“อุตตม” อ้ำอึ้ง กนง.ปรับลดจีดีพีปีนี้อาจโตไม่ถึง 3%

  • ขอประเมินผลมาตรการโดยรวมก่อน
  • ชี้ยังไม่มีการเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
  • สั่งสคร.เร่งเบิกจ่ายงบลงทุนสิ้นปีให้ถึง 80%

นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เปิดเผยกรณีคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)ปรับลดการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยปี 62 จากเดิม 3.3% ลงลดเหลือ 2.8% ว่า ขณะนี้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งระบบจำนวน 300,000 ล้านบาทเพิ่งเริ่มออกไปไป การที่จะบอกว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(จีดีพี)จะโตเท่าไหร่ต้องอาศัยองค์ประกอบหลายอย่าง ไม่ใช่ว่ามีมาตรการออกมาหลายชุดจะทำให้ตัวเลขดีขึ้น เนื่องจากเศรษฐกิจไทยต้องขึ้นอยู่กับการส่งออกด้วย และมาตรการที่ออกมานั้นเน้นกระตุ้นภายในประเทศ ดังนั้น จึงต้องช่วยกันประคองให้เศรษฐกิจไทยเดินหน้าต่อไปได้

“ถ้าเศรษฐกิจโลกเป็นแบบนี้ ต้องช่วยดันให้เศรษฐกิจภายในประเทศมีการหมุนเวียน ส่วนตัวเลขสุดท้ายของจีดีพีจะเป็นอย่างไรคงต้องรอให้หน่วยงานต่างๆ ประเมินผลการทำงานก่อน ส่วนเป้าหมายเติบโต 3% นั้นเป็นตัวเลขที่สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) ประเมินไว้ ซึ่งเป็นตัวเลขเป้าหมาย แต่ต้องรอดูว่าผลจากมาตรการออกมาเป็นอย่างไร มีการจับจ่ายใช้สอยเกิดขึ้นหรือไม่”

ทั้งนี้ในการตรวจเยี่ยม นายอุตตม ได้ให้นโยบายกับสคร. ว่า ได้สั่งการให้สคร.หารือกับหน่วยงานรัฐวิสาหกิจต่างๆ ว่าแต่ละหน่วยงานมีโครงการลงทุนอะไรบ้างที่จะร่วมกับภาคเอกชน เนื่องจากตอนนี้โครงการลงทุนที่มีผลต่อระบบเศรษฐกิจของรัฐวิสาหกิจจำนวน 55 แห่ง มูลค่ารวมประมาณ 255,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นโครงการที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจและโครงสร้างพื้นฐานเกินกว่า 50% อย่างไรก็ตามขณะนี้มีโครงการด้านสังคมเพิ่มเข้ามา จึงอยากให้สคร.ไปดูด้วยว่ามีหน่วยงานใดสนใจลงทุนในโครงการเกี่ยวกับสังคมในรูปแบบการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน(พีพีพี)เพิ่มเติมหรือไม่ 

นอกจากนี้อยากให้สคร.เร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนในรัฐวิสาหกิจ เพื่อให้เม็ดเงินลงสู่ระบบเศรษฐกิจโดยเร็ว โดยเฉพาะรัฐวิสาหกิจที่มีการลงทุนจำนวนมาก ส่วนโครงการใดที่มีการเปลี่ยนแปลง เช่น ไม่ลงทุนต่อหรือมีความล่าช้า เป็นต้น ต้องหาโครงการอื่นมาทดแทนการลงทุน โดยสคร.อาจจะแก้ไขระเบียบบางอย่างเพื่อให้รัฐวิสาหกิจเปลี่ยนแผนการลงทุนได้ง่ายขึ้น เช่น การกำหนดกรอบการปรับเปลี่ยนการลงทุนได้เอง เป็นต้น

“สำหรับเป้าหมายการเบิกจ่ายปีนี้อยู่ที่ 360,000 ล้านบาท โดยปัจจุบันเบิกจ่ายไปแล้ว 47% หรือคิดเป็น 107,000 ล้านบาท โดยคาดว่าจะเบิกจ่ายภายในเดือน ธ.ค.2562 ได้ถึง 80% ตามเป้าหมายที่วางไว้  ส่วนงบค้างท่อนั้นมีมากพอสมควร ซึ่งสคร.จะต้องกลับไปดูเพื่อเร่งเบิกจ่ายให้หมด”