อุตสาหกรรมจับมือพันธมิตรทำโครงการจิตอาสาฯ แก้ปัญหาน้ำเสียคลองเปรมฯ

กระทรวงอุตฯ จับมือเอสซีจีและ กทม. ร่วมแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำคลองเปรมประชากร เพื่อเทิดพระเกียรติเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว

นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ตามที่ กระทรวงอุตสาหกรรมได้รับมอบหมายจากศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน (ศอญ.จอส.) ให้ร่วมบูรณาการพัฒนาคุณภาพน้ำในคลองเปรมประชากร เพื่อเทิดพระเกียรติเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 10) ซึ่งจากการตรวจวัดคุณภาพน้ำในคลองเปรมประชากรตลอดสายในกรุงเทพฯ พบว่า เขตดอนเมืองและหลักสี่เป็นพื้นที่ที่มีชุมชนอาศัยอย่างหนาแน่น และมีน้ำเน่าเสียมากที่สุด จึงทำโครงการฟื้นฟู โดยประสานความร่วมมือกับเอสซีจี ร่วมดำเนินการออกแบบและจัดทำระบบบำบัดน้ำเสียก่อนระบายน้ำลงคลองเปรมประชากร โดยทำการติดตั้งระบบบำบัดน้ำเสียที่ใช้ในครัวเรือนนำร่องอาคาร 8 แฟลตตำรวจ ทุ่งสองห้อง 2 ยูนิต ซึ่งมีประสิทธิภาพในการบำบัดน้ำเสียชุมชน

ทั้งนี้ เอสซีจี สนับสนุนถังดักไขมัน 185 ถัง ให้กับชุมชนที่พักอาศัยในแฟลตตำรวจ ตลอดจนบ้านเรือน และร้านอาหาร ที่อยู่ในพื้นที่เขตหลักสี่และเขตดอนเมือง เพื่อช่วยแก้ปัญหาน้ำเสียตั้งแต่ต้นทาง รวมถึงติดตั้งนวัตกรรมทุ่นกักขยะลอยน้ำ 4 ชุด มอบให้เขตหลักสี่และเขตดอนเมือง เพื่อช่วยลดปริมาณขยะตกค้างที่นอกจากจะทำให้การสัญจรทางน้ำสะดวกขึ้นแล้ว และยังช่วยป้องกันปัญหาระบบระบายน้ำขนาดใหญ่ขัดข้อง นับเป็นครั้งแรกที่ติดตั้งทุ่นกักขยะในคลอง โดยสามารถเคลื่อนย้ายไปติดตั้งบริเวณอื่นได้ นอกจากนี้ ยังจัดกิจกรรมจิตอาสากับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในพื้นที่  200 คน เพื่อสร้างจิตสำนึกและการมีส่วนร่วมกับในการรักษาสิ่งแวดล้อม ขยายผลร่วมมือในใจคนให้เกิดความยั่งยืนของการฟื้นฟูคลองเปรมประชากร

นายยุทธนา เจียมตระการ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่-การบริหารกลาง เอสซีจี กล่าวเพิ่มเติมว่า เอสซีจีรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรมในโครงการ “จิตอาสาสำรวจ ออกแบบจัดหาและติดตั้งชุดกรองน้ำเสียในคลองเปรมประชากร เฉลิมพระเกียรติฯ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 เพื่อพัฒนาคุณภาพน้ำในลำน้ำสาธารณะ และลุ่มน้ำสายหลักของประเทศ การสนับสนุนครั้งนี้เป็นการแก้ปัญหาเสีย และเป็นโครงการต้นแบบในการทดลองแก้ไขปัญหาน้ำเน่าเสียในเขตชุมชนเมืองในบริเวณที่มีอาคารบ้านเรือนพักอาศัยติดกับลำน้ำสาธารณะ 

 ทั้งนี้ เอสซีจีได้สนับสนุน 1. ชุดบำบัดน้ำเสียจากครัวเรือน ได้แก่ ถังดักไขมัน นวัตกรรมแบบดีไอวาย ที่เอสซีจีพัฒนาขึ้น โดยถังบำบัดน้ำเสีย 1 ถัง จะสามารถบำบัดน้ำเสียได้ถึง 600 ลิตรต่อวัน  ทั้งยังมีขนาดเล็ก จึงติดตั้งและดูแลรักษาได้ง่าย และสามารถเชื่อมต่อกับบ่อเกรอะ และบ่อพักน้ำเสียของอาคาร  2. นวัตกรรมทุ่นกักขยะลอยน้ำ HDPE-Bone จากเอสซีจี เพื่อลดปัญหาขยะในแม่น้ำลำคลอง ทำหน้าที่เป็นทุ่นกักขยะ สามารถรองรับขยะได้สูงสุด 700 กิโลกรัม  3. สนับสนุนการปรับปรุงภูมิทัศน์ บริเวณแฟลตตำรวจทุ่งสองห้อง เพื่อความสวยงาม และปลอดภัยให้แก่ผู้อยู่อาศัย โดยใช้ผลิตภัณฑ์ขอบคันหิน (Curb Stone) ซึ่งผลิตจากวัสดุเหลือใช้จากกระบวนการผลิต ตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน ในเรื่องการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า 

สำหรับคลองเปรมประชากรมีความยาวกว่า 50 กิโลเมตร ไหลผ่านจังหวัดกรุงเทพฯ ปทุมธานี และพระนครศรีอยุธยา ทั้งนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมได้ดำเนินกิจกรรมจิตอาสาเพื่อพัฒนาคุณภาพน้ำในลำน้ำและลุ่มน้ำสายหลักของประเทศ ดำเนินการแล้วเสร็จ 2 โครงการ ได้แก่ คลองเปรมประชากร มีโรงงานบริเวณโดยรอบคลองดังกล่าว 104 โรง และ 1 นิคมอุตสาหกรรม ซึ่งมีระบบบำบัดน้ำเสียอยู่ และมีโรงงานที่ระบายน้ำทิ้งลงคลองฯ เพียง 23 โรงเท่านั้น ส่วนคลองอู่ตะเภา/ทะเลสาบสงขลา ได้ให้โรงงานทุกแห่งลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU) บำบัดน้ำก่อนปล่อยน้ำ การรณรงค์เข้าสู่อุตสาหกรรมสีเขียว (Green Industry) และการใช้น้ำตามหลัก 3 R (Reduce Reuse Recycle)

นายยุทธนา กล่าวว่า รวมทั้งการอบรมเครือข่ายเพื่อร่วมเฝ้าระวังคอยเป็นหูเป็นตาสอดส่องดูแล สำหรับในระยะต่อไปปี 2563-2564 กระทรวงฯ มีแผนดำเนินโครงการ ณ แม่น้ำท่าจีน ซึ่งมีโรงงานหลายแห่งตั้งอยู่ และคลองแสนแสบ ที่อยู่ใกล้กับนิคมอุตสาหกรรมบางชัน