่องความปลอดภัยเป็นอันดับแรก