- ประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศ
- ก่อนเคาะมาตรการใหม่
นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้ไม่ขอพูดเรื่องกระแสทางการเมืองที่มีความวุ่นวายภายในพรรคพลังประชารัฐ โดยในวันที่ 8 มิ.ย.2563 เวลา 13.00 น. จะมีการประชุมหน่วยงานด้านเศรษฐกิจ โดยมีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ อาทิ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) เป็นต้น
ทั้งนี้เพื่อติดตามผลของมาตรการทางเศรษฐกิจของไทย และประเมินสถานการณ์ทางด้านเศรษฐกิจ เช่น ผลการจัดเก็บภาษีของหน่วยงานต่างๆ เป็นต้น ส่วนจะมีมาตรการใหม่ออกมาหรือไม่นั้นกำลังดูอยู่ แต่ทุกอย่างต้องประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจก่อน จึงจะสรุปได้ว่าจะออกมาตรการแบบใด
“ตอนนี้ถือว่ามาตรการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ที่ออกมาทำได้ดีแล้ว แต่ในด้านเศรษฐกิจยังถือว่ามีความท้าทายอยู่ โดยเฉพาะเศรษฐกิจไทยที่ยึดโยงกับเศรษฐกิจโลก เนื่องจากตอนนี้เศรษฐกิจโลกยังมีปัจจัยเสี่ยง ในเรื่องการท่องเที่ยว หรือสถานการณ์โควิด-19 ที่ไม่รู้ว่าสถานการณ์จะคลี่คลายได้เร็วแค่ไหน เช่น จะมีวัคซีนรักษาโควิด-19 ออกมาเมื่อไหร่ เป็นต้น”
อย่างไรก็ตามประเทศไทยไม่สามารถรอจนกว่าจะมีวัคซีนป้องกันโควิด-19 ได้ จึงต้องเร่งออกมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ซึ่งปัจจุบันมีแผนงานฟื้นฟูออกมาแล้ว ในวงเงินงบประมาณ 400,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินกู้จากพระราชกำหนด(พ.ร.ก.) 1 ล้านล้านบาท และถือว่าไม่ได้เป็นการเร่งใช้งบประมาณให้หมดไปอย่างรวดเร็วจนเกินเหตุ
“งบประมาณที่รัฐบาลมีอยู่ เพียงพอใช้ในดูแลเศรษฐกิจในระยะยาว แต่ทั้งนี้รัฐบาลจะต้องดูแลเรื่องแผนงานให้ดี โดยแผนงานที่ออกมาต้องเกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่ใส่ลงไปในระบบเศรษฐกิจด้วย”
